กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ประโยชน์และความเสี่ยงจากการลงทุนในโครงการพื้นฐานของประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ได้มีการนำเสนอโดยผู้ร่วมบรรยายในงานสัมนาของ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่จัดขึ้นในวันนี้ในหัวข้อเรื่อง "แนวโน้มของเศรษฐกิจและการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยหลังเลือกตั้ง"
ในการบรรยายของคุณบุรินทร์ อดุลวัฒนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ทีมเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะยังคงเติบโตได้ที่ระดับ 3.8% ในปี 2562 แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัว อย่างไรก็ตามความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น จากปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องมาจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ประเทศไทยน่าจะดำเนินการลงทุนในระดับสูงเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาวะทางการเมืองในประเทศอาจจะยังมีความไม่แน่นอนหลังจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเพิ่มศักภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะปานกลาง
คุณโอบบุญ ถิรจิต ผู้อำนวยการฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคอุตสาหกรรมของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะในระบบขนส่งมวลชนทางราง (rail mass transit) ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยประเทศไทยมีระยะทางของระบบการส่งมวลชนทางรางเฉลี่ยที่ประมาณ 10 กิโลเมตรต่อประชากร 1 ล้านคน สำหรับกรุงเทพฯ ในขณะที่ประเทศสิงค์โปร์มีระยะทางเฉลี่ยที่ประมาณ 30 กิโลเมตรและกรุงกัวลาลัมเปอร์มีระยะทางเฉลี่ยที่ประมาณ 50 กิโลเมตร ฟิทช์คาดว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งในระบบการขนส่งมวลชน ระบบขนส่งทางราง ระบบขนส่งทางถนน สนามบิน และท่าเรือ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยลดความแตกต่างดังกล่าวให้น้อยลง
คุณวินเซนต์ มิลตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เป็นผู้กล่าวเปิดงานสัมนาในครั้งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100 คน ซึ่งเป็นผู้บริหารด้านการเงินจากบริษัทในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและภาคธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันภัย บริษัทจัดการกองทุน เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐ และยังได้กล่าวว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นปัจจัยถ่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ราบรื่นน่าจะช่วยสนับสนุนแนวโน้มการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยให้ตลาดทุนของประเทศไทยมีการพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีต่อไป
ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ และสกุลเงินในประเทศระยะยาว ของประเทศไทยที่ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561