กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมขึ้นทะเบียนในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเสนอ ๒ แหล่ง ได้แก่ ๑. เมืองโบราณศรีเทพ ภายใต้ชื่อ The Ancient Town of Si Thep ๒.กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำและปราสาทปลายบัด ภายใต้ชื่อ Ensemble of Phanom Rung, Muang Tam and Plai Bat Sanctuariesเนื่องจากตามอนุวัตตามอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก กำหนดให้รัฐภาคีนำเสนอเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนบัญชีรายชื่อเบื้องต้นและจัดส่งเอกสารเสนอต่อศูนย์มรดกโลก ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ภายในกลางเดือนเมษายน ๒๕๖๒ ให้ทันต่อการเสนอคณะกรรมการมรดกโลก ในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ ๔๒ วันที่ ๓๐ มิ.ย.– ๑๐ ก.ค. ๒๕๖๒ ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ขั้นตอนการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมทั้ง ๒ แหล่ง ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ทั้งนี้ เมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เป็นรอยต่อทางวัฒนธรรมสำคัญ ๒ แห่ง ได้แก่ "แอ่งวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก"และเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนกับ "แอ่งอารยธรรมอีสาน" เป็นจุดเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนสินค้าและเส้นทางการค้าพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สำคัญ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายต่อเนื่องจนถึงวัฒนธรรมเขมรโบราณและอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาแบบทวารวดีจากภาคกลางไทยและวัฒนธรรมเขมรสมัยก่อนเมืองพระนครที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาแบบมหายาน จึงมีบทบาทสำคัญและสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์แสดงออกถึงภูมิปัญญาความรู้และความเชี่ยวชาญฝีมือช่างที่พัฒนาขึ้นจนมีรูปแบบเฉพาะของตนเอง เรียกว่า "สกุลช่างศรีเทพ"
ดังนั้น สอดคล้องกับเกณฑ์ยูเนสโก ๒ เกณฑ์ ได้แก่ เกณฑ์ที่ ๒ เมืองโบราณสำคัญในเส้นทางเครือข่ายทางการค้าและวัฒนธรรมสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่แสดงออกถึงภูมิปัญญาในการเลือกสรรชัยภูมิที่ตั้ง อันเป็นจุดเชื่อมโยงผสมผสานการแพร่กระจายทางวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนสินค้าภายในและระหว่างภูมิภาคที่มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมทวารวดีและวัฒนธรรมเขมรโบราณ และเกณฑ์ที่ ๓ เป็นแหล่งวัฒนธรรมที่มีความสำคัญโดดเด่นในพื้นที่ศูนย์กลางภูมิภาคตอนในของประเทศไทยแสดงถึงภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์และผสมผสานงานศิลปกรรมทางพุทธศาสนาเถรวาทมหายานและศาสนาฮินดูจนมีเอกลักษณ์รูปแบบเฉพาะสกุลช่างของตนเอง นอกจากนี้ได้ศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและโบราณสถานต่าง ๆ ได้แก่ ศาสนสถานมีเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มศาสนสถานในภาคกลางของเวียดนาม กลุ่มเมืองโบราณปยุ เมียนมา และแหล่งโบราณคดีสมโบร์ไพรกุก กัมพูชา
ขณะที่ กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำและปราสาทปลายบัด จ.บุรีรัมย์ มีโบราณสถาน ๓ แห่ง (๑) ปราสาทพนมรุ้ง เป็นปราสาทหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาใกล้กับปล่องของภูเขาไฟเก่าที่ดับแล้วในแนวเทือกเขาพนมดงรักอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวในโลก สร้างเพื่อเป็นเทวาลัยของพระศิวะลัทธิไศวนิกายเสมือนเป็นที่ประทับบนยอดเขาไกรลาศ และดึงประโยชน์จากชัยภูมิที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เข้ากับคติทางศาสนาด้วยภูมิปัญญาด้านสถาปัตยกรรมและดาราศาสตร์วางช่องประตูให้ตั้งตรงกันจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกรวม ๑๕ ช่องประตู เพื่อให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นตรงช่องประตูส่องกระทบศิวลึงค์ที่ตั้งเป็นประธานอยู่ในห้องกลางของปราสาทจำนวน ๔ ครั้ง ใน ๑ ปี (๒) ปราสาทเมืองต่ำ เทวสถานลัทธิไศวะนิกาย ตั้งอยู่บนที่ราบห่างจากเขาพนมรุ้งมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว ๔ กิโลเมตร เป็นปราสาทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านการวางผังที่สวยงาม สมดุลและมีลวดลายภาพสลักที่งดงามประณีต (๓) ปราสาทเขาปลายบัด ๑ และ ๒ อยู่บนเขาปลายบัด เป็นภูเขาไฟลูกโดดที่ดับแล้วเช่นเดียวกับเขาพนมรุ้ง มีฉนวนทางเดินทอดยาวมาทางทิศตะวันออกและมีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เชิงเขาในลักษณะเดียวกับปราสาทพนมรุ้งและจากการขุดแต่งทางโบราณคดีพบว่า ตัวปราสาทปลายบัด ๑ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับปรางค์น้อยที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาทประธานปราสาทพนมรุ้ง
ดังนั้น มีความโดดเด่นสอดคล้องกับเกณฑ์ของยูเนสโก ๓ เกณฑ์ ได้แก่ (๑) หลักเกณฑ์ข้อที่ ๓ เป็นประจักษ์พยานเพียงหนึ่งเดียวหรืออย่างน้อยมีลักษณะพิเศษของการสืบทอดทางวัฒนธรรมหรือของอารยธรรมที่ดำรงต่อเนื่องอยู่หรือที่สูญหายไปแล้ว (๒) หลักเกณฑ์ที่ ๔ เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างกลุ่มสถาปัตยกรรมหรือกลุ่มเทคโนโลยีหรือลักษณะภูมิประเทศของภูมิทัศน์ซึ่งแสดงถึงช่วงเวลาที่สำคัญช่วงหนึ่งหรือหลายช่วงในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ (๓) หลักเกณฑ์ที่ ๕ เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ การใช้พื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเลซึ่งเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมหรือปฏิสัมพันธ์ที่มนุษย์มีต่อสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสิ่งเหล่านั้นเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา