DRT ตั้งเป้ารายได้โต 10% ลุ้นรัฐบาลใหม่กระตุ้นรากหญ้า

ข่าวทั่วไป Tuesday January 29, 2008 11:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ผู้บริหาร “กระเบื้องหลังคาตราเพชร” มั่นใจ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากขายในประเทศเป็นหลัก ขณะที่รัฐบาลใหม่มีแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าชัดเจน ส่งผลดีกับบริษัทฯ ตั้งเป้าปี’ 51 เติบโต 5- 10% ยันไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าแน่นอน เหตุไม่ต้องการผลักภาระให้ผู้บริโภค ด้านบทวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ชี้หุ้น DRT ปันผลโดดเด่นมาก และจะรักษายอดขายได้อย่างดี ประเมินราคาปีนี้อยู่ที่ 3.62 บาท
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาตราเพชร อะดามัส และเจียระไน เปิดเผยว่า เชื่อว่าความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยสินค้าของบริษัทฯ กว่า 90% เป็นการขายภายในประเทศให้กับผู้ใช้โดยตรงหมายถึงการขายผ่านร้านค้าผู้จำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ ในขณะที่ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่เกิดขึ้นก็ยังเป็นเรื่องที่ไกลตัวอยู่มาก จึงไม่ส่งผลต่อรายได้ของบริษัทฯ
“ในช่วงปีที่ผ่านมา DRT ถือว่าเติบโตได้ดี ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะผันผวน แต่บริษัทฯ ก็ยังสามารถรักษายอดขายรวมไว้ได้ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นตลาดภูมิภาค ซึ่งลูกค้ายังคงมีรายได้ที่ดีจากการขายสินค้าทางการเกษตร และเชื่อว่ากลุ่มตลาดนี้จะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนปัจจัยเรื่องการเมือง ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ เพราะว่ารัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่เป็นรัฐบาลที่มีมุมมองในกลุ่มรากหญ้าเป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดของบริษัทฯ อยู่แล้ว”
นายสาธิต กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ DRT เตรียมงบลงทุน 465 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบในการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพในการผลิต และขยายสายการผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนโครงการ และพิจารณาคุณสมบัติของเครื่องจักรที่จะซื้อใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2552 และจะสามารถเดินเครื่องได้ทันที ทั้งนี้เพื่อรองรับการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ
“ในปีนี้ DRT วางกลยุทธ์ที่จะขยายตลาดใหม่ไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 15% จากเดิม 10% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีโครงการที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกของลูกค้าด้วย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเจียระไน และในกลุ่มแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ทั้งนี้จะ
เน้นกระเบื้องหลังคาดีไซน์ใหม่ นอกจากรูปแบบเดิมที่เป็นกระเบื้องว่าว โดยที่การทำตลาดจะเจาะไปยังตลาดซ่อมแซมบ้านมากขึ้น” รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าว
นอกจากนี้ DRT เตรียมแผนที่จะขยายจุดจำหน่ายสินค้าไปยังห้างโมเดิร์นเทรด เช่น โฮมโปร โฮมเวิร์ค มากขึ้นด้วย ตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมเลือกวัสดุก่อสร้างด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันก็จะเสริมทีมการตลาด และทีมดีไซเนอร์ เพื่อขายผลิตภัณฑ์ให้กับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยตรงอีกด้วย
รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปี 2551 ประเมินว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยรายได้จะขยายตัวประมาณ 5-10% ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันและเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ จะไม่ปรับเพิ่มราคาสินค้า เนื่องจากไม่ต้องการผลักภาระให้ผู้บริโภค ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์แล้ว ยังพอรับภาระดังกล่าวได้ เพราะว่า บริษัทฯ ได้ปรับใช้ก๊าซเป็นพลังงานแทนการใช้น้ำมันดีเซล ทำให้บริษัทฯ ประหยัดต้นทุนการดำเนินงานลงได้มาก
“การทำธุรกิจของเราจะเน้นเศรษฐกิจพอเพียง ลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทฯ จะพยายามรักษาฐานการเงินให้มีความแข็งแกร่งตลอดเวลา เพราะหากเกิดวิกฤติรอบใหม่บริษัทฯ ก็ไม่เดือดร้อน” นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ได้จัดทำและเผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น DRT โดยระบุว่า DRT มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 2551 โดยปัจจัยบวกหลักยังมาจากการเลิกผลิตกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ของคู่แข่งรายส่งผลให้ DRT มีส่วนแบ่งตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการรวมในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยหลังปัญหาการเมืองคลี่คลาย นอกจากผลประกอบการที่ยังมีแนวโน้มดีแล้ว DRT ยังมีจุดเด่นเรื่องการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราที่สูง โดยคาดเงินปันผลจ่ายสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังปี 50 ที่ 0.14 บาท/หุ้น และ สำหรับปี 51 ที่ 0.28 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนถึง 10.4% จากราคาซื้อขายปัจจุบัน ขณะที่ประเมินราคาเป้าหมายโดยใช้ PE ของกลุ่มอุตสาหกรรม ได้ราคาเป้าหมายปี 2551 ที่ 3.62 บาท จึงแนะนำให้ “ซื้อลงทุน”
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: คุณวารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2643-1191 ต่อ 23 หรือ 08-1496-6762
e-mail : c_mastermind@hotmail.com,sun_manee@yahoo.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ