กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--ริชี่เพลซ 2002
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สุดยอดทำเลทุกโครงการ" เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีความเปราะบางด้วยปัญหาเศรษฐกิจ และการเมืองในปีนี้ ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นสภาพตลาดที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ บนทำเลศักยภาพที่แนวโน้มมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา โดยริชี่เพลซ 2002 พร้อมเปิดตัวโครงการ เดอะริชเอกมัย มูลค่าโครงการกว่า 3,400 ล้านบาท ใจกลางสุขุมวิท-เอกมัย ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเอกมัย ติดห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยยึดสโลแกน คอนโดมิเนียมสุดยอดทำเล คุณภาพระดับไฮเอนด์ในราคาที่คุณสัมผัสได้ ชี้จุดเด่น ภายใต้แนวคิด Intensify Your Passion พร้อมหนุนผลงานปี 62 ทุบสถิตินิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ โครงการ The Rich Ekkamai ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย (สุขุมวิท63) คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา มีพื้นที่โครงการรวมประมาณ 2 ไร่ พัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 487 ยูนิต ซึ่งประกอบด้วยห้องพัก 487 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต และมียูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต แบบห้องแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28-32 ตร.ม.,แบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 34-36 ตร.ม. และแบบ 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ 51 – 60 ตร.ม. รวมจุดแข็งในการดีไซน์พื้นทีใช้สอยและฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากขึ้น ภายใต้แนวคิด "Intensify Yours Passion" ซึ่งหัวใจหลักและคอนเซ็ปต์ของโครงการเน้นให้ความสำคัญแก่ "ผู้อยู่อาศัย" และ "Passion" โดยเป็นโครงการที่ให้มากกว่าคำว่าอยู่อาศัย โดยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อยู่อาศัย ผ่าน Active Facilities แบบครบครัน พร้อม Active Studio สระว่ายน้ำแบบ Vivid Spectrum pool ขนาดฮาล์ฟโอลิมปิก ชั้นตั้งอยู่บนสุดของอาคารให้สามารถเห็น Ekkamai View Point 360 องศา โดยตั้งราคาขายเปิดตัวมาแบบคนรุ่นใหม่สามารถเอื้อมถึงได้ง่ายๆ ด้วยราคาห้องเริ่มต้นเพียง 4.79 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมาย จะเน้นเจาะลูกค้าระดับบนทั้งคนไทย ต่างชาติ และเน้นที่ลูกค้าวัยทำงาน และรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อ เพื่อการลงทุนอีกด้วย
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า " บริษัทฯมั่นใจว่าโครงการ "เดอะริช เอกมัย" จะได้รับความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะอยู่ในทำเลที่ดี สะดวกสบายเหมาะกับสังคมเมืองในยุคปัจจุบัน ซึ่งเมื่อเปิดพรีเซลแล้วคาดว่าจะเป็นอีกโครงการที่ประสบความสำเร็จและช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯมีรายได้เติบโตมั่นคงอย่างยั่งยืน"
ซึ่งข้อมูลจากฝ่ายวิจัย CBRE พบว่าภาพใหญ่ในทำเลสุขุมวิทยังคงเป็นโซนที่เป็นที่นิยมที่สุดในกรุงเทพฯ โดยในปี 2018 มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวกว่า 6,500 ยูนิต จาก 21 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับ high-end และ luxury และมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 260,000 บาทต่อตารางเมตรในโครงการที่เปิดใหม่ ตลาดคอนโดมิเนียมในเส้นสุขุมวิทนั้นมีการขยายตัวออกไปตามเส้นบีทีเอสอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมในย่านเอกมัยมีจำนวนยูนิตจากโครงการที่เปิดใหม่และกำลังก่อสร้างอยู่ประมาณ 3,800 ยูนิต จาก 8 โครงการ เป็นรองเพียงแค่โซนทองหล่อ และขายไปแล้วประมาณ 65% โซนเอกมัยได้รับความสนใจมากขึ้นเนื่องจากพื้นที่ในโซนทองหล่อเริ่มเหลือน้อยและมีราคาแพง โดยราคาเฉลี่ยในโซนทองหล่อ อยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทต่อตารางเมตร ประกอบกับเอกมัยเป็นถนนเส้นสำคัญใจกลางเมืองที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทตอนกลาง ใกล้ย่านพร้อมพงษ์ ทองหล่อและอโศก และอีกด้านหนึ่งของถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และถนนพระรามเก้า และด้วยราคาคอนโดมิเนียมในเอกมัยยังอยู่ในระดับที่ถือว่าไม่แพงหากเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียงเช่นทองหล่อ
โดยโครงการในเอกมัยมีราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 185,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้ทำเลเอกมัยเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ในเมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ใจกลางสุขุมวิทเพียงไม่ถึง 500 เมตร มีการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานเกรดA และศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เอกมัยในปัจจุบันมีความหลากหลายและครบครันมากกว่าแต่ก่อน
นอกจากนี้ ถ้าเราดูตามอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาคอนโดมิเนียมในตลาด คาดว่าอีกไม่นานราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในเอกมัยจะสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรอย่างแน่นอน ราคาที่ The Rich Ekkamai เปิดตัวออกมานั้นจึงเป็นราคาที่เหมาะสมมากสำหรับโซนสุขุมวิท และด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในช่วงเอกมัยตอนต้น ซึ่งห่างจาก BTS เอกมัยไม่มาก ทำให้ The Rich Ekkamai ได้เปรียบกว่าโครงการอื่นๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในเอกมัย
"โดยในวันที่ 13 มีนาคม 2562 นี้ บริษัทฯ พร้อมเอาใจลูกค้าทุกท่านเปิดชมห้องตัวอย่างให้ลูกค้าได้เข้าชม โดยเปิดรับจองสิทธิ์ รันคิว ให้ลูกค้าที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์เอาไว้ ได้เลือกห้องสำหรับเปิดขายวัน VVIP Day ใครจองสิทธิ์ก่อน ได้มีโอกาสเลือกห้องก่อน พร้อมโปรพิเศษสุดเฉพาะลูกค้าที่จองภายในวัน VVIP Day เท่านั้น" ดร.อาภากล่าวในที่สุด
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในงวดปี 2561 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 451.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 239.32% หรือเติบโต 2 เท่าจากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 132.92 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 2,708.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,381.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 104.10% เมื่อเทียบกับปีก่อนรายได้รวมอยู่ที่ 1,327.13 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตในครั้งนี้มาจากการโอนรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น จำนวน 1,366.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 103.97% โดยบริษัทฯมีรายได้จากการขายอาคารชุด มูลค่ารวม 2,663.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,407.24 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น111.99 %จากปีก่อน เนื่องจากโครงการริชพาร์ค@ ทริปเปิ้ลสเตชั่น สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถโอนรับรู้รายได้ในปี 2561 ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้หลักมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ