กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 4 จังหวัด รวม 10 อำเภอ 35 ตำบล 252 หมู่บ้าน พร้อมจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขอความร่วมมือให้ประชาชนสำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภคและใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนเกษตรกรควรเลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง เพื่อป้องกันมิให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง โดยปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) รวม 4 จังหวัดประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองสรวง และอำเภอสุวรรณภูมิ) ศรีสะเกษ (อำเภอเมืองจันทร์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอไพรบึง และอำเภอศรีรัตนะ) ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ตราด (อำเภอเมืองตราด อำเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) ชลบุรี (อำเภอเกาะสีชัง) รวม 35 ตำบล 252 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องรวมถึงประสานจังหวัดสำรวจและจัดทำบัญชีปริมาณน้ำในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการ สูบน้ำดิบเข้าสู่ระบบประปาหมู่บ้านและถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน ให้ประชาชนได้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนจัดหา ทำความสะอาด ซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ สำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภคและใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนเกษตรกรควรติดตามสถานการณ์น้ำ เลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง เพื่อป้องกันมิให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย