เอชพีเดินหน้าประกาศการเติบโตของผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP Integrity ด้วยโปรแกรมสนับสนุนแอพพลิเคชั่นที่ทรงประสิทธิภาพและการใช้งานของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday January 29, 2008 16:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
เอชพีประกาศอัตราการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ Integrity Server ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น ในไตรมาสที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2550 โดยในช่วงดังกล่าว รายได้ของเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46 ทั่วทั้งภูมิภาคเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา1 ซึ่งเซิร์ฟเวอร์นี้รองรับแอพพลิเคชั่นของผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV) มากกว่า 13,500 รายทั่วโลก ด้วยจำนวนแอพพลิเคชั่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 แอพพลิเคชั่นต่อวัน และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่นนี้เองมีแอพพลิเคชั่นของผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระกว่า 1,400 แอพพลิเคชั่น ซึ่งรวมถึงการบริหารเพื่อวางแผนและจัดการทรัพยากร (ERP) และการบริหารระบบการจัดส่งสินค้า (Supply Chain) มีส่วนในการเพิ่มจำนวนการใช้เซิร์ฟเวอร์ HP Integrity ของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้นอย่างมากเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity เป็นผลิตภัณฑ์หลักในการสร้างรายได้ของฝ่าย Business Critical Systems (BCS) ของเอชพี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งร้อยละ 70 ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2551
ฝ่าย Business Critical Systems (BCS) ของเอชพี มีผลิตภัณฑ์ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเซิร์ฟเวอร์ประเภท HP NonStop, HP Integrity, HP 9000, HP Alpha และ Open Source และ Linux เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้รองรับความต้องการของลูกค้าที่ใช้ระบบปฏิบัติการหลายแบบ หรือ multi-OS ซึ่งรวมถึง HP-UX (Unix), Windows, Linux, OpenVM และระบบปฏิบัติการ NonStop นายเฮอร์เบิร์ท สเวนเกอร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Business Critical Systems เอชพีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น กล่าวว่า "จากเซิร์ฟเวอร์เบลด Integrity ของเอชพีไปถึงเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity NonStop ที่ใช้งานบนแพลทฟอร์มมาตรฐานพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยในตัว, เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น และระบบการจัดการ เรากำลังนำเสนอระบบ mission-critical systems ซึ่งตอบสนองความต้องการสูงสุดของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตัวเลขทางด้านการเงินและข้อมูลทางอุตสาหกรรมของเราแสดงให้เห็นว่าความต้องการในระบบเหล่านี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity สามารถช่วยให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนทางด้าน IT อย่างสูงสุด" รายงาน Asia/Pacific Quarterly Enterprise Server Tracker จาก IDC ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา2 นำเสนอว่าเอชพีเป็นผู้นำตลาดเซิร์ฟเวอร์ Itanium (EPIC) server ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค (รวมถึงประเทศญี่ปุ่น) ด้วยส่วนแบ่งรายได้ทางการตลาดร้อยละ 77.4
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 รายได้ของเซิร์ฟเวอร์ Itanium (EPIC) server ของเอชพี ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค (รวมถึงประเทศญี่ปุ่น) สูงขึ้นร้อยละ 44.6 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เอชพีเป็นผู้นำในตลาดเซิร์ฟเวอร์ Itanium (EPIC) Unix ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค (รวมถึงประเทศญี่ปุ่น) ด้วยส่วนแบ่งทางรายได้ร้อยละ 94.2 ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 ในกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ Itanium (EPIC) สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งหมด เอชพีมีรายได้จากส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 64 ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 นอกจากนี้ รายได้โดยรวมของเซิร์ฟเวอร์ Unix ของเอชพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 รายได้ของ Windows เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 และรายได้ของเซิร์ฟเวอร์ Linux เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (รวมประเทศญี่ปุ่น) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาสำหรับประเทศไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 จากรายงาน APJ Enterprise Server Tracker จาก IDC 2 ระบุว่าเอชพีครองตลาดเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดด้วยส่วนแบ่งรายได้ทางการตลาดร้อยละ 37.5 ซึ่งแสดงให้เห็นอัตราการเติบโตร้อยละ 53.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และการเติบโตร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับตลาด Unix เอชพียังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งรายได้ทางการตลาดร้อยละ 46.6 และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตถึงร้อยละ 177.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550
นอกจากนี้เซิร์ฟเวอร์ EPIC และ RISC ของเอชพียังสร้างรายได้จากส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 43.6 ถือเป็นอันดับหนึ่งในตลาด มีการเติบโตถึงร้อยละ 104.5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเมื่อต้นปี 2550 เอชพีได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Unix เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด คือ HP-UX 11i v3 เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างเวอร์ช่วลไลเซชั่นแบบ mission-critical ได้อย่างง่ายดายและมีความพร้อมใช้ในระดับเมนเฟรม เอชพียังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Integrity พร้อมกับการเปิดตัวของเซิร์ฟเวอร์ Integrity BladeSystem แบบ c-Class ตัวแรก คือ HP Integrity BL860c server และสำหรับติดตั้งบนชั้น (rack-optimized unit) คือ HP Integrity rx2660 entry-class serverกลุ่มลูกค้าที่ใช้ HP Integrity ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น สายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์สายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ — สายการบินหลักของประเทศเกาหลีซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุม 841 เมืองใน 157 ประเทศทั่วโลก
โดยผ่านเครือข่าย ‘Star Alliance’ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน ทางสายการบินได้ปรับปรุงความยืดหยุ่นและความคล่องตัวทางด้านธุรกิจด้วยโซลูชั่น SAP ERP solutions บนเซิร์ฟเวอร์ Integrity ของเอชพี ระบบของเอชพีช่วยเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ เพิ่มความพอใจของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจโดยรวมโดยการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสามารถในการผลิต นายคิม ฮยุน-บิน ผู้จัดการ ทีมจัดการระบบ แห่ง Asiana IDT กล่าวว่า "สายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ให้ความสนใจกับความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขยายขอบเขตการทำงานของระบบ โดยคำนึงถึงลักษณะการใช้งานของสายการบินเป็นหลัก เราเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ Integrity ของเอชพีเนื่องจากมันช่วยลดความเสี่ยงของระบบที่มีอยู่ โดยสนับสนุนสภาพแวดล้อมทางการปฏิบัติงานที่หลากหลาย อีกทั้งเรายังได้เห็นบริษัทชั้นนำต่างๆ ในอุตสาหกรรมนี้ให้ความไว้วางใจที่จะสร้างระบบพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบของ HP Integrity นี้"บริษัท แอสเทลลัส ฟาร์มา บริษัท แอสเทลลัส ฟาร์มา - ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2548 จากการรวมตัวกันของสองบริษัทยาในประเทศญี่ปุ่น เอชพีได้ช่วยรวบรวมข้อมูลด้านการตลาดจากเซิร์ฟเวอร์เมนเฟรมตัวเก่ามาไว้ใน HP Integrity Superdome เพียงตัวเดียวบนเวอร์ช่วลเซิร์ฟเวอร์ซึ่งแบ่งแยกให้เป็นระบบ multiple hardware และแบ่งพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ เซิร์ฟเวอร์ HP Integrity และเครื่องมือเวอร์ช่วลไลเซชั่นช่วยให้แอสเทลลัส ฟาร์มา ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการถึงร้อยละ 50ทีวีเอส มอเตอร์ทีวีเอส มอเตอร์ — ผู้ผลิตรถสองล้อในประเทศอินเดีย และเป็นหนึ่งในสิบผู้ผลิตรถสองล้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ย้ายข้อมูลที่ซับซ้อนจากเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ไปยังเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity ที่มีสมรรถนะสูงกว่าด้วยระบบปฏิบัติการ HP-UX ที่ปลอดภัย HP Integrity รองรับการโอนย้ายข้อมูลแอพพลิเคชั่นดาต้าเบสซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถจัดการกับการดำเนินงานด้านไอทีได้อย่างราบรื่นในโรงงานการผลิตแห่งใหม่
การย้ายข้อมูลไปยัง HP Integrity ช่วยลดการใช้ CPU ได้ประมาณร้อยละ 50 ปรับปรุงเวลาตอบสนองสำหรับการดำเนินการติดต่อธุรกิจที่สำคัญได้ประมาณร้อยละ 35 และสามารถมั่นใจได้ถึงความคุ้มค่าและคุ้มครองเงินที่ได้ลงทุนไปนวัตกรรมใหม่ ๆนวัตกรรมสำคัญที่ได้เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้สำหรับลูกค้าระดับองค์กรเพื่อนำเสนอผลประโยชน์ที่คุ้มทุนและสร้างผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ของเอชพี ได้แก่ท HP c-Class BladeSystem ที่ปรับปรุงให้สอดคล้องต่อความต้องการสำหรับเครือข่ายการโทรคมนาคมแบบ IP-based ซึ่งกำลังเป็นที่แพร่หลาย ท เสริมสมรรถนะของ HP Integrity ด้วยเทคโนโลยีตัวประมวลผลของอินเทล และซอฟท์แวร์ใหม่ล่าสุดเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถลดค่าใช้จ่ายโดยการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในการทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงาน
สถาปัตยกรรม Integrity Reference Architectures ที่นำเสนอสำหรับการทำงานแบบ SAP และ Oracle เพื่อช่วยลูกค้าจัดการและปรับปรุงระบบพื้นฐานด้านไอทีให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ท HP Virtual Server Environment ที่ได้พัฒนาปรับปรุงสำหรับ HP-UX 11i เพื่อดูแอพพลิเคชั่นในเวอร์ช่วลเซิร์ฟเวอร์ และระบุปริมาณงานด้วยระบบ automatically accessing spare capacity ท HP Serviceguard ที่ได้พัฒนาปรับปรุงสำหรับ HP Integrity พร้อมกับขยายทางเลือกเกี่ยวกับความพร้อมใช้ที่สูงขึ้นอันจะส่งผลให้บริษัทสามารถปรับปรุงคุณภาพของการบริการและลดต้นทุน ท โปรแกรม HP Partner Virtualization ที่นำเสนอเพื่อให้ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV) สามารถสร้างและตรวจสอบแอพพลิเคชั่นในสภาพแวดล้อมที่เสมือนจริงและปลอดภัย มากกว่าร้อยละ 60 ของบริษัทชั้นนำ 100 บริษัทแรกจากนิตยสาร Fortune ทั่วโลกใช้แอพพลิเคชั่นแบบ mission critical บนเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity รายได้ของ HP Integrity ทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่รายได้ของธุรกิจ Business Critical Systems ของเอชพีในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2550 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา1. การเติบโตนี้เกิดจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ HP Integrity Superdome และเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity NonStop และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มลูกค้าที่เข้มแข็งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่นสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HP Integrity server สามารถดูได้ที่ www.hp.com/go/Integrity
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพีเอชพีมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย สำหรับลูกค้าในทุกระดับ นับตั้งแต่ผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยสายผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมถึงด้านโซลูชั่นภาพและการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟต์แวร์ บริการ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทำให้เอชพีเป็นหนึ่งในบริษัทด้านไอทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2550 เอชพีมีรายได้รวมนับจาก 4 ไตรมาสทั้งสิ้น 104.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ