กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีสังเกตอาการและอันตรายจาก การใช้รถโช๊คอัพชำรุด โดยรถที่โช๊คอัพชำรุดหรือเสื่อมสภาพ รถจะมีอาการร่อน เกิดอาการโคลงเคลงผิดปกติ ดอกยางสึกไม่เท่ากัน ห้องโดยสารสั่นสะเทือนผิดปกติ การคืนตัวและรูปทรงของโช๊คอัพผิดปกติ มีรอยน้ำมันรั่วออกจากกระบอกโช๊คและโช๊คอัพไม่มีความร้อน สำหรับอันตรายจากการใช้รถที่โช๊คอัพชำรุดหรือเสื่อมสภาพ ทำให้ยางรถยนต์สึกหรอเพิ่มขึ้น ระยะในการเบรกเพิ่มขึ้น รถเกิดอาการเหินน้ำเพิ่มขึ้น รถวิ่งไม่นุ่มนวลและเกิดอาการกระแทกอย่างรุนแรง รถเสียการทรงตัวได้ง่าย ข้อควรปฏิบัติ เพื่อป้องกันโช๊คอัพเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด ให้หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านเส้นทางที่ขรุขระหรือเป็นหลุมบ่อ เมื่อขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ควรนำรถไปฉีดล้างใต้ท้องรถ รวมถึงห้ามใช้ผ้าหรือฟองน้ำทำความสะอาดบริเวณโช๊คอัพ เพราะอาจทำให้ โช๊คอัพเป็นรอย และเกิดการรั่วได้ง่าย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า โช๊คอัพเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรองรับแรงกระแทก แรงสั่นสะเทือน และเป็นตัวช่วยหน่วงการเคลื่อนที่ขึ้นหรือลงของรถยนต์ หากโช๊คอัพชำรุดหรือเสื่อมสภาพ จะส่งผลต่อการทรงตัวของรถ โดยเฉพาะขณะขับรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีสังเกตอาการและอันตรายจากการใช้รถที่โช๊คอัพชำรุดหรือเสื่อมสภาพ ดังนี้ อาการของรถที่โช๊คอัพชำรุดหรือเสื่อมสภาพ รถเกิดอาการร่อน เมื่อขับด้วยความเร็วสูง ทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย รถเกิดอาการโคลงเคลงผิดปกติหน้ารถเชิดขึ้นขณะออกตัว หรือหน้ารถทิ่มลงมากในขณะหยุดรถ ดอกยางสึกไม่เท่ากัน หน้ายางสึกหรอผิดปกติ สึกไม่เท่ากัน หรือเป็นบั้งห้องโดยสารสั่นสะเทือนผิดปกติ รถมีอาการโคลงเคลง สั่นสะเทือนหรือแข็งกระด้าง และไม่นิ่มนวล การคืนตัวของโช๊คอัพ เมื่อกดบริเวณฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย รถมีอาการเด้งขึ้น – ลงหลายครั้ง รูปทรงโช๊คอัพ มีลักษณะบิดเบี้ยว คด งอ หรือผิดรูป มีรอยน้ำมันรั่วจากกระบอกโช๊คอัพ โดยบริเวณ ซีลของโช๊คอัพมีรอยน้ำมันรั่วหรือซึมออกมา โช๊คอัพไม่มีความร้อน เมื่อใช้มือสัมผัสโช๊คอัพภายหลังการใช้รถ พบว่าโช๊คอัพ มีอุณหภูมิปกติ อันตรายจากการใช้รถที่โช๊คอัพชำรุดหรือเสื่อมสภาพ ยางรถยนต์สึกหรอเพิ่มขึ้น โดยยางจะสึกในลักษณะเป็นหลุมลึก เป็นช่วงๆ เนื่องจากหน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนไม่เต็มหน้า ระยะในการเบรกเพิ่มขึ้น หากโช๊คอัพชำรุดเพียงด้านใดด้านหนึ่ง จะส่งผลให้ มีระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น 2.6 เมตร ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รถเกิดอาการเหินน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่เปียกลื่นหรือในขณะฝนตก ทำให้ควบคุมรถได้ยากและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากรถเหินน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 รถเกิดอาการวืดเมื่อขับลงสะพานด้วยความเร็วสูงเนื่องจากเมื่อโช๊คอัพชำรุดจะมีฟองอากาศเกิดขึ้นภายในขณะที่แกนโช๊คอัพยืดหรือหดตัว ทำให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารรู้สึกหวิวท้อง รถวิ่งไม่นุ่มนวลและเกิดการกระแทกอย่างแรง เนื่องจากเมื่อโช๊คอัพแตกหรือรั่วซึมจะไม่สามารถหน่วงการยึดหรือยุบตัวของสปริงได้ เมื่อรถทับก้อนกรวดหรือตกหลุม สปริงจะมีการยุบและยืดตัวอย่างเต็มที่ ทำให้ช่วงล่างของรถกระแทกกับพื้นถนน รถเสียการทรงตัวได้ง่าย เนื่องจากโช๊คอัพไม่สามารถควบคุมสปริง ทำให้ระบบรองรับน้ำหนักของรถยนต์ลอยจากพื้นถนน โดยเฉพาะหากขับรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้รถเสียการทรงตัวหรือหลุดโค้งได้ ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันโช๊คอัพเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านเส้นทางขรุขระหรือเป็นหลุมบ่อ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรขับรถให้ช้ากว่าปกติ เพื่อลดแรงกระแทกที่ส่งผลให้โช๊คอัพเกิดการรั่ว เมื่อขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมหรือขับรถลุยโคลน ควรนำรถไปฉีดล้างใต้ท้องรถ เพราะอาจมีเศษวัสดุ กรวด หรือทรายติดบริเวณซุ้มล้อรถหรือแกนโช๊คอัพ ทำให้เกิดการเสียดสีขณะโช๊คอัพทำงาน ห้ามใช้ผ้าหรือฟองน้ำทำความสะอาดบริเวณโช๊คอัพ เพราะอาจทำให้โช๊คอัพเป็นรอย และเกิดการรั่วไหลได้ง่าย ทั้งนี้ โช๊คอัพมีอายุการใช้งานไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร หรือระยะเวลา 5 ปี เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกใช้โช๊คอัพที่มีระบบและ ขนาดที่เหมาะสมกับลักษณะของรถแต่ละรุ่น โดยเปลี่ยนพร้อมกันทั้ง 2 ด้าน และไม่ควรดัดแปลงโช๊คอัพอย่างเด็ดขาด เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้