กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--สยามราช
SR ปักหมุดวางเป้ารายได้ปีนี้โต 8-10% แตะระดับ 2 พันล้านบาท ทุบสถิตินิวไฮตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย พร้อมรุกขยายธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจบริหารจัดการอาคารจอดรถยนต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยสร้างรายได้สม่ำเสมอ ฟาก"เกียรติ วิมลเฉลา" ประธานกรรมการบริหาร เผยตุนงานในมือรอรับรู้รายได้จากธุรกิจหลัก ณ สิ้นเดือน ก.พ. 62 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 862 ล้านบาท จ่อประมูลงานในธุรกิจใหม่เพิ่มอีก 3-4 โครงการหนุนอนาคตโตต่อเนื่อง
นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) หรือ SR ดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่กลุ่มธุรกิจก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ กลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือก และกลุ่มธุรกิจระบบปั๊มอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่าได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตประมาณ 8-10% จากปีก่อน มีรายได้แตะระดับ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2558 โดยมีปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตจากธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะโครงการบริหารจัดการพื้นที่อาคารจอดรถยนต์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีเป็นครั้งแรกภายในปี 2562 นี้ และจะช่วยสร้างรายได้สม่ำเสมอเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
"ปีนี้บริษัทจะเติบโตราว 8-10% จากปีก่อน เหตุผลหลักเกิดจากรายได้ของธุรกิจเดิม 3 กลุ่มเติบโตดีต่อเนื่อง และมีงานรอรับรู้รายได้แล้ว ณ สิ้นเดือน ก.พ.มีมูลค่ารวม 1.3 พันล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ ประมาณ 800 ล้านบาท หรือเกินกว่า 50%ของงานในมือ ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป ขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจใหม่ ก็จะช่วยสร้างรายได้ให้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เช่นโครงการบริหารจัดการพื้นที่อาคารจอดรถยนต์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นปีแรกที่มีรายได้เข้ามาเต็มปี จากปีก่อนรับรู้เพียงไตรมาส 4/61 เท่านั้น"
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสม่ำเสมอ โดยธุรกิจหลัก มีงานในมือรอรับรู้รายได้ ซึ่งจะทยอยรับรู้ได้ถึงปี 2563 และในปีนี้จะพยายามรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ รวมทั้งมีการเตรียมความพร้อมเพื่อหางานใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย
ขณะที่ธุรกิจใหม่มีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีโครงการบริหารจัดการพื้นที่อาคารจอดรถยนต์ 2 แห่ง คือ โครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ 1 แห่ง และอาคารจอดรถยนต์ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่อีก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ประมาณปี 2563 ขณะเดียวกัน มีการเตรียมยื่นประมูลโครงการใหม่อีก 3-4 แห่ง คาดว่าจะรู้ผลเร็วๆนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์ ถือหุ้น 25% แต่ยังไม่สามารถสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทฯ มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่มเติม โดยอาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการประมูลโครงการต่างๆจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เช่น โครงการโซลาร์ลอยน้ำ เป็นต้น
สรุป ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้ 1,777.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.96% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 53.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.40%