กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
"ไอซีเว็กซ์" ICVex บริษัทในเครืออินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) จับมือ "พร็อพทูมอร์โรว์" นำผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย บุกตลาดอาเซียน ลุยจัดงานเทรดแฟร์ "กัมพูชา" และ "เมียนมา" สองประเทศตลาดเกิดใหม่ที่เป็นดาวรุ่งในกลุ่มประเทศ CLMV
กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) 4 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา ,สปป.ลาว, เวียดนาม และเมียนมานั้น มี "กัมพูชา" และ "เมียนมา" สองประเทศตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคที่น่าจับตามอง ด้วยเพราะทั้ง 2 ประเทศได้เร่งนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจพร้อมทั้งยังมีนโยบายที่เปิดกว้างด้านการลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งนั่นถือเป็นอีก "โอกาส" ทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยที่จะส่งออกทั้งในรูปแบบของสินค้า ภาคธุรกิจด้านการบริการต่างๆ ไปยังตลาดดังกล่าวสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค และนักลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
ล่าสุด บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVex) ผู้เชี่ยวชาญการจัดงานเทรดแฟร์ และเอ็กซิบิชันทุกรูปแบบแห่งภูมิภาคอาเซียนในเครือ บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจที่ดำเนินงานโดยใช้ศักยภาพในด้านของความคิดสร้างสรรค์ บริษัท ครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 1 ของประเทศไทย และเป็นบริษัทอีเว้นท์ คนไทยบริษัทเดียวที่ติดอันดับ 7 ของโลก ร่วมกับ บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ www.prop2morrow.com เว็บสื่ออสังหาฯ ที่ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในรูปแบบที่หลากหลาย เตรียมจัดงาน "Cambodia Architect & Decor 2019" ครั้งที่ 4 ที่ Daimond Island Exhibition and Convention Center ( DIECC) ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2562 ขณะที่ประเทศเมียนมา เป็นการจัดครั้งที่ 6 ภายใต้ชื่อ" Myanmar Build & Decor 2019" ณ Myanmar Expo เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2562 โดยทั้งสองงานที่จัดขึ้นในสองประเทศเป็นงานแสดงสินค้า เทคโนโลยี นวัตกรรม และบริการด้านการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม ออกแบบ ตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด
นายเกรียงไกร (เมฆ) กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า เป็นงานแสดงสินค้าที่เจาะลึกการออกแบบ ตกแต่ง และการดีไซน์โดยเฉพาะ เผยงานนี้จะเป็นแหล่งโชว์เคสนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการ, กลุ่มธุรกิจ เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ตอบรับความต้องการด้าน ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เปิดกว้างดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก รุกอุตสาหกรรมก่อสร้าง และสถาปนิก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดให้มีมาตรฐาน พร้อมผลักดันสร้างอาชีพที่มั่นคงต่อไป
สาเหตุที่เลือกการจัดงานในประเทศกัมพูชาและเมียนมา เพราะทั้งสองประเทศมีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการเติบโตของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ) ต่อเนื่อง โดยจีดีพีของประเทศกัมพูชาคาดการณ์ว่าในปี 2562 จะมีการขยายอยู่ที่ 6.8% ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2561 ที่มีอัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ 6.9% ขณะที่ประเทศเมียนมาอัตราการเติบโตของจีดีพี อยู่ที่ 7.7% ในปี 2560 และ 8.0% ในปี 2561
นอกจากนี้อุตสาหกรรมการก่อสร้างต่างๆ มีการเติบโตค่อนข้างสูงมาก โดยประเทศกัมพูชานั้นมีมูลค่าการก่อสร้างโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่า 22 % เมื่อปีที่แล้วขึ้นมาอยู่ที่ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาคการก่อสร้างของประเทศเมียนมานั้น มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 7.2% ตั้งแต่ปี 2544 ถึงปี 2558 และคาดว่าจะมีการเติบโตได้เพิ่มเป็น 10.37% ในปี 2563 และคาดการณ์มีมูลค่าที่ 13.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563
นายเกรียงไกร ยังกล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายของงานจากทั้งสองประเทศจะได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเหมือนกับการจัดงานในช่วงปีก่อน โดยการจัดงาน "Cambodia Architect & Decor 2019" ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2562 มีบริษัทที่ร่วมออกบูธ 100 แบรนด์ คาดมี มูลค่าที่จะเกิดขึ้นภายในงาน 150 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 4,500 – 5,000 คน ส่วนเป้าหมายการจัดงาน "Myanmar Build & Decor 2019" ณ Myanmar Expo เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2562 มูลค่าที่จะเกิดขึ้นภายในงาน 200 ล้านบาท มีบริษัทที่ร่วมออกบูธ 70 แบรนด์ จำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 5,000 – 5,500 คน โดยคาดว่าจะมาจากกลุ่มสถาปนิก นักออกแบบ ดีไซน์เนอร์ เจ้าของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม กลุ่มก่อสร้าง ผู้รับเหมา ช่าง เป็นต้น
ด้าน นายสุธาทร สุทธิสนธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ทาง พร็อพทูมอร์โรว์ เล็งเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย มีโครงการที่น่าสนใจมากมายในมุมมองของ นักลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน จากการสำรวจตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้าน เห็นได้ว่าอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรามีความโดดเด่นมากในแง่ของรูปแบบโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราทันสมัย รวมทั้งสาธารณูปโภคที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่จับตามองของนักลงทุนเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงที่เดินทางมาใช้ชีวิต เช่น การรักษาพยาบาล และจับจ่ายซื้อของในกรุงเทพ รวมถึงมาสังสรรค์เป็นประจำอยู่แล้ว
จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะนำร่องนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพไปประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้นักลงทุนเพื่อนบ้านมาลงทุน ปีนี้จึงจะเป็นปีแรกที่ในการจัดงานทั้ง 2 ประเทศ จะมี Prop2morrow Pavilion เพื่อจัดแสดงโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในงาน โดยวางแผนว่าจะสามารถขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายได้มากขึ้นในโอกาสต่อไป