กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--เอกชัยการแพทย์
เซียนหุ้นแนะนำ "ซื้อ" หุ้น EKH ประเมินรายได้ไตรมาสแรกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับอานิสงส์จากโรคระบาด ปัญหามลพิษหนุนคนไข้ใช้บริการเพิ่ม และศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) กระแสตอบรับคึกคัก ชี้เป้าราคาเหมาะสม 7.60 บาท ด้าน นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร" มั่นใจ จากนี้ธุรกิจติดปีกแข็งแกร่ง หลังขยายศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ ศูนย์ไตเทียม, ศูนย์ ตา หู คอ จมูก, ศูนย์ความงาม ศูนย์ทันตกรรม อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากศูนย์ IVF ทำให้มีศักยภาพด้านการบริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรมากขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำ"ซื้อ" หุ้นบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) เนื่องจากคาดว่ารายได้ไตรมาส 1/2562 จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของทุกปี โดยได้รับแรงหนุนจากโรคระบาดที่เพิ่มขึ้น และปัญหามลพิษทางอากาศ หนุนคนไข้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กอปรกับในส่วนของศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) มีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มอย่างต่อเนื่องทั้งลูกค้าไทยและจีน
ส่วนแนวโน้มตลอดทั้งปี 2562 จะขยายตัวสดใสต่อเนื่อง เพราะจะได้รับผลบวกเต็มที่จากการเปิดศูนย์ IVF เพิ่มที่พระราม 9 ทำให้จำนวนเคสในการรักษาเพิ่มจากปีก่อน ผนวกกับแผนการเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางอย่างต่อเนื่องในคือ 1.ขยายพื้นที่ให้บริการศูนย์โรคไต 2.การเปิดให้บริการอาคารกุมารเวชแห่งใหม่เพื่อรองรับลูกค้าที่หนาแน่น 3.เปิดศูนย์ ตา หู คอ จมูก และ 4.เปิดศูนย์ทันตกรรม ซึงคาดว่าจะหนุนให้รายได้ในปีนี้เติบโตราว 9% แตะที่ระดับ 697 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามประมาณดังกล่าวถือว่าค่อนข้างอนุรักษ์นิยมต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่คาดว่าจะเติบโตในระดับ Double-digit ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิเติบโต 13% เป็น 133 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่ายังมี Upside risk ในการปรับประมาณการ
ทั้งนี้ จากราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E Ratio ปี 2562 ที่ 27 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 29 เท่า จึงแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเหมาะสมที่ 7.60 บาท
ด้านนายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ นับต่อจากนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะผลการดำเนินงาน เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง และศูนย์ผู้มีบุตรยาก หรือศูนย์เด็กหลอดแก้ว (IVF) สนับสนุน ภายหลังจากเปิดให้บริการศูนย์ IVF ที่แหล่งศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ย่านพระราม 9 ปลายปีที่ผ่าน ทำให้สามารถรองรับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการในคลินิก IVF สาขาพระราม 9 เพิ่มอีก 2 ชั้น (เฟสที่ 2) ใช้งบลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อนที่จะเริ่มให้บริการแบบ One Stop Service ในช่วงเดือน เมษายน 62 ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ตรม.จากเดิม 600 ตรม.และเตรียมเปิดอาคารศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 62
รวมถึงขยายศูนย์ต่าง ๆ อาทิ ศูนย์ไตเทียม, ศูนย์ ตา หู คอ จมูก, ศูนย์ความงาม ศูนย์ทันตกรรม รวมทั้งปรับปรุงห้องพักผู้ป่วยใน ซึ่งจะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการแก่คนไข้ได้มาก ขึ้น และซึ่งหนุนต่อผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 8-10% จากปี 2561 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35-40 %