กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ "DITP" กระทรวงพาณิชย์ บูรณาการร่วมกันระหว่าง กระทรวงวัฒนธรรม และกรมการท่องเที่ยว เผยผลสำเร็จหลังนำคณะผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิงจำนวน 22 บริษัท เข้าร่วมงาน Hong Kong International Film & TV Market 2019 (FILMART) ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 18 – 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับด้วยดีจากบรรดานักลงทุน ผู้สร้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชีย ทั้งในด้านของการทำ Co-Production การเป็นพันธมิตรทางการค้าเพื่อเป็นตัวแทนซื้อขายภาพยนตร์ และการส่งต่องานด้าน Post Production ให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิต สร้างประมาณมูลค่าเจรจาการค้ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท จากจำนวนการเจรจา 558 คู่ธุรกิจ
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังนำคณะผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจบันเทิงเดินทางไปเจรจาการค้าในงาน Hong Kong International Film & TV Market 2019 (FILMART) ณ เมืองฮ่องกง ที่ผ่านมา ปีนี้ประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งจากบรรดานักลงทุน ผู้สร้าง ในธุรกิจบันเทิงกลุ่มตลาดเชียเป็นอย่างสูง เนื่องด้วยความพร้อมของประเทศไทยในหลายๆ ด้าน เช่น บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายด้านแรงงานอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ประกอบกับความแข็งแกร่ง ในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเราเองที่มีประสบการณ์และทำการตลาดร่วมกับกรมฯ มาอย่างยาวนาน พร้อมเดินทางไปเปิดตลาดการค้าที่สำคัญๆ ในหลากหลายภูมิภาค ทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือและการยอมรับในตลาดโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ภายในงานได้เกิดการลงนามสัญญาที่สำคัญ จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น จำกัด ได้ลงนามสัญญาเพื่อทำ Co-Production สร้างความร่วมมือกับ บริษัท Han Media (HK) Culture Company Limited จากเมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ผลิตซีรีย์เพื่อเผยแพร่ทั้งในไทย และจีน มูลค่าเจรจาการค้ากว่า 100 ล้านบาท และ บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด ลงนามสัญญา บริษัท AirSpeed Pictures จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง The Lake มูลค่าเจรจาการค้ากว่า 60 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัท วิชเทรน ประเทศไทย จำกัด ได้ลงนามสัญญากับบริษัทจากประเทศฝั่งยุโรป เพื่อจัดจำหน่ายสารคดี จำนวน 2 เรื่อง ไปยังทั่วโลก
นอกจากนี้ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด ได้เจรจาการค้ากับบริษัท Reality Distribution Field จากแคนาดา ตกลงเลือกสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย เพื่อเข้ามาถ่ายทำซีรีย์ภายหลังเสร็จสิ้นจากจบงาน FILMART ทันที ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการตัดสินใจเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย จากมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และด้วยมาตรฐานการทำงานในระดับสากลจึงทำให้ บริษัท กันตนา ซาวด์ สตูดิโอ จำกัด ได้รับ ความไว้วางใจจาก บริษัท CBM จากจีน เป็นบริษัทที่มีคอนเทนต์จากสถานีช่อง CCTV ทั่วโลก ซึ่งเป็นสถานีของจีนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เตรียมส่งงานจำนวนมากมาทำ Post Production ด้านเสียงในประเทศไทย บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด ได้เจรจาการค้ากับบริษัทแอนิเมชั่นจากเกาหลีใต้ เพื่อรับงาน Outsource และ บริษัท ซันเดย์ สทิล เวิร์คกิ้ง จำกัด ได้พบกับผู้ค้ารายใหม่ จากอินเดีย และฟิลิปปินส์ เปิดตลาดซื้อขายภาพยนตร์ไทยเป็นครั้งแรก
เป็นที่น่าจับตามองว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ แอนิเมชั่น โทรทัศน์ และสารคดีไทย เริ่มได้รับความสนใจจากประเทศคู่ค้ารายใหม่ นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการเปิดประตูการค้าจากภาครัฐและเอกชนไทย เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนเพิ่มขีดในการแข่งขันและความสำเร็จของธุรกิจบันเทิงไทยบนเวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน