กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--FleishmanHillard Thailand
ช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษหรือที่หลายคนคุ้นหูกับคำว่า PM 2.5 โดยเฉพาะคนเมืองอย่างเราๆ จนทำให้หลายคนมีอาการไอ จาม คัดจมูก น้ำมูก น้ำตาไหล เป็นจำนวนมาก ผู้คนจึงหันมาหาวิธีป้องกัน ไม่ว่าจะเป็น การสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง พยายามอยู่ในบ้านหรือตึกที่ทำงาน แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้หลุดพ้นอันตรายจากฝุ่นละอองเล็ก ๆ อันแสนร้ายกาจนี้ได้
PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งไอเสียดีเซลจากท่อรถยนต์ การใช้ไฟฟ้า การก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาขยะ เนื่องจาก PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก หากหายใจเข้าไปจะผ่านเข้าสู่ปอดและหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคทางเดินหายใจได้ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพมากที่สุด คือ เด็กและผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วย โดยวิธีป้องกัน PM 2.5 มีหลายวิธี ได้แก่ การสวมหน้ากาก N95 หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการเปิดประตูหน้าต่าง และเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้
ดร. เชียง เหวิน ชิน ประธานสมาคมโรคหืดและโรคภูมิแพ้ กล่าวว่า "การสัมผัสกับอนุภาคหมอกควันของฝุ่นละออง PM 2.5 สามารถส่งผลกระทบต่อหัวใจและปอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจหรือปอดเรื้อรัง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ซึ่งหากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่ดี อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดได้ ซึ่งอนุภาคหมอกควันของฝุ่นละออง PM 2.5 นี้ แตกต่างจากฝุ่นและสิ่งสกปรกโดยทั่วไป ไม่สามารถกำจัดได้โดยการทำความสะอาดตามปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เพื่อปกป้องดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัว"
ด้านนางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมมลภาวะ และฝุ่นพิษภายนอกได้ แต่เราสามารถควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้านของเราได้ โดยหลายๆ คนคงจะเห็นว่าเครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยสำคัญที่คนมองหา และหลายคนอาจจะสงสัยว่าเราควรเลือกซื้ออย่างไร วันนี้ ฟิลิปส์ ประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการแชร์ความรู้ให้ผู้บริโภคในการดูแลคุณภาพอากาศภายในบ้าน จึงขอแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านที่เหมาะสม เพื่อปกป้องคุณและทุกคนในครอบครัวให้มีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ"
1.สำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง โรคทางเดินหายใจหรือโรคหัวใจ
ลองเลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถขจัดอนุภาคระดับนาโน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าความกว้างของเส้นผมถึง 2,500 เท่า รวมทั้งสารก่อภูมิแพ้ทั่วไปในอากาศที่พบได้จากกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำอาหารหรือทำความสะอาด หรือแบคทีเรียและไวรัส เพื่อปกป้องตัวคุณและครอบครัวของคุณจากโรคภัย ตั้งแต่หวัดธรรมดาจนถึงไข้หวัดใหญ่
2.สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกำจัดสารที่เป็นอันตรายในอากาศที่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และพัฒนาการของทารกในครรภ์ อย่าง คาร์บอนมอนออกไซด์ ไอระเหยจากสีทาบ้านหรือน้ำยาทำความสะอาด ฝุ่นละออง และโอโซนที่มีอยู่ในอากาศรอบ ๆ ตัวบ้าน
3. สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบ HEPA ที่ออกแบบพิเศษมาเพื่อกำจัดควันและมลพิษจากยาสูบโดยเฉพาะ โดยตัวกรอง Integrated active carbon filter ยังสามารถช่วยกำจัดกลิ่นและก๊าซที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย
4.สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงน่ารัก
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (Clean Air Delivery Rate: CADR) สูง สามารถวัดปริมาณอากาศบริสุทธิ์ที่ผลิตโดยเครื่องฟอกอากาศต่อนาทีได้ โดย CADR ที่สูงจะช่วยให้กรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศอย่าง ก๊าซ ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ควัน และขนสัตว์ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
และนอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การเลือกเครื่องฟอกอากาศยังจำเป็นต้องคำนึงถึงขนาดห้อง และขนาดเครื่องฟอกที่เหมาะสมกันด้วย จะเห็นได้ว่าการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมจะช่วยให้ประสิทธิภาพการฟอกอากาศนั้นดียิ่งขึ้น
ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ เราพร้อมนำเสนอนวัตกรรม เครื่องฟอกอากาศ ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 800 เท่า ด้วยแผ่นกรอง NanoProtect(R) HEPA ประสิทธิภาพสูง ลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลิปส์
กำจัดอนุภาคขนาดเล็ก 0.003 ไมครอน ( PM0.003 หรือ 3 นาโนเมตร) ได้ถึง 99.97% ซึ่งเล็กกว่า PM2.5 ถึง 800 เท่า*
กำจัดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ไวรัส H1N1 และแบคทีเรียได้ถึง 99.9%
กำจัดสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ และสปอร์เชื้อรา ได้ถึง 99.9%
พิสูจน์แล้ว ! 100% ของผู้ใช้รู้สึกว่าอาการโรคภูมิแพ้อากาศเช่น จาม มีน้ำมูก คันตา ลดลง
โดยเรามีหลากหลายรุ่นให้เลือก
เครื่องฟอกอากาศ รุ่นเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Philips Series 3000i AC3259 / 20 จะตรวจจับและฟอกอากาศโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีเซนเซอร์ AeraSense และมีการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Air Matter เพื่อที่คุณจะสามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศได้จากทุกที่ ทุกเวลา และตรวจสอบคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ มาพร้อมอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) สูงถึงระดับ 393 m3/ชม. เพื่อการขจัดอนุภาค สารก่อภูมิแพ้ และไวรัสได้อย่างดีเยี่ยม
เครื่องฟอกอากาศ Philips Series 2000 AC2887 / 20 มีเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศเทคโนโลยี AeraSense ประสิทธิภาพสูง พร้อมแสดงปริมาณอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5)เป็นตัวเลขแบบเรียลไทม์ เครื่องจะปรับการทำงานอัตโนมัติเพื่อกำจัดฝุ่นละอองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เครื่องฟอกอากาศ Philips Series 1000 AC1215 / 20 โหมด NightSense เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในห้องนอนโดยเฉพาะ มั่นใจได้กับการตรวจวัดคุณภาพและฟอกอากาศอย่างต่อเนื่อง เครื่องทำงานเงียบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้คุณและครอบครัวนอนหลับได้ดีขึ้น
สร้างอากาศภายในบ้านที่สะอาดบริสุทธิ์ เพื่อทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลดี ๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.philips.co.th หรือที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/philipsthailand