กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท
ในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.80 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.68 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% ด้วยเสียงเอกฉันท์ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 300 ล้านบาท และ 2.6 พันล้านบาท ตามลำดับ ด้านดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับเยนแต่แข็งค่าเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับดอกเบี้ยตลอดปีนี้
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะจับตาประเด็น Brexit และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนต่อไป โดยตลาดยังวิตกต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกและเส้นอัตราผลตอบแทนลักษณะ Inverted ของพันธบัตรสหรัฐฯ หลังอัตราผลตอบแทนประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ทั้งนี้ เฟดประกาศแผนยุติการปรับลดขนาดงบดุล โดยระบุว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะหยุดโครงการที่ปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ในงบดุลของเฟดมีขนาดลดลงราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ผลการเลือกตั้งของไทยโดยรวมถือว่าไม่เหนือความคาดหมายของตลาดมากนักและน่าจะเป็นบวกต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายท่ามกลางภาพทางการเมืองที่ชัดเจนมากขึ้น โดยตลาดจะติดตามการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายด้านเศรษฐกิจในระยะถัดไป ส่วนกนง.ซึ่งมีมติ 7-0 ให้คงดอกเบี้ยนโยบายนั้น กนง.มองนโยบายการเงินยังเหมาะสมแต่ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2562 เหลือเติบโต 3.8% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.0% และปรับลดประมาณการส่งออกปีนี้เป็นขยายตัว 3.0% จากเดิม 3.8% ขณะที่คงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ไว้ที่ 1.0% ส่วนปี 2563 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.9% ส่งออกเติบโต 4.1% และเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.1% อนึ่ง มติที่เป็นเอกฉันท์ทำให้เราปรับมุมมองว่า กนง.จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ตลอดปีนี้ และหันไปดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินด้วยเครื่องมือที่หลากหลายมากขึ้น