กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--ดอยตุง
กว่า 30 ปีแล้วที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เข้ามาดำเนินโครงการพัฒนาดอยตุงพื้นที่ทรงงานในพระราชดำริ เปลี่ยนภูเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นป่าเขียว เปลี่ยนความสิ้นหวังให้เป็นกำลังใจ เปลี่ยนชาวบ้านจากการทำไร่เลื่อนลอย การปลูกฝิ่น เป็นเจ้าของธุรกิจ
กาแฟคือผลผลิตจากป่าเศรษฐกิจ ผ่านความทุ่มเทของชุมชนในการดูแลต้น การตัดแต่งกิ่ง จนถึงการคัดสรรผลกาแฟที่สุกที่สุดมาเข้ากระบวนการแปรรูป ส่งผลให้กาแฟดอยตุงมีรสหวาน มีกลิ่นหอม
ในปีนี้ดอยตุงได้นำกาแฟสายพันธุ์พิเศษ 3 สายพันธุ์มาให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสลิ้มลองกันได้แก่สายพันธุ์ ทิปิกา (Typica) กาโย (Gayo) และจาวา (Java)
Typica "ทิปิกา" ซึ่งได้นำเมล็ดมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก (ดอยมูเซอ) จังหวัดตาก มาปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,420 เมตร ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Fully washed นับตั้งแต่เก็บเมล็ดเชอรี่สุกซึ่งจะทำให้ได้รสชาติกาแฟที่ดื่มแล้วรู้สึกถึงความหอมสะอาดๆ ได้กลิ่นจัสมิน และได้อารมณ์แบบ Black Tea จาง ๆ ในลำคอ
Gayo "กาโย" ซึ่งได้นำเมล็ดมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจากประเทศอินโดนีเซีย ปลูกบนพื้นที่สูงระดับน้ำทะเล 1,380 เมตร ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Fully washed นับตั้งแต่เก็บเมล็ด มาจนถึงคั่วจนได้รสชาติกาแฟแปลกใหม่แบบผลไม้ให้อารมณ์ฮันนี ไลค์และเชอร์รี่สุก ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน
Java "จาวา" ที่ต้นทางเป็นพันธุ์จากประเทศอินโดนีเซียนำเมล็ดมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์(เขาค้อ) จังหวัดเพชรบูรณ์ เพาะปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,420 เมตร ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Honey หรือการคงไว้ซึ่งเมือกของเมล็ดเชอรี่ เพื่อเพิ่มความหวานในเมล็ดกาแฟ กาแฟที่ได้จะมีรสชาติแบบผลไม้สุกฉ่ำ หวานละมุนครีมมี่ในป่า มีกลิ่นอายถั่วคั่วและคาราเมล ทำให้มีรสชาติซับซ้อนชวนค้นหา
ผู้สนใจสามารถมาพบกับพวกเราชาวดอยตุงได้ในงาน Thailand Coffee Fest 2019 ที่บูธ F16 Impact Exhibition Hall 5-6 ตั้งแต่วันที่ 14-17 มีนาคม 2562