ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. เมกะ สากลพาณิชย์” ที่ระดับ “A+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นที่ “T1” พร้อมแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 31, 2008 08:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--ทริสเรตติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นมูลค่า 3,000 ล้านบาทของธนาคารที่ “T1” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”
อันดับเครดิตองค์กรระดับ “A+” สะท้อนถึงการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากธนาคารแม่ในประเทศไต้หวันซึ่งธนาคารมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อการขยายกิจการสู่ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคของธนาคารแม่ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของธนาคารในธุรกิจให้กู้ยืมแก่นักลงทุนชาวไต้หวันในฐานะที่เป็นธนาคารไต้หวันเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย รวมถึงการมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี และการมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง แนวโน้มของการลงทุนจากประเทศไต้หวันในประเทศไทยที่ลดลงและการแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่จำกัดการขยายตัวทางธุรกิจของธนาคาร อันดับเครดิตยังได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่งจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารที่เอื้ออำนวยน้อยลง และการมีเครือข่ายธุรกิจและสาขาของธนาคารในประเทศไทยที่จำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่
อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารที่ระดับ “T1” สะท้อนถึงสถานะอันดับเครดิตระยะยาวของธนาคารในระดับ “A+” ซึ่งแสดงถึงฐานะการเป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในประเทศไต้หวัน อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นยังสะท้อนถึงความสามารถของธนาคารในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนระยะสั้นอันเนื่องมาจากลักษณะของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่มีสินทรัพย์สภาพคล่องสูงในงบดุลของธนาคารและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายได้ง่าย การที่ธนาคารมีสภาพคล่องในระดับสูงเป็นผลมาจากการที่ธนาคารใช้เวลาเพียง 1 วันในการรับเงินสนับสนุนจากธนาคารแม่ หรือจากตลาดเงินระหว่างธนาคาร ตลาดซื้อคืนพันธบัตร หรือจากหน้าต่างเงินกู้ยืม (Loan Window) ของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารกลางของประเทศไต้หวันซึ่งธนาคารสำรองไว้เป็นแหล่งเงินทุนสภาพคล่องแหล่งสุดท้าย ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนประมาณ 1 สัปดาห์
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะมีผลประกอบการทางการเงินระยะปานกลางตามที่คาดหมายไว้โดยการใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งทางเครือข่ายธุรกิจของธนาคารแม่ในการขยายธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย แนวโน้มอันดับเครดิตยังขึ้นอยู่กับความคาดหมายว่าธนาคารจะยังรักษาบทบาทการเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในต่างประเทศซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์แก่ธนาคารในด้านของการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจและเสริมความยืดหยุ่นและสภาพคล่องทางการเงิน การได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากธนาคารแม่และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งคาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ธนาคารในอนาคตจากความไม่แน่นอนของปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารพาณิชย์ลงได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในฐานะบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศจากกระทรวงการคลังของไทยในเดือนสิงหาคม 2548 และเป็นธนาคารที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ แห่งประเทศไต้หวัน (Mega International Commercial Bank -- Mega ICBC, Taiwan) โดยก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเคยมีฐานะเป็นสาขาธนาคารต่างประเทศเต็มรูปแบบในกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ปี 2490 ธนาคารได้รวมระบบการดำเนินงานรวมทั้งรูปแบบและกลยุทธ์ธุรกิจกับธนาคารแม่แบบบูรณาการ และใช้ชื่อเสียงของธนาคารแม่ภายใต้ชื่อสัญลักษณ์เดียวกัน ฐานลูกค้าของธนาคารส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากสัมพันธภาพที่แข็งแกร่งระหว่างธนาคารแม่กับบริษัทไต้หวันที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยหรือที่มีบริษัทลูกดำเนินการอยู่ในประเทศไทย วงเงินเสริมสภาพคล่องที่ได้รับจากธนาคารแม่ทำให้ธนาคารมีสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอ ปัจจุบันธนาคารแม่ที่ไต้หวันได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “A” จาก Standard and Poor’s และ “A1” จาก Moody’s Investors Services ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากสถาบันจัดอันดับเครดิตทั้งสอง โดยอันดับเครดิตดังกล่าวเป็นผลมาจากการเป็นผู้นำในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการให้บริการทางการเงินสำหรับการนำเข้าและส่งออก (Trade Finance) รวมทั้งการมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี สภาพคล่องที่สูง และการสนับสนุนจากธนาคารกลางของประเทศไต้หวัน
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหม่และมีขนาดเล็ก ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์จึงมีมูลค่าธุรกิจในประเทศไทยที่จำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจที่ยังเล็กและยังมีบริการด้านธนาคารพาณิชย์ที่จำกัดอยู่ ณ เดือนมิถุนายน 2550 สินทรัพย์รวมของธนาคารมีจำนวน 12,066 ล้านบาท ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กที่สุดในบรรดาธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งหมด หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงประมาณ 0.2% ธนาคารให้บริการแก่ตลาดเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันหรือที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร ธนาคารมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีซึ่งสะท้อนจากสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยของธนาคารที่ระดับเพียง 3.95% ณ เดือนมิถุนายน 2550 ซึ่งนับว่าต่ำกว่าสัดส่วนเฉลี่ยที่ระดับ 9.35% สำหรับธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 14 แห่ง การมีฐานะเงินกองทุนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหลังจากการยกระดับเป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศได้ช่วยสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของธนาคารในการขยายสินเชื่อแก่โครงการลงทุนขนาดกลางใหม่ๆ จากประเทศไต้หวัน ณ เดือนมิถุนายน 2550 ธนาคารมีสัดส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนที่ระดับ 36.85% อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวคาดว่าจะลดลงเมื่อสินเชื่อของธนาคารขยายตัว — จบ
ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (Mega ICBC)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท ในโครงการ Short-term Debenture Program คงเดิมที่ระดับ T1
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ