กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--วีโร่ พับลิค รีเลชั่นส์
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งเป้าปี 2563 เปิดโรงแรมอีก 710 แห่ง ขยายการเติบโตอีก 40% ทั่วเอเชียแปซิฟิก พร้อมกระตุ้นการสร้างงานอีกกว่า 40%
จากการประชุมการลงทุนโรงแรมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งที่ 15 แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยวิสัยทัศน์ขยายโรงแรมในเครือ 1,000 แห่งทั่วภูมิภาค ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563 และคาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการทำงานมากกว่า 50,000 ตำแหน่งให้กับภูมิภาคได้ ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีโรงแรมใหม่ในเครือให้ครบ 100 แห่ง หรือเฉลี่ย 20,000 ห้องทั่วภูมิภาค ทั้งในประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ เนปาลและอินเดีย โดยที่ผ่านมา แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มีโรงแรมในเครือกว่า 710 แห่ง ใน 23 ประเทศ ทั่วเอเชียแปซิฟิก ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด 23 จาก 30 แบรนด์โรงแรมชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายเครก เอส สมิธ ประธานและกรรมการผู้จัดการ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "การมีเครือข่ายที่ครอบคลุมและทั่วถึง เป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถมอบโอกาสอันหลากหลายแก่นักเดินทาง ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ของจุดหมายการเดินทางที่มากขึ้น โดยเฉพาะกับ แมริออท บอนวอย โปรแกรมการเดินทางใหม่ของเรา"
"ความสำคัญอีกอย่างนอกเหนือจากขนาดธุรกิจของเรา เราสามารถมอบการบริการคุณภาพสูง ความสะดวกสบาย และประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับผู้เข้าพักได้อย่างครบครัน ผ่านเครือข่ายโรงแรมทั่วโลกชั้นนำของเรา ทุกวันนี้นักเดินทางทั่วโลกต่างอยากได้ประสบการณ์การเดินทางที่ช่วยเติมเต็มความต้องการแบบเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อการดำเนินธุรกิจหรือการพักผ่อน ที่สามารถเปิดโลกทัศน์และมอบความทรงจำที่มีความหมาย เพราะสำหรับการเป็นผู้นำด้านการโรงแรมนั้น ความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการมอบช่วงเวลาอันน่าจดจำสำหรับผู้เข้าพักนั้นถือเป็นหน้าที่ที่อยู่ในสายเลือดของบริษัทฯ และเรามุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จะเป็นบริษัทด้านการท่องเที่ยวสุดประทับใจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป"
จีน อินเดีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการเติบโตในภูมิภาค
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลมีสาขาครอบคลุมยังจุดหมายปลายทางที่เป็นเทรนด์การท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็น 3 จาก 4 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ประเทศจีนยังเป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนโรงแรมกว่า 300 แห่ง ที่กำลังอยู่ในการดำเนินการสร้าง ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก หรือนับเป็นสัดส่วนถึง 50% ของโรงแรมทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในปีนี้ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลมุ่งเป้าที่จะเปิดโรงแรมอีก 30 แห่งในประเทศจีน รวมไปถึงโรงแรม เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์แห่งแรกในประเทศจีน เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ เซี่ยงไฮ้ ผู่ดง (JW Marriott Marquis Hotel Shanghai Pudong) ด้วยจำนวนห้องพัก 515 ห้อง โดยจะประกอบไปด้วยร้านอาหารและบาร์ (F&B Outlet) 6 ร้านและ เรเนซองส์ เซี่ยเหมิน รีสอร์ทแอนด์สปา (Renaissance Xiamen Resort
& Spa) โรงแรมภายใต้แบรนด์เรเนซองส์แห่งแรกในมณฑลฝูเจี้ยนที่จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 นอกจากนี้ยังมีโรงแรม เซนต์ รีจิส ฮ่องกง ในเครือ เดอะ เซนต์ รีจิส ที่จะเปิดตัวในย่านหว่านไจ๋ ฮ่องกงอีกด้วย
จากการเฉลิมฉลองโรงแรมแห่งที่ 100 ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ประเทศอินเดียยังคงมีอัตราการเติบโตสูงเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยจำนวนโรงแรมและรีสอร์ทที่กำลังอยู่ในการดำเนินการสร้างกว่า 50 แห่ง และจำนวนห้องพักอีกกว่า 30,000 ห้อง ที่จะเพิ่มขึ้นในปี พศ. 2566 และด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแรงและการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในอินเดีย ได้สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของที่พักและการบริการแบบลักซ์ชัวรี่ โดยในปี 2562 จะมีการเปิดตัวโรงแรม Port Muziris, Kochi, a Tribute Portfolio Hotel ในเครือเดอะ ทริบิวท์ พอร์ตโฟลิโอ ในประเทศอินเดีย ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
นอกจากนี้ จากการประชุมการท่องเที่ยวสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN tourism forum) ที่ผ่านมา หน่วยงานส่งเสริมการด้านท่องเที่ยวของอาเซียน ได้เผยถึงการผนึกกำลังในการริเริ่มทำการตลาด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลพร้อมตอบรับความร่วมมือในครั้งนี้ และด้วยโรงแรมกว่า 140 แห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซีย และความต้องการในการท่องเที่ยวที่มีอัตราเพิ่มมากขึ้น ผนวกกับแผนงานที่จะขยายแบรนด์โรงแรมไปในประเทศฟิลิปปินส์ถึง 3 เท่าภายในปี พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ แบรนด์โรงแรมพรีเมี่ยมระดับโลกอย่าง "เชอราตัน" ในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ก็เพิ่งเปิดตัว โรงแรม เชอราตัน มะนิลา (Sheraton Manila Hotel) ไปเมื่อไม่นานมานี้
ตามแผนการดำเนินงาน แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จะเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 50 แห่งภายในปี พ.ศ. 2563 โดยสะท้อนถึงการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง และจะมีแผนงานขยายและเปิดตัวแบรนด์โรงแรมอีกหลากหลายแบรนด์ในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงโรงแรมในเครือ เดอะ ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น (The Luxury Collection) และ เดอะ ริตซ์-คาร์ลตัน เพิร์ท (The Ritz-Carl ton Perth) ที่จะมีห้องพักจำนวน 205 ห้อง เตรียมเปิดตัวในเดือนมิถุนายนปีนี้ ทั้งนี้ยังมีแผนเปิดตัว โรงแรม เดอะ ทัสมัน (The Tasman) ในเมืองโฮบาร์ต และ แอลเลอเม้นต์ เมลเบิร์น ริชมอนด์ (Element Melbourne Richmond) ที่จะเน้นให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม มีแผนเปิดตัวครั้งแรกในออสเตรเลียในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้อีกด้วย
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดประตูสู่จุดหมายปลายทางอันหลากหลายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
จากการเปิดตัวแมริออท บอนวอย โปรแกรมสิทธิประโยชน์เพื่อการท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกเครือโรงแรมแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะใช้แทนโปรแกรมต่างๆ ได้แก่ แมริออท รีวอร์ดส (Marriott Rewards), เดอะ ริตซ์-คาร์ลตัน รีวอร์ดส (The Ritz-Carlton Rewards) และสตาร์วูด พรีเฟอร์ เกสต์ (Starwood Preferred Guest หรือ SPG) เมื่อไม่นานมานี้ นักเดินทางสามารถค้นพบประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ และรับแรงบันดาลใจสำหรับการเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครั้งต่อไปจากเว็บไซต์แมริออท บอนวอยเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จะให้ผู้เข้าพักได้พบกับจุดหมายปลายทางใหม่ในประเทศพม่า ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563 ด้วยการเปิดตัวโรงแรม "เชอราตัน ย่างกุ้ง" และมอบสิทธิประโยชน์เหนือใคร เพราะเราเชื่อว่าการท่องเที่ยวเดินทางมีส่วนช่วยให้เราและโลกมีคุณค่ามากขึ้น
วัฒนธรรมขับเคลื่อนความสำเร็จของบริษัทฯ
ด้วยวิสัยทัศน์การเปิดประตูสู่จุดหมายปลายทางอันน่าตื่นตาในเอเชียแปซิฟิกจาก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล นับเป็นส่วน
หนึ่งของการสร้างโอกาสงานประมาณ 50,000 ตำแหน่งงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563 การขยายตัวด้านการท่องเที่ยว จะช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานให้กับผู้ที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านการโรงแรมมาก่อน
ซึ่งข้อมูลจากงานวิจัยของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council: WTTC) ยังได้ระบุว่า 1 ใน 5 ของอาชีพใหม่เกิดขึ้นจากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
ทั้งนี้การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้กับพนักงานของเราให้มีการเติบโต และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และนี่คืออีกวีธีหนึ่งที่ แมริออท อินเตอร์เนชันแนล ดูแลพนักงาน ด้วยวัฒนธรรมการทำงานที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของพนักงาน และการใส่ใจบุคคลากรเป็นอันดับแรก เป็นวัฒนธรรมองค์กรมานานกว่า 90 ปี แมริออทได้สร้างธุรกิจบนพื้นฐานของความใส่ใจพนักงาน เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการดูแลแขกผู้เข้าพัก บริษัทจึงเชื่อว่าการสร้างองค์กรที่มีหลากหลายและมุ่งเน้นเรื่องการยอมรับ ทำให้วัฒนธรรมองค์กร แข็งแรงขึ้น และสร้างการแข่งขันที่สามารถส่งผลที่ดีต่อธุรกิจได้ โดยที่ผ่านมา แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ได้รับการยกย่องจาก เอออน ฮิววิท (Aon Hewitt) ให้เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกติดกันต่อเนื่องถึง 5 ปีซ้อน