กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง
"เถ้าแก่น้อย" แตกไลน์รุกตลาดสแน็คปลาหมึก คว้า 6 สาว BNK48 นั่งพรีเซนเตอร์แบรนด์น้องใหม่ "เถ้าแก่น้อยทินเท็น" ปลาหมึกไข่เค็มครั้งแรกในเมืองไทย ภายใต้สโลแกน "หมึกเต็มแผ่น ไข่เค็มเต็มคำ" หวังสร้างแบรนด์จับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ มั่นใจโกยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 10 ภายใน 2 ปี
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKNเปิดเผยว่า ด้วยนโยบายของเถ้าแก่น้อย ที่มุ่งก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมอาหาร (Innovativs food company) นำความสุขสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ทำให้บริษัทเดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรม และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ล่าสุดบริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ "เถ้าแก่น้อย ทินเท็น" (Tinten) ปลาหมึกไข่เค็ม ภายใต้สโลแกน "หมึกเต็มแผ่น ไข่เค็มเต็มคำ" ที่มีความอร่อยของปลาหมึกผสมผสานความเข้มข้นของไข่แดงแท้ๆ ที่ถูกปรุงแต่งเป็นซอสไข่เค็มรายแรกของประเทศไทย ทำให้มีรสชาติเข้มข้น หอม อร่อย
"Tinten" เป็นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวประเภทปลาหมึก (Cuttlefish) ที่มีความแตกต่างจากสแน็คปลาหมึกที่วางจำหน่ายทั่วไป นอกจากทินเท็น ปลาหมึกแผ่นไข่เค็ม ยังมี เถ้าแก่น้อยทินเท็น โรล (Tinten Roll) ปลาม้วนปรุงรส รสหมึกย่าง ที่กรอบ อร่อย ไม่เหมือนใคร รับประทานสะดวก ซึ่งทั้งสองรูปแบบ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น และ กลุ่มคนเริ่มทำงานที่ต้องการขนมขบเคี้ยวที่มีความอร่อยแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
ด้านกลยุทธ์การทำตลาด บริษัทใช้งบการตลาดกว่า 25 ล้านบาท สำหรับทำตลาดแบบ 360 องศา เพื่อสร้างการรับรู้ในทุกช่องทาง ผ่านกลยุทธ์ "ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง" โดยมี 6 สาว BNK48 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ได้แก่ น้องวี น้องจูเน่ น้องฟ้อนด์ น้องมายยู น้องนิว และน้องมิวนิค เป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์โฆษณา (TVC) ชุด " หมึกไข่เค็ม " นำเสนอภายใต้แนวคิด "หมึกเต็มแผ่น ไข่เค็มเต็มคำ" โดย 6 สาว BNK48 มาในลุคน่ารัก สดใส พร้อมเพลงประกอบโฆษณาที่แต่งขึ้นใหม่เพื่อช่วยสร้างการรับรู้และตอกย้ำการจดจำแบรนด์ เริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีสื่อต่างๆ ผ่านทางช่องทาง Online , Billboard รวมถึงสื่อ ณ จุดขาย และกิจกรรม Fanmeet Tinten รวมถึงเถ้าแก่น้อยทินเท็น ไข่เค็มยังมี Special Packaging BNK48 Limited Edition ให้สะสมถึง 6 แบบ
"เถ้าแก่น้อย ทินเท็นถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ของเถ้าแก่น้อย ที่มุ่งมั่นพัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสแน็คประเภทปลาหมึก ด้วยจุดเด่นที่ความเข้มข้น แตกต่างจากแบรนด์ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น และพนักงานออฟฟิศ จึงนำ 6 สาว BNK 48 ซึ่งเป็น เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตมาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อช่วยสร้างการรับรู้และจดจำผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด"
สำหรับเถ้าแก่น้อยทินเท็น มี 2 รูปแบบ ได้แก่
1)Tinten ปลาหมึกแผ่นไข่เค็ม รสออริจินัล ขนาด 24 กรัม ราคา 39 บาท
2)Tinten Roll ปลาม้วนปรุงรส รสหมึกย่าง ขนาด 20 กรัม ( 5 กรัม x 4 ซอง ) ราคา 29 บาท
โดยสามารถหาซื้อ เถ้าแก่น้อย ทินเท็น ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าชั้นนำทั่วไป ได้แล้ววันนี้
นายอิทธิพัทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรม Fanmeet Tinten X BNK48 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 เมษายนนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น Mini concert จากน้องๆ BNK 48 ถ่ายภาพร่วมกับน้องๆ และยังสามารถลุ้นรับของรางวัลสุด Exclusive มากมาย เช่น Standee BNK48 ,Poster Limited Edition เป็นต้น อย่างไรก็ดีเถ้าแก่น้อยทินเท็น ถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่บริษัทพัฒนาขึ้นและมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 10 ภายในระยะเวลา 2 ปี ขณะที่ในปีที่ผ่านมาตลาดสแน็คประเภทปลาหมึกมีมูลค่าตลาดรวม 1,693 ล้านบาท มีการเติบโตร้อยละ 2.2
สำหรับตลาดขนมขบเคี้ยว (สแน็ค) มีมูลค่าตลาดรวม 37,236 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.8 แบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมันฝรั่ง มีมูลค่าตลาด 11,992 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.2 กลุ่มขนมขึ้นรูปมีมูลค่าตลาด 10,206 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.4 กลุ่มถั่ว มีมูลค่าตลาด 4,562 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.3 กลุ่มสาหร่ายปรุงรสมีมูลค่าตลาด 3,032 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.1 กลุ่มปลามีมูลค่าตลาด 2,865 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.7 กลุ่มปลาหมึกมีมูลค่าตลาด 1,693 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.5 กลุ่มข้าวเกรียบกุ้งมีมูลค่าตลาด 1,333 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.6 กลุ่มข้าวอบกรอบมีมูลค่าตลาด 1,299 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.5 กลุ่มผลิตภัณฑ์จากข้าวโพดมีมูลค่าตลาด 255 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.7