กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงาน 4 จังหวัดภาคเหนือคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีส้ม) สนับสนุนกำลังจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลจากศูนย์ ปภ.เขต ในพื้นที่ภาคเหนือเร่งแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนจากมลพิษทางอากาศ รวมถึงประสานการปฏิบัติป้องกันและควบคุมปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างต่อเนื่อง มุ่งดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาวัสดุทุกชนิด แนะประชาชนหลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน และใช้หน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก ป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 05.00 น. พบว่า มีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 รวม 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย (ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย)เชียงใหม่ (ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่) แม่ฮ่องสอน (ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน) น่าน (ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ) โดยสถานการณ์ในภาพรวมมีค่า PM2.5 ระหว่าง 54– 159 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 76 – 198 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 109 - 269
ซึ่งคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีส้ม) โดยมีจังหวัดที่คุณภาพอากาศระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง ) ได้แก่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปางและเขต 15 เชียงราย พร้อมระดมเครื่องจักรกลสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงประสานการปฏิบัติป้องกันและควบคุมปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้ประสานจังหวัดดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบจุดไฟเผา ในส่วนของพื้นที่เกษตรกรรมได้กำหนดช่วงเวลาและจัดระเบียบการเผา ประกาศเขตห้ามเผา ส่งเสริมการจัดทำแนวกันไฟ และรณรงค์การไถกลบแทนการเผา อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่ให้รุนแรงมากขึ้น สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป