กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ช ทวี
CHO แจงปฏิบัติตามสัญญาของ ขสมก.ติดตั้งระบบ E-Ticket ครบทั้ง 2,600 คัน ส่วนเครื่องเก็บเงิน Cash Box ได้ติดตั้ง ไป 800 คัน เหตุ ขสมก. ได้แจ้งให้บริษัทฯ รอความชัดเจนก่อน เผยเร่งหารือที่ปรึกษาที่กฎหมายผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมเจรจายุติข้อพิพาททางสัญญา
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท ช ทวี ได้ทำสัญญาให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี มูลค่าโครงการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาท โดยจะต้องทำการติดตั้ง และส่งมอบงานตามสัญญาภายใน 360 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ลงนามนั้น
บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 บริษัทฯ ได้รับหนังสือเรื่องขอบอกเลิกสัญญาโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จาก ขสมก. มูลค่าโครงการที่บอกยกเลิกรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาทบาท โดยตามหนังสือเรื่องบอกเลิกดังกล่าวได้อ้างเหตุว่า บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา และทำการส่งมอบงานโครงการระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา จึงขอใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาดังกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามสัญญาโดยได้ติดตั้งระบบบัตรโดยสาร E-Ticket ครบตามจำนวน 2,600 คัน พร้อมทั้งเปิดใช้งานจริง ส่วนเครื่องเก็บเงิน Cash Box ได้ติดตั้งไปทั้งหมด จำนวน 800 คัน และ ขสมก. ได้แจ้งให้บริษัทฯ รอความชัดเจนในการติดตั้งเพิ่มให้ครบตามสัญญา และมีการนำไปใช้งานเฉพาะเครื่องอ่านบัตร E-Ticket อีกทั้ง ขสมก.ได้ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อขอหารือการแก้ไขสัญญาหรือบอกเลิกสัญญาบางส่วน โดยตัดเครื่องเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (Cash Box) ออกจากสัญญาทั้งหมดดังกล่าว
"ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการหารือคณะกรรมการบริษัท และผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนขอชี้แจงเหตุแห่งการนำมาใช้อ้างบอกเลิกสัญญาดังกล่าวกับ ขสมก. กับที่ปรึกษา ที่ปรึกษากฎหมายผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมเจรจายุติข้อพิพาททางสัญญาตลอดจนแนวทางการต่อสู้คดีต่อไป" นายสุรเดชกล่าว