กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
นักวิเคราะห์ชั้นนำ ส่องเป้าหุ้น "วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์" (VL) สูงสุดที่ 2.68 บาท เล็งแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2562 แตะ 90 ล้านบาท โต 46.76% รับผลบวกเรือใหม่ที่มาแทนเรือเก่าที่ปลดระวาง สนับสนุนประสิทธิภาพการเดินเรือ พร้อมเพิ่มความสามารถการบรรทุกที่สูงขึ้น
นักวิเคราะห์ชั้นนำได้มีการวิเคราะห์หุ้น บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยเป็นการขนส่งทางทะเล ซึ่งสินค้าหลักแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์มรวมทั้งยังให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับบริษัทคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันเป็นหลัก และเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางเรือที่มีมาตรฐานสูง โดยในปัจจุบันบริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 12 ลำ ซึ่งกองเรือมีอายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี มีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 35,081 เดทเวทตัน (DWT) และมีความสามารถในการบรรจุน้ำมันเพื่อขนส่งรวมอยู่ที่ 36,036 ลูกบาศก์เมตร
โดยนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า กำหนดราคาเป้าหมายอยู่ที่ 2.68 บาท เนื่องจากคาดว่าผลการดำเนินงานของ VL จะเติบโตโดดเด่นจากอานิสงค์ของการลงทุนในเรือ V21 ในปี 2561 ซึ่งจะเข้ามาให้บริการในปี 2562 และเป็นเรือที่มาทดแทนเรือเก่าที่ปลดระวาง ส่งผลให้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือที่สามารถบรรทุกได้เพิ่มขึ้น
ดังนั้นจึงได้ประเมินกำไรสุทธิปี 2562 อยู่ที่ระดับ 90 ล้านบาท เติบโต 46.76% จากปีก่อน และคาดว่ารายได้จะเติบโต 15.12% จากปีก่อน และอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E) ยังลดลงอยู่ที่ระดับ 0.83 เท่า จากก่อนการขายหุ้น IPO มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 2.45 เท่า
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า กำหนดราคาเป้าหมาย VL อยู่ที่ 2.58 บาท โดยประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี PER ซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 23 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มขนส่ง และโลจิสติกส์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ 39 เท่า โดยประเมินกำไรต่อหุ้นแบบ Fully Diluted สำหรับปี 2562 ได้เท่ากับ 0.112 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ยังคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิระหว่างปี 2560-2562 จะอยู่ที่ 41% และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2562 จะอยู่ที่ 90 ล้านบาท เติบโตประมาณ 50% โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 10.60% เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการขนส่งจะอยู่ที่ 851 ล้านบาท เติบโต 23% เพราะว่ามีการรับรู้รายได้ของเรือ วี.แอล 20 เต็มปี พร้อมกับมีการขยายกองเรือเพิ่มขึ้น ภายใต้สมมุติฐานการมีกองเรือใหม่ที่มีอายุน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กำหนดราคาเป้าหมาย 2.56 บาท โดยกำไรจะอยู่ที่ 91 ล้านบาท เติบโต 49.20% จากปีก่อน เนื่องมีการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 38,534 DWT โดยเป็นการรับรู้รายได้จากเรือที่ซื้อในปี 2561 เต็มปี และในปี 2562 มีการรับเรือใหม่อีก 1 ลำ ซึ่งเรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และจะสนับสนุนรายได้เพิ่มขึ้น 21.90% จากปีก่อน ประกอบกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่มาก ถึงแม้ว่าเรือจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นปรับตัวดีขึ้น
อีกทั้ง VL ยังดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ทางทะเลมากกว่า 20 ปี โดยมีคู่ค้าหลัก เช่น ESSO ที่ใช้บริการมาตั้งแต่เปิดบริษัท และมีคู่ค้าหลัก และคู่ค้ารายอื่นมีความต้องการส่งของเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลอดมามีการซื้อเรือและปรับปรุงกองเรือ และซื้อเรือเพิ่ม ทำให้ปัจจุบันมีเรืออยู่ทั้งสิ้น 12 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกรวมเป็นอันดับ 4 ในอุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ในประเทศมีผู้ประกอบการ 9 ราย โดยแต่ละรายจะมีลูกค้าหลักเป็นของตนเอง ทำให้คู่แข่งรายใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมได้ยาก รวมถึงมีการลงทุนที่สูง และต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการให้บริการ