ฐานะการคลังตามระบบ สศค. ไตรมาสแรก (ตุลาคม — ธันวาคม 2550) ประจำปีงบประมาณ 2551

ข่าวทั่วไป Wednesday January 30, 2008 13:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยฐานะการคลังเบื้องต้นตามระบบ สศค. (ระบบ Government Finance Statistics: GFS) ในไตรมาสแรก (ตุลาคม — ธันวาคม 2550) ประจำปีงบประมาณ 2551 สรุปได้ว่า ในไตรมาสแรกรัฐบาลขาดดุลการคลังทั้งสิ้น 87,480 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.0 ของ GDP โดยขาดดุลเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 69,240 ล้านบาท การขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้นมากเป็นผลจากการขยายตัวของรายจ่ายรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 38.4 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตในระดับร้อยละ 5.0 ในปี 2551 โดยรายละเอียดของฐานะการคลังตามระบบ สศค. มีดังนี้
1. รัฐบาลมีรายได้รวม 328,028 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 3.6 ของ GDP) เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 โดยรายได้ภาษีที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนในอัตราสูงได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
2. ในขณะที่รัฐบาลมีรายจ่ายทั้งสิ้น 391,685 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 4.3 ของ GDP) เพิ่มขึ้น 108,752 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีรายจ่ายทั้งสิ้น 282,933 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 3.4 ของ GDP) โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องจากปี 2550 พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีมีผลบังคับใช้ล่าช้า
3. ผลจากการที่รายจ่ายรัฐบาลสูงกว่ารายได้ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในไตรมาสแรกขาดดุล 63,657 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 21,225 ล้านบาท
4. รายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ (Project Loans) มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 74 ล้านบาท
ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 205 ล้านบาท เบิกจ่ายลดลง 131 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 63.8 เนื่องจากยังไม่มีการเบิกจ่ายในส่วนของเงินกู้ Structural Adjustment Loans (SAL)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ