กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ไพรซ์ซ่า อินไซต์
ตลาดออนไลน์คึกคัก Priceza หนุนผู้ประกอบการ เพิ่ม "Priceza Insights" (https://www.priceza.com/insights/) แหล่งรวบรวมข้อมูลเชิงลึก อินไซต์ของวงการอีคอมเมิร์ซ ยกระดับธุรกิจก่อนลงสนามสู้ศึกอีคอมเมิร์ซ 2019 ตั้งเป้าเป็นอีคอมเมิร์ซ ฮับ ในประเทศ จากยอดผู้เยี่ยมชมเว็บกว่า 12 ล้านครั้งต่อเดือน
นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "Priceza" (ไพรซ์ซ่า) เครื่องมือค้นหาสินค้าและบริการเปรียบเทียบ (Shopping Search Engine) อันดับหนึ่งของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นสื่อกลางให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ นำสินค้าชนิดเดียวกันมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เปิดให้บริการทั้งรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน 6 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านคนต่อเดือน และมีจำนวนการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์กว่า 12 ล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งล่าสุดได้เพิ่ม Priceza Insights (ไพรซ์ซ่า อินไซต์) เว็บเพจใหม่ในเว็บ Priceza.com เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการ รวมถึงเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
"เราตั้งเป้าให้ Priceza Insights เป็น E-Commerce Hub ในประเทศไทย เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้ประโยชน์จากการนำข้อมูลในเว็บไซต์มาปรับใช้เตรียมความพร้อมสู้ศึกอีคอมเมิร์ซ 2019 อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซนอกจากการรู้จุดแข็งของธุรกิจแล้ว ต้องรู้จักลูกค้า เข้าใจตลาด และเทรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่ง Priceza Insights ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกของวงการอีคอมเมิร์ซ เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจให้สามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นายธนาวัฒน์ กล่าว
ความโดดเด่นของ Priceza Insights นอกจากรวบรวมความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซ การค้าขายออนไลน์ รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดแล้ว ยังได้รวบรวมคำค้นหายอดนิยม สินค้ายอดนิยม ร้านค้ายอดนิยม และระดับราคาที่ลูกค้าพึงพอใจ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำข้อมูลไปใช้ในการทำแคมเปญส่งเสริมการตลาด ให้เกิดยอดขายในช่วงนั้นๆ สูงขึ้น โดยผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้และพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างมีประสิทธิภาพ
"Priceza Insights เก็บฐานข้อมูลสถิติเชิงลึกจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Priceza โดยนำมาวิเคราะห์และนำเสนอให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างบทความไฮไลต์ เรื่องความนิยมและความต้องการของตลาด E-Commerce ปี 2019 จากปัญหาการเกิดมลภาวะทางอากาศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการป้องกันตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นที่นิยมและต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในเทรนด์ อย่างหน้ากาก N95 และเครื่องฟอกอากาศ รวมถึงพบว่าราคาเครื่องฟอกอากาศช่วงราคาที่ขายดีที่สุดคือ ราคาไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่งสินค้านี้มียอดคลิกค้นหาเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมกราคม 2562 จากเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึง 40 เท่า สัมพันธ์กับยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่า สร้างรายได้ให้กับร้านค้าอีคอมเมิร์ซรวมกว่า 1.2 ล้านบาท" นายธนาวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
สุดท้ายแล้วผู้ประกอบการที่ปรับตัวเองอยู่เสมอ จากการหาข้อมูลที่เหมาะสมและเชื่อถือได้ จะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซ หรือการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความมั่นใจในการซื้อสินค้าและบริการ พร้อมชำระเงินในรูปแบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์การแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซมีความดุเดือด และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในรูปแบบการซื้อสินค้าระหว่างผู้ผลิต เจ้าของสินค้า และผู้จัดจำหน่าย เว็บไซต์ศูนย์รวมสินค้า หรือมาร์เก็ตเพลส E-Tailer และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกันอย่างคึกคัก ดังนั้นผู้ประกอบการสามารถเตรียมความพร้อมก่อนใครๆ กับ Priceza Insights ได้ที่ https://www.priceza.com/insights/
เกี่ยวกับบริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด
ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดยนายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา และกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีก 2 คน ได้แก่ นายวัชระ นิวาตพันธุ์ และนายวิโรจน์ สุภาดุลย์โดยมองเห็นอนาคตการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงได้พัฒนาเครื่องมือค้นหาสินค้า การบริการเปรียบเทียบข้อมูลและราคาสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ ปัจจุบัน เปิดให้บริการทั้งรูปแบบเว็บไซต์(www.priceza.com) และแอปพลิเคชันใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม