กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ปัจจุบันไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะได้เห็นสินค้า บริการ และตัวช่วยทางการเกษตรที่ผู้ประกอบการไทยต่างงัดกลยุทธ์และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับผลิตภัณฑ์ในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นสินค้านวัตกรรม ไม่เพียงแค่อาหาร เครื่องดื่ม หรือยารักษาโรคเท่านั้น แต่ยังมีสินค้านวัตกรรมอีกมากมายที่ผู้บริโภคอย่างเราได้มีโอกาสชม ใช้ ชิม และช้อป และบางชิ้นอาจจะกลายเป็นของที่ต้องมีติดบ้านไปเลยทีเดียว
วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ 7 สินค้านวัตกรรมเกษตรสุดว้าวจากโครงการ"สุดยอดนวัตกรรม เซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2019" ภายในงาน "Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย" ที่จัดโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ 11 องค์กรชั้นนำด้านการส่งเสริมผู้ประกอบการ อาทิ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฯลฯ ขอบอกเลยว่าภายในงานมีสินค้า และบริการด้านนวัตกรรมที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการไทยมาร่วมอวดโฉมกันล้นฮอลล์ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดย 7 สุดยอดสินค้าเกษตรที่จะพาไปรู้จักจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปชมพร้อมกันได้เลย
เริ่มกันที่ โคโค่เกิร์ต โยเกิร์ตจากมะพร้าวอินทรีย์ หรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆก็คือกะทิหมักจุลินทรีย์นั่นเอง เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทางเลือกใหม่ที่เป็น 100 % Vegan Dairy Free Soy Free เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานโยเกิร์ตที่ผลิตจากนมสัตว์และถั่วเหลือง โดยโคโค่เกิร์ตมีคุณประโยชน์จากPrebiotic Fiber และ Vegan Probiotic Cultures ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารและแบคทีเรียชนิดดีที่สามารถช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งมีคุณประโยชน์จากไขมันชนิดดีจากมะพร้าว ไม่มีโคเลสเตอรอล และมีโปรตีนจากมะพร้าวซึ่งเป็นโปรตีนจากพืชที่ย่อยได้ง่ายกว่าโปรตีนจากนมของสัตว์ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จะได้รับสารอาหารที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น สำหรับการรับประทานขอบอกเลยว่าจะทานเดี่ยวๆก็อร่อย หรือจะทานเป็นน้ำสลัดราดกับผลไม้จานโปรดก็เริ่ด แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ว่าจะทานแบบไหนยังไงก็ไม่มีอ้วน เพราะส่วนผสมทุกอย่างคือออร์แกนิก อุดมไปด้วยไขมันดี จุลินทรีย์ที่ช่วยในการขับถ่าย และปราศจากน้ำตาลตัวปัญหาแห่งความแก่ก่อนวัยนั่นเอง
ยังอยู่ที่เรื่องของโพรไบโอติก แต่เป็นตัวช่วยที่ดีต่อสุขภาพปากและฟัน เพราะนี่คือ "ผลิตภัณฑ์จากโพรไบโอติกสายพันธุ์ใหม่ป้องกันฟันผุ" ซึ่งมาในรูปแบบของนม นมผง นมอัดเม็ด และโยเกิร์ต โดยนวัตกรรมดังกล่าวเป็นการคัดเลือกจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากช่องปากของคน (Lactobacillus paracasei SD1) นำมาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่องปาก โดยมีคุณสมบัติทั้งการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Streptococcus mutans และ Streptococcus sobrinus แบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ สามารถเกาะติดเยื่อบุผิวในช่องปากได้ดี สร้างกรดน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับจุลินทรีย์สายพันธุ์อื่นๆ ที่มีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของฟันผุได้ในระดับที่เท่ากัน โดยนวัตกรรมดังกล่าวถือเป็นประโยชน์อย่างมากในทางสุขภาพช่องปากของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ทั้งยังช่วยลดค่ารักษาจากปัญหาที่ตามมาของฟันผุ เช่น ค่าอุดฟัน การทำฟันปลอม ค่าขูดหินปูน ฯลฯ ได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วยของกินสุดฮิตในช่วงหน้าร้อนอย่างมะม่วง แต่มีความพิเศษมากกว่านั้นเพราะนี่คือ "ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้พันธุ์สีทองแช่เยือกแข็งพร้อมรับประทาน" สำหรับนวัตกรรมดังกล่าว เป็นผลไม้สดแช่แข็งที่อยู่ในรูปแบบไอศกรีม แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติความอร่อยที่แท้จริงของมะม่วงน้ำดอกไม้ 100 % มีความสด ใหม่ เหมือนได้รับประทานมะม่วงที่เพิ่งเด็ดจากต้น เพราะผ่านกระบวนการนวัตกรรม Shock Freeze เป็นการล็อกคุณค่าทุกอย่างของมะม่วงที่ได้จากหน้าสวนเอาไว้ มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน เก็บรักษาได้ถึง 5 ปี ทำให้ไม่ว่าจะเวลาไหนก็สามารถรับประทางมะม่วงได้แม้จะไม่ใช่ฤดูที่แท้จริง สำหรับสินค้าดังกล่าวสามารถสร้างยอดขายล่วงหน้าในปี 2562 ได้มากกว่า 20 ล้านบาท และยังช่วยลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมะม่วงไทย 10-15 เท่า จากเดิมราคาขายผลสดกิโลกรัมละ 10-120 บาท เป็นราคากิโลกรัมละ 1,000-1,500 บาท โดยปัจจุบันได้มีการส่งออกไปยังประเทศจีน เซี่ยงไฮ้ กวางโจว รวมถึงฮ่องกง และมาเก๊า
หวานฉ่ำกับของหวานแสนชื่นใจกันไปแล้ว มาดับร้อนให้ร่างกายกันบ้างกับนวัตกรรมที่มีชื่อว่า ละอองเย็น Cooling Mist เนื่องด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน จึงมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์สเปรย์เย็นเพื่อใช้ฉีดพ่นตามร่างกายจากสูตรยาสมุนไพรไทยภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยนวัตกรรม "นาโนเซลลูโลส" สารอินทรีย์ระดับนาโนเมตรจากธรรมชาติที่ผสมผสานร่วมกับเกร็ดสะระแหน่และน้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆ เพื่อช่วยคลายความร้อน และยังรักษาความเย็นของสเปรย์ให้อยู่กับร่างกายได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง ละอองเย็นมีคุณลักษณะเสมือนเป็นฟิล์มใสบาง ๆ เคลือบผิวโดยไม่ทิ้งคราบ สามารถป้องกันยุงและแมลง มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศร้อนของเมืองไทย สินค้าดังกล่าวได้แผนขยายตลาดกระจายตัวของสินค้าเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศและอุณหภูมิที่คลายกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักในตลาดทั่วโลกมากขึ้น
เมื่อพูดถึงสมุนไพรไทย สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้นั่นก็คือพริก แต่พริกธรรมดาคงจะไม่ว้าวเท่าไหร่ จึงขอนำเสนอ "กาแฟพริกสูตรเผ็ดให้ความอบอุ่น (พริกค่ะ สไปซี่ คอฟฟี่)" กาแฟ 3 In 1 สูตรแรกของโลกที่มีสารสกัดจากพริกขี้หนูเป็นส่วนผสมรายแรกของโลก ผสานกลิ่นและรสชาติที่อร่อยลงตัว ไม่เติมน้ำตาล ไม่มีไขมันทรานส์ และ ไม่มีโคเลสเตอรอล ซึ่งถือว่าเป็นกาแฟทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกแตกต่างจากกาแฟ 3 in 1 ทั่วๆไป ทั้งรสชาติและความรู้สึกหลังดื่มที่ให้สัมผัสถึงความเผ็ดและความอบอุ่นสบายท้อง ตอบโจทย์กับผู้ที่อยู่เมืองหนาว ผู้ที่ทำงานในห้องแอร์ อีกทั้งยังเป็นของฝากหรือของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันพริกค่ะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 30 ล้านบาท/ปี และยังวางแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศในอนาคตอันใกล้
จะดื่มกาแฟอย่างเดียวก็คงจะไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ถ้ามีขนมแสนอร่อยอย่างบราวนี่ทานคู่กันก็จะได้ความฟินอีกระดับ และนี่คือ "บราวนี่กลูเตนฟรี" บราวนี่ที่มีรสชาติกรอบอร่อย ปราศจากกลูเตน ตอบโจทย์ตลาดอาหารแห่งอนาคต (Future Food) สินค้าดังกล่าวถือได้ว่าเป็นขนมอบกรอบเกรดพรีเมี่ยม เนื้อสัมผัสของขนมนุ่มฟู ไม่แห้งกระด้าง ใช้แป้งข้าวเจ้าไทยสายพันธุ์ดีทดแทนการใช้แป้งสาลี จึงมั่นใจได้ว่าปราศจากกลูเตน ช่วยตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานขนมทางเลือกที่อร่อยและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้แป้งข้าวสาลี สร้างยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศได้หลายล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปี ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแป้งข้าวเจ้าไทยด้วยการแปรรูป จากกิโลกรัมละ 30 บาท เป็น 1,480 บาท ช่วยก่อให้เกิดการจ้างงาน ช่วยสนับสนุนสินค้าจากชุมชน และการกระจายรายได้เข้าสู่เกษตรกร 100,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ หรือพูดง่ายๆว่า ยิ่งมีการกระจายตลาดมากแค่ไหนก็ยิ่งจะทำให้สินค้าจากชุมชนและเกษตรกรมีรายได้มากยิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยเรื่องความสวยความงามกันบ้างกับ Cleanradex Eyelid ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเปลือกตาและขนตาจากข้าวไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเปลือกตา เพราะทุกวันนี้เราก็ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริง มีการค้นพบว่าหลายปีที่ผ่านมาคนไทยจำนวนมากเป็นโรคตาแห้งกันถึงร้อยละ 70-80 ด้วยเหตุนี้จึงมีการวิจัยและพัฒนาข้าวไทยและน้ำมันมะพร้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเปลือกตา เพราะในข้าวมีสาร Ricecoside เป็นสารทำความสะอาดหรือ Green Surfactant ช่วยในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกและไขมันบริเวณรอบดวงตา สามารถกำจัดไรขนตาที่เป็นสาเหตุหลักของอาการตาแห้ง นอกจากนี้ยังผ่านกระบวนการเทคโนโลยีสีเขียว ปราศจากสารเคมีอันตราย เหมาะสำหรับการทำความสะอาดที่อ่อนโยน ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทยได้ประมาณ 20 เท่า สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 25 ล้านบาท/ปี และยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรและชุมชนได้อีกด้วย
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์นวัตกรรมกลุ่มธุรกิจ ซีพี ออลล์ โทร. 02-677-9782, 02-677-9770 อีเมล์. 7innovationawards@gmail.com หรือเว็บไซต์ http://www.7innovationawards.com