กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชื่นจิตร อังวราวงศ์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย ศูนย์เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอีเว้นท์และอุตสาหกรรมบริการแบบครบวงจร (HEPSAC) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) จัดโครงการ MICE TEACHER 2019 (ไมซ์ ทีเชอร์ 2019) ภายใต้หัวข้อ "แนะแนวครูแนะแนวสู่ธุรกิจไมซ์" โครงการที่ต้องการสร้างความรู้ความเข้าใจของนักเรียนที่กำลังจะศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อการเรียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไมซ์และอีเว้นท์ ผ่านการให้ความรู้แก่ครูแนะแนวของโรงเรียนมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อที่จะได้นำเอาข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนไปถ่ายทอดต่อลูกศิษย์ รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายระหว่างครูในโรงเรียนและอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรเกี่ยวข้องกับการจัดการไมซ์และอีเว้นท์
"อุตสาหกรรมไมซ์กำลังเป็นที่สนใจและได้รับการยอมรับมากขึ้นจากรัฐบาลประเทศต่างๆ เนื่องจากมีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจในการสร้างรายได้และสร้างงานจำนวนมากให้กับประเทศ อุตสาหกรรมไมซ์ในอาเซียน มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือได้ว่าเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งโครงการฯ ได้รับการตอบรับจากคณะครูแนะแนวระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาทั่วภาคอีกสานกว่า 100 ท่าน และมหาวิทยาลัยชั้นนำเข้าร่วมประชาสัมพันธ์หลักสูตรมากกว่า 5 สถาบัน เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างครูในโรงเรียนและอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง" รองคณบดีฝ่ายบริหารกล่าว
ทางด้านนางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า "อุตสาหกรรมไมซ์มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากนักเดินทางกลุ่มไมซ์เป็นนักเดินทางที่มีคุณภาพโดยมีการใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป ดังนั้นรัฐบาลจึงได้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง ทีเส็บจึงได้เร่งดำเนินงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ และให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร รวมถึงพัฒนามาตรฐานการบริการของอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ในปัจจุบันธุรกิจไมซ์จึงเป็นที่ได้รับความสนใจจากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก อย่างเช่นประเทศไทยของเราที่ปัจจุบันกำลังถูกจับตามองอย่างมากจากนักท่องเที่ยว หรือบริษัทต่างๆจากชาวต่างชาติ เนื่องจากประเทศไทยของเรานอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งแล้วยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจ และได้รับความประทับใจจากชาวต่างชาติ อีกหลายอย่างเช่น มนต์เสน่ห์แห่งประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศที่น่าสนใจ อาหารไทยที่มีรสชาติชวนหลงใหล สถานที่จัดประชุม,สถานที่รับรองได้มาตรฐาน และที่สำคัญเสน่ห์จากการต้อนรับขับสู้ละความงดงามของรอยยิ้มคนไทยที่ไม่ว่าชนชาติใดได้สัมผัสก็ไม่มีวันลืม ทำให้ประเทศไทยเป็นที่ต้องการของตลาดธุรกิจไมซ์จากหลายๆประเทศ และคาดการณ์ว่าในอนาคตจะถูกผลักดันให้เติบโตยิ่งขึ้น"