กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
อินเทลมอบประสิทธิภาพการประมวลผลอันเหนือชั้น ระบบ AI และ Persistent Memory ประสิทธิภาพสูงที่ก้าวล้ำและทันสมัยเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าอินเทล
ประเด็นสำคัญ
- อินเทลประกาศวางจำหน่าย Intel(R) Xeon(R) Scalable Processor เจนเนอเรชั่น 2 ที่มาพร้อมประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีต่อระบบการประมวลผลตั้งแต่อุปกรณ์ปลายทาง (Edge) ไปจนถึงคลาวด์ (Cloud) และครอบคลุมไปถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
- อินเทลเปิดตัวชิปประมวลผล Intel Xeon Processor พร้อมประสิทธิภาพที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 50 เวิร์คโหลด ครบครันด้วยโปรเซสเซอร์อีกหลายตัวที่ออกแบบมาด้วยงานวิศวกรรมเชิงลึกร่วมกับลูกค้าอินเทล ที่มีจำนวนแกนประมวลผลได้สูงถึง 56 คอร์ และ Intel(R) Xeon(R) Platinum 9200 Processor ชาแนลหน่วยความจำ 12 ช่อง
- ฟีเจอร์ใหม่ของ Intel Xeon Scalable Processor เจนเนอเรชั่น 2 ประกอบด้วย Intel(R) Deep Learning Boost (Intel DL Boost) เพื่อรองรับการเรียนรู้ AI เชิงลึก ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า deep learning inferencing acceleration และรองรับหน่วยความจำเสถียรภาพสูงของ Intel(R) Optane(R) DC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิบัติวงการหน่วยความจำเพื่อให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาจับต้องได้
- อินเทลเปิดตัว Intel(R) Agilex(TM) FPGAs ขนาด 10 นาโนเมตร ซึ่งจะเพิ่มความเร็วให้กับอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้งานในยุคที่มีข้อมูลเป็นศูนย์กลาง
อินเทลประกาศเปิดตัว Intel(R) Xeon(R) Scalable Processor เจนเนอเรชั่น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบมีข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ Intel(R) Optane(TM) DC และโซลูชั่นการจัดเก็บ ซอฟต์แวร์ และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ยกระดับเพื่อทำให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของพวกเขาอย่างคุ้มค่า อินเทลมุ่งมั่นการใช้งานที่กว้างขึ้นบนคลาวด์คอมพิวติ้ง โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย และอินเทลลิเจนท์ เอดจ์ และรองรับปริมาณเวิร์คโหลดที่เติบโตสูงขึ้น รวมทั้ง AI และ 5G
โซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ของอินเทลมุ่งเน้นไปที่เรื่อง เซิร์ฟเวอร์ เน็ตเวิร์ค สตอเรจ และแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT) ล้วนต่อยอดมาจากแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกมากว่า 20 ปี ของอินเทล และการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ผลิตภัณฑ์หลักของอินเทลจึงเน้นไปที่เซิฟเวอร์ เครือข่าย การจัดเก็บ และแอปพลิเคชั่น Internet of Things (IoT) และเวิร์คสเตชั่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำให้กลยุทธ์การใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางของอินเทลรุดหน้าขึ้นสามารถที่จะเข้าถึงตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางที่มีมูลค่าสูงถึง 300 พันล้านเหรียญสหรัฐ
"การเปิดตัวของเราในวันนี้นับว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางแบบใหม่ของอินเทล" นาวิน เชนอย รองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไป Data Center Group ของอินเทล กล่าวและเสริมว่า "ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่เปิดตัวในวันนี้ตอกย้ำถึงความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้อมูล การจัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลข้ามผ่านปริมาณความต้องการเวิร์คโหลดจากศูนย์ข้อมูลไปยัง Edge อย่างที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ Xeon(R) Scalable โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 ของเรา พร้อมการติดตั้งตัวเร่งความเร็ว AI และสนับสนุนการปฏิวัติหน่วยความจำ Intel Optane DC persistent memory ซึ่งจะเป็นคลื่นการเติบโตต่อไปสำหรับลูกค้าของเรา"
วันนี้มีการประเมินว่าการวิเคราะห์ข้อมูลของโลกเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ที่ไม่ได้รับโอกาสผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนธุรกิจและข้อมูลเชิงลึกทางสังคมอินเทลมุ่งเน้นที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สร้างมูลค่าทางธุรกิจจากข้อมูลที่ไม่ได้ใช้นี้ด้วยการนำเสนอโซลูชันของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องการใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ ที่ได้รับการปรับให้เหมาะที่สุดในการเคลื่อนย้ายข้อมูลได้เร็วขึ้นจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงควบคุมและจัดการได้ทุกสิ่ง
ควบคุมและจัดการได้ทุกสิ่ง
อินเทลลงทุนไปยังผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรเซสเซอร์ที่มีอยู่มากมาย ตั้งแต่อุปกรณ์ประมวลผลทั่วไปไปจนถึงโปรเซสเซอร์ที่สร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้สถาปัตยกรรมของอินเทลทรงประสิทธิภาพ กลุ่มเป้าหมายที่มีการเติบโตเวิร์คโหลดสูงที่สุดในอุตสาหกรรม โปรเซสเซอร์สำหรับระบบที่ใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางที่อินเทลเปิดตัวในวันนี้นับเป็นการต่อยอดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการขยายตัวของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยขยายขีดความสามารถด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพโปรเซสเซอร์ได้มากกว่า 50 เวิร์คโหลดครบครันด้วยโปรเซสเซอร์อีกหลายตัวที่ออกแบบมาด้วยงานวิศวกรรมเชิงลึกร่วมกับลูกค้าอินเทล
Intel(R) Xeon(R) Scalable Processor เจนเนอเรชั่น 2 ที่พร้อมวางจำหน่ายแล้วในวันนี้ เป็นแพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูงที่พร้อมส่งมอบการปรับปรุงเชิงวิวัฒนาการในเรื่องของประสิทธิภาพ การอนุมาน AI ฟังก์ชันเครือข่าย แบนด์วิดท์หน่วยความจำถาวรที่ก้าวล้ำและความปลอดภัย ภายในโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลกว่าเป็นรากฐานของการประมวลผลของศูนย์ข้อมูล การสนับสนุนระบบนิเวศในวงกว้างและการยอมรับของลูกค้าอย่างรวดเร็วคาดว่าจะทำให้ Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 2 สามารถปรับขนาด Intel Xeon Processor ที่เร็วที่สุดของเราได้ ความเร็วในการเข้าถึงหน่วยความจำ (Memory Bandwidth) ที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยที่มีมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์หลักของโปรเซสเซอร์ตระกูลนี้มีดังนี้
- การผสมผสานระหว่าง Intel(R) Deep Learning Boost (Intel DL Boost) ซึ่งเป็นการปรับเทคโนโลยีให้เหมาะสมเพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงาน เช่น การจดจำภาพ การตรวจจับวัตถุ และการแบ่งภาพเป็นส่วนๆ ในศูนย์ข้อมูล และสภาพแวดล้อมการใช้งานที่เหมาะสมกับเอ็นเตอร์ไพรซ์และอินเทลลิเจนท์ เอดจ์ อินเทลมีการประสานงานร่วมกับคู่ค้าคุณภาพจำนวนมาก (เช่น TensorFlow*, PyTorch*, Caffe*, MXNet* and Paddle Paddle*) รวมทั้งแอปพลิเคชั่นที่มีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Intel DL Boost อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นแล้วอย่างเช่น OpenVINO เพื่อให้การใช้งานเป็นไปได้ง่ายขึ้น
- รองรับการทำงานของหน่วยความจำ Intel(R) Optane(R) DC persistent memory ที่ได้รับการพัฒนาให้มีจุดเด่นในเรื่องของขนาดความจุขนาดใหญ่ที่ราคาจับต้องได้และการทำงานที่มีเสถียรภาพที่ที่ผสานเข้ากับกลุ่มผลิตภัณฑ์ประมวลผลข้อมูลเป็นศูนย์กลางของอินเทล โดยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยนี้จะช่วยทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลของพวกเขาได้เร็วขึ้นและมอบความจุหน่วยความจำสูงสุดถึง 36TB หากใช้ร่วมกับ DRAM ที่มีอยู่ในระบบแปดซ็อคเก็ต การนำเสนอนี้แสดงถึงความจุหน่วยความจำระบบเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับ Intel Xeon Scalable Processor เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า
- คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของหลายฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการคำนวณ อีกทั้งยังมีการป้องกันช่องทางใหม่ที่ติดตั้งไว้ในฮาร์ดแวร์โดยตรงนอกเหนือจากการเปิดตัว Intel Xeon Scalable Processor เจเนอเรชั่น 2 แล้ว อินเทลยังเปิดตัวโปรเซสเซอร์ตระกูลอื่นที่ล้วนเป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานที่ทำให้ขับเคลื่อนธุรกิจได้
- อินเทลยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำในการส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบประมวลผลด้วยการเปิดตัว Intel(R) Xeon(R) Platinum 9200 Processor ด้วยสเปค 56 คอร์ และ 12 ช่องหน่วยความจำ โปรเซสเซอร์ตัวนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นผู้นำด้าน DDR เมมโมรี่ แบนด์วิธ ในความหลากหลายของเวิร์คโหลด high-performance computing (HPC) รองรับ AI และมีโครงสร้างพื้นฐานแบบ high-density
- อินเทลนำเสนอการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย Intel Xeon Scalable Processor ใหม่ ที่มุ่งไปยังเรื่องแอปพลิเคชันสำหรับการใช้งานเครือข่าย ซึ่งเป็นการผลิตร่วมกับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารเพื่อเพิ่มสมรรถนะการใช้งานและลดปัญหาการขัดข้องของโครงสร้างพื้นฐาน network function virtualized (NFV) โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable สามารถทำให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่า สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการทำงานและความต้องการ และพร้อมรองรับเครือข่าย 5Gอินเทลเปิดตัว Intel(R) Xeon(R) D-1600 Processor ที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของคอมพิวติ้ง (computing) ที่อุปกรณ์ปลายทาง (edge) ความปลอดภัย และโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูล ที่เป็นเทคโนโลยี system-on-chip (SoC) ระบบประมวลผลกราฟฟิกอินทิเกรตที่ออกแบบมาเพื่อทำงานในสภาพแวดล้อมหนาแน่นที่มีพลังงานและพื้นที่มีจำกัด แต่ต้องการผลงานที่เป็นเลิศ ซึ่ง SoC รุ่นต่อไปนี้จะช่วยให้ลูกค้าใช้งานระบบ 5G ได้อย่างราบรื่นและต่อยอดความสามารถของอินเทลในเรื่องอินเทลลิเจนท์ เอดจ์
- นอกจากนี้อินเทลยังได้เปิดตัวเจเนอเรชั่นต่อไปของ FPGA ขนาด 10 นาโนเมตร ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ความสามารถในการคำนวณดีขึ้น รองรับเครือข่าย (5G/NFV) และศูนย์ข้อมูลต่างๆ ผลิตภัณฑ์ตระกูล Intel Agilex(TM) FPGA สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง และการปรับแต่งเพื่อยกระดับความยืดหยุ่นและความคล่องตัวใหม่ให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ข้อมูลจำนวนมาก
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
อินเทลสร้างความตกตะลึงให้กับตลาดหน่วยความจำและการจัดเก็บด้วยเทคโนโลยีหลักที่เชื่อมต้นทุนและช่องโหว่ในเรื่องของประสิทธิภาพหน่วยความจำและลำดับชั้นการจัดเก็บข้อมูล หน่วยความจำและการจัดเก็บนับเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ หากใช้งาน Intel Optane DC persistent memory ร่วมกับ Intel(R) Optane(TM) SSD และ Intel(R) ตระกูล QLC 3D NAND SSD แล้ว อินเทลจะทำให้ผู้ใช้หมดปัญหาเรื่องสัญญาณติดขัดซึ่งขัดขวางการส่งข้อมูล และมีความพร้อมเสมอในการประมวลผลข้อมูล
ผลิตภัณฑ์หน่วยความจำล่าสุดและโซลูชันการจัดเก็บที่วางจำหน่ายแล้ววันนี้ประกอบด้วย
- Intel Optane DC persistent memory เป็นหน่วยความจำเสถียรภาพสูง มาใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มของ Intel Xeon Scalable
- Intel Optane SSD DC D4800X (พอร์ตคู่) เป็นการทำงานรวมกันระหว่าง Intel(R) Optane(TM) DC SSDs และความยืดหยุ่นของข้อมูลที่เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นในการใช้งานระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ ไอที ในส่วนของพอร์ตคู่นั้นจะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องในกรณีที่เกิดความขัดข้องจากผู้ให้บริการและในระหว่างการอัพเกรด
- Intel SSD D5-P4326 (Intel QLC 3D NAND) เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก PCle QLC NAND SSD ที่ออกสู่ตลาดมาเป็นรุ่นแรก ด้วยเทคโนโลยี 64-Layer QLC (4 บิตต่อเซลล์) ผลิตภัณฑ์ตระกูลนี้จึงมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งานปริมาณมากบนคลาวด์และจำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ สำหรับ Intel SSD D5-P4326 จะเป็นตัวที่ช่วยให้ HDD displacement เป็นไปได้ด้วยความเร็วขึ้นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่ยังไม่เรียบร้อย
ก้าวไปให้เร็วขึ้น
อิลเทลตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในเรื่องความรวดเร็วของการเชื่อมต่อ ด้วยเซิฟเวอร์ Ethernet จาก 1GbE จนถึง 100GbE ซึ่งเป็นพื้นฐานของเครือข่ายทั่วโลก ตั้งแต่ผู้ให้บริการ Hyper-Scale Cloud ไปจนกระทั่งองค์กรขนาดใหญ่ติดอันดับ Fortune 1000 อินเทลได้จัดพอร์ต Ethernet แล้วมากกว่า 1.3 พันล้านชิ้น และยังคงความเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อได้อย่างต่อเนื่องโดยการเปิดตัว Intel(R) Ethernet 800 Series Adapter ที่ใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Application Device Queues (ADQ) สำหรับ Intel Ethernet 800 Series Adapter นี้จะมีพอร์ตความเร็วมากถึง 100Gbp และออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้ายข้อมูลจำนวนมหาศาล สามารถทำให้คาดเดาระยะเวลาการตอบสนองของการใช้งานได้ ช่วยลดระยะเวลาแฝง และทำให้ได้ปริมาณงานที่มากขึ้น
การจัดจำหน่าย
อินเทลพร้อมจัดจำหน่าย Intel Xeon Scalable Processor เจเนอเรชั่น 2, Intel Xeon D-1600 Processor, หน่วยความจำ Intel Optane DC persistent memory และ Intel SSD D5-P4326 แล้ววันนี้ สำหรับ Intel Ethernet 800 Series กำลังอยู่ในช่วงการทดลองตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีกำหนดผลิตเพื่อจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 สำหรับผลิตภัณฑ์ตระกูล Intel Agilex(TM) FPGA ของ FPGA 10 นาโนเมตร จะเริ่มทดลองใช้ตัวอย่างในครึ่งหลังของปี 2562 Intel expects systems กับ Intel Xeon Platinum 9200 Processor จะเริ่มจัดส่งในครึ่งแรกของปี 2562 และวางจำหน่ายในครึ่งหลัง ส่วน Intel Optane DC SSD D4800X นั้น หากทราบกำหนดวางขายแล้วทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
เกี่ยวกับอินเทล
อินเทล NASDAQ: INTC) เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ และเป็นบริษัทที่จะเข้าไปกำหนด (อนาคตการประมวลผลของการใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรมของโลก ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของบริษัทมีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก รวมทั้งช่วยให้อุปกรณ์อื่นๆ อีกนับพันล้านชิ้นมีความปลอดภัย มีพลังงาน และเชื่อมต่อกันได้ อีกทั้งยังก่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานของโลกอัจฉริยะ ที่มีการเชื่อมต่อกันระหว่างคลาวด์ (Cloud) มายังเครือข่าย และเป็นตัวเชื่อมให้ทุกอย่างสามารถเข้าหากันได้ หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทล กรุณาเข้าไปที่ newsroom.intel.com และ intel.com
อินเทลและโลโก้ของบริษัทฯ เป็นเครื่องหมายการค้าของอินเทลคอร์ปอเรชัน (Intel Corporation) ในสหรัฐอเมริกาและ / หรือประเทศอื่นๆ
*ชื่อและแบรนด์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ถือว่าเป็นทรัพย์สินของบริษัทอื่น
บรรยายภาพ
นาวิน เชนอย รองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไป Data Center Group ของอินเทล แผ่นเวเฟอร์ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Xeon Processor อินเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้งานในยุคที่มีข้อมูลเป็นศูนย์กลางเพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562