กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--บุญรอดบริวเวอรี่
ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย และบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) จัดแถลงข่าว "ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2019" ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 36 ล้านบาท พร้อมคะแนนสะสมโลก ขณะที่แชมป์ทำเงินสูงสุดรับโบนัสอีก 5 แสนบาทพร้อมตั๋วเล่นเอเชียนทัวร์ 2020 และสิทธิ์เล่นสิงคโปร์ โอเพ่น 2020
เมื่อวันพุธที่ 3 เมษายน 2562 ณ ห้องแคทลียา โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ จัดแถลงข่าวการแข่งขันประจำฤดูกาล 2019 อย่างเป็นทางการ โดยมี คุณจักรพงศ์ ทองใหญ่ ประธานกรรมการบริหารออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์, คุณบุญชู เรืองกิจ ประธานทีพีซี, คุณสรวง จันทรอุไร ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมกีฬา บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด, คุณวิบูณ จำปาเงิน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนากีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย,คุณวุฒิภัทร เกียรติอาภาเดช ผู้แทนจากบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน), โทโมยะ ซาโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกซอน สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด, คุณประภา เหมมินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย การตลาดและกิจกรรมองค์กร ลากูน่า ภูเก็ต และคุณธงชัย ใจดี นักกอล์ฟอาชีพระดับโลก เข้าร่วมแถลงข่าวพร้อมกับสื่อมวลชนคับคั่ง
นายจักรพงศ์ ทองใหญ่ ประธานกรรมการบริหารออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ กล่าวว่า "นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1999 ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องผู้เล่นและการจัดการแข่งขันจนได้มาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกในทุกวันนี้ จากความพยายามต่อเนื่องและการยอมรับเหล่านี้ทำให้ทัวร์ได้คะแนนสะสมโลก ซึ่งก็จะเป็นแรงกระตุ้นช่วยให้มีการพัฒนาที่มากยิ่งขึ้น"
"เราทำงานหนักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนถึงปีนี้เป็นที่ 21 เราก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อให้ทัวร์ของเราสามารถตอบสนองความต้องการของนักกอล์ฟและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ" นายจักรพงศ์ กล่าว
"ความสำเร็จที่ผ่านมาก็ต้องขอขอบคุณสปอนเซอร์ทุกท่านโดยเฉพาะสิงห์คอร์เปอเรชั่นที่ช่วยกันขับเคลื่อนทัวร์มาโดยตลอดจนถึงวันนี้ และก็หวังว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันต่อไปเพื่อสานต่อความสำเร็จเหล่านี้ให้ยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา"
ประธานกรรมการบริหารทัวร์ กล่าวเสริมว่า "การที่ทัวร์ได้รับคะแนนสะสมโลกในแต่ละรายการทำให้นักกอล์ฟหลายคนสามารถขึ้นสู่อันดับโลกได้สูงสุดเท่าที่เคยเล่นอาชีพมา ขณะที่หลายคนก็ได้เข้าในอันดับโลกเป็นครั้งแรกด้วย"
"การได้คะแนนโลกทำให้แต่ละรายการมีความน่าสนใจขึ้นอย่างมาก เพราะอันดับโลกนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการคว้าสิทธิ์เล่นบางรายการที่สำคัญซึ่งก็รวมถึงรายการเมเจอร์และกอล์ฟในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ด้วย"
สำหรับออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2019 มีจำนวน 10 รายการ ชิงเงินรางวัลรวม 28 ล้านบาท ขณะที่อีก 2 รายการคือ ธงชัย ใจดี ฟาวเดชั่น และ บุญชู เรืองกิจ แชมเปี้ยนชิพ (รายการละ 4 ล้านบาท) นั้น มีการโคแซงชั่นกับเอเชียนดีเวลล็อปเม้นท์ทัวร์ ทำให้รวมเงินรางวัลทั้งสิ้นในปีนี้จำนวน 36 ล้านบาท ทั้งนี้ นักกอล์ฟที่ทำผลงานได้ดีในแต่ละรายการจะได้คะแนนสะสมโลก โดยแชมป์จะได้อย่างน้อย 5 คะแนน และคะแนนก็จะลดหลั่นไปตามลำดับ
การแข่งขันปีนี้ 4 รายการได้เริ่มต้นแล้ว โดยแมตช์เปิดฤดูกาล "บุญชู เรืองกิจ แชมเปี้ยนชิพ" เมื่อเดือนมกราคม แชมป์ตกเป็นของ "โปรบูม" อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ ที่คว้าเงินรางวัลพร้อม 10 คะแนนสะสมทำให้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 328 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับดีสุดตั้งแต่เทิร์นโปร ขณะที่ "โปรแจ๊ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ที่จบอันดับ 5 ในรายการนี้ก็ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 110 ของโลกได้เป็นครั้งแรก โดยปัจจุบัน แจ๊ส อยู่ที่อันดับ 73 ของโลก นอกจากนั้นแล้ว วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง ที่ได้อันดับ 9 ร่วมก็ขึ้นมาติดอันดับโลกเป็นครั้งแรกโดยขึ้นมาอยู่ที่ 1,503 ก่อนที่จะขยับอีก 624 อันดับ ขึ้นไปอยู่ที่ 868 ของโลกจากการได้รองแชมป์ "สิงห์อีสาน โอเพ่น" รายการที่ 2 ของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ เมื่อวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ ซึ่งแชมป์รายการนี้ตกเป็นของ "โปรแดน" แดนไท บุญมา ที่ได้ถ้วยรายการนี้ไปครองเป็นสมัยที่ 2
"โปรเพชร" สดมภ์ แก้วกาญจนา วัย 21 ปี จากนราธิวาส คว้าแชมป์อาชีพแรกให้ตัวเองสำเร็จ ในศึก "ธงชัย ใจดี ฟาวน์เดชั่น" เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พร้อมขยับอันดับโลก 435 อันดับ มาอยู่ที่ 626 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับ โคสุเกะ ฮามาโมโตะ ที่ได้รองแชมป์รายการนี้ก็ขยับ 524 อันดับ ขึ้นมาอยู่ที่ 917 และเป็นผลงานอันดับโลกที่ดีสุดเช่นเดียวกัน ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา สาริศ สุวรรณรัตน์ ทำอันดับโลกที่สุดให้กับตัวเอง หลังจากได้รองแชมป์ "สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส" ที่จังหวัดเชียงราย โดยขึ้นจากที่ 790 มาอยู่ที่ 572 ส่วนแชมป์เป็นของพรหม มีสวัสดิ์ ซึ่งเคยได้แชมป์รายการนี้เมื่อตอนเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นในปี 1999
นอกจากเงินรางวัลและคะแนนสะสมโลกแล้ว ยังมีเงินรางวัลพิเศษสำหรับคนที่ทำโฮลอินวัน อีกด้วย โดยบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) จะมอบรางวัลโฮลอินวัน 100,000 บาท ให้ในทุกรายการ (หลุมพาร์ 3 จำนวน 1 หลุม สำหรับคนแรกที่ทำได้ในแต่ละรายการในรอบทัวร์) และถ้าตลอดทั้งฤดูกาล ไม่มีใครทำโฮลอินวันตามที่กำหนดไว้ บริษัทฯ ก็จะมอบเงินจำนวน 200,000 บาทเป็นสาธารณกุศลให้กับมูลนิธิรวมใจสานฝัน