กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
ห้องอาหารมิชลินสตาร์ สระบัว บาย กิน กิน ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฤดูร้อนกับเซตดินเนอร์ "The Summer Journey" อิ่มเอมไปกับอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นจำนวน 8 คอร์ส พร้อมเสิร์ฟคลายร้อนวันที่ 1 เมษายน ศกนี้
เซตดินเนอร์ "The Summer Journey" เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเชฟมิชลินสตาร์ "เฮนริค อูล แอนเดอร์เซน" เชฟที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน และหัวหน้าพ่อครัว "ชยวีร์ สุจริตจันทร์" ที่นำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นประจำฤดูกาลมาสร้างสรรค์เป็นอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นสุดครีเอทีฟจำนวน 8 คอร์ส เริ่มด้วยอภินันทนาการอาหารกรุบกรอบสไตล์ snacks and street-food เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่ทุกท่านจะเริ่มรับประทานอาหารในเมนูแรก เช่น ขนมกรอบไข่ขาวซอสถั่วเหลืองพร้อมมายองเนสวาซาบิ (Meringue soya wasabi) ที่มาพร้อมกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในถุงพลาสติกใส (edible plastic bags of nuts) ต่อด้วยเมนูแคบหมูน้ำพริกหนุ่ม ไอศกรีมโคนแกงเหลือง และทูน่าทาร์ทาร์เสิร์ฟในดอกบัว เป็นต้น
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน นำเสนอเมนูใหม่ต้อนรับซัมเมอร์
เมนูไฮไลท์ในเซตดินเนอร์ "The Summer Journey" ประกอบไปด้วย เมนูเรียกน้ำย่อยแสนอร่อย "ยำปลาแฮลิบัต" ที่ใช้เทคนิคการปรุงแบบเซวิเช่ โดยนำปลาแฮลิบัตแช่ไว้ในน้ำยำเสาวรสตำมือ ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวตามธรรมชาติเป็นเวลา 5 นาที โดยมีจุดเด่นในการใช้นาฬิกาทรายเป็นเครื่องมือจับเวลา เสิร์ฟพร้อมขนมสายไหมที่ให้รสหวานเข้ากันได้เป็นอย่างดี (Thai Ceviche with Halibut and Passion Fruit) ถัดมาเป็นเมนู "ฟัวกราส์ลาบเป็ด" ที่นำเนื้อฟัวกราส์คุณภาพนำเข้าคลุกเคล้ากับเนื้อเป็ด และเครื่องปรุงรสลาบตามสูตรดั้งเดิม ให้รสชาติอร่อยจัดจ้าน (Larb Duck Salad with Foie Gras and Mint) ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน "พฤกษชาติ" ที่เสิร์ฟไอศกรีมซอร์เบจากดอกอัญชัน พร้อมดอกไม้รับประทานได้นานาชนิด ซึ่งเมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานทางศิลปะของศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศส "อีฟว์ แกล็ง" ที่โดดเด่นในการใช้โทนสีฟ้าในการสร้างสรรค์ผลงาน และเมนู "ไอศกรีมสามเกลอ" เสิร์ฟไอศกรีมสามรูปแบบในน้ำแข็งใส เริ่มจาก ไอศกรีมใบเตย ไอศกรีมชาเอิร์ล เกรย์ และไอศกรีมมะกรูดพร้อมส้มยูซุ ช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายได้ผ่อนคลาย และเพิ่มความสดชื่นหลังจากรับประทานอาหาร นอกจากนี้ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ยังเสิร์ฟขนมหวานชิ้นเล็กๆ (petit fours) ที่ออกแบบมาสุดสร้างสรรค์ พร้อมชาถ้วยโปรดหรือกาแฟ ส่งท้ายมื้ออาหารได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย
"วิสัยทัศน์ของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน คือความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยแนวใหม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านที่มารับประทาน เมนูที่เสิร์ฟในเซตดินเนอร์ "The Summer Journey" ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารไทยจานเด่นยอดนิยม และนำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นประจำฤดูกาลมาผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารที่ทันสมัย นำเสนอออกมาเป็นอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติอันกลมกล่อม และเป็นเอกลักษณ์ตามสูตรอาหารไทยแท้ดั้งเดิม" กล่าวโดย เชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ หัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน
เซตดินเนอร์ "The Summer Journey" 8 คอร์ส ราคา 3,200 บาท++ ต่อท่าน (เฉพาะค่าอาหาร) เปิดให้บริการเวลา 18:00 น. ถึง 24:00 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 21:00 น.) เริ่ม 1 เมษายน ศกนี้
*ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อท่าน ยังไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน นำเสนอเมนูใหม่ต้อนรับซัมเมอร์
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันเวลา 12:00 น. ถึง 15:00 น. และมื้อค่ำเวลา 18:00 น. ถึง 24:00 น. โดยมีให้เลือกทั้งในแบบเซตเมนูและอาหารจานเดี่ยว (a la carte)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรืออีเมล์ srabua.siambangkok@kempinski.com
เกี่ยวกับห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ตั้งอยู่ในโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการในปีพ.ศ.2553 และเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับเลือกให้เป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia's 50 Best Restaurant) ติดต่อกันเป็นเวลาสองปีในปีพ.ศ.2557 และ พ.ศ.2558 อีกทั้งยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในงานประกาศรางวัล The MICHELIN Guide Bangkok, Phuket, and Phang-nga 2019 อีกด้วย
คอนเซปต์ของร้านเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในการรับประทานอาหารอย่างแท้จริง นำทีมโดยหัวหน้าพ่อครัว "ชยวีร์ สุจริตจันทร์" ที่จะพาทุกท่านดื่มด่ำไปกับอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ที่ถูกคิดค้นและปรุงขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยใช้เทคนิคต่างๆจากทั่วทุกมุมโลก นำเสนออกมาในรูปแบบที่สร้างสรรค์แตกต่างไปจากอาหารไทยจานเดิมที่เราคุ้นเคย หากแต่วัตถุดิบและรสชาติของอาหารในแต่ละคำนั้นยังคงสัมผัสได้ถึงความเป็นไทยผ่านสมุนไพรและเครื่องเทศในแบบดั้งเดิมให้รสชาติที่กลมกล่อมครบรสไปด้วย หวาน เปรี้ยว เค็ม และเผ็ดซึ่งเป็นรสชาติหลักของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบทุกอย่างผ่านการปรุงสดใหม่และทำขึ้นมาเองแบบโฮมเมด (homemade) วันต่อวัน ร่วมอิ่มอร่อยและเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับเมนู "แกง" ที่เสิร์ฟในรูปแบบของไอศกรีม (ซึ่งปกติเสิร์ฟเป็นแบบร้อน) เป็นต้น