กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
4 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประสานพลังยกระดับมาตรฐานอาชีพผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย เสริมแกร่งธุรกิจบริการท่องเที่ยวไทย ชูมอบทักษะความรู้ เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพียง 0.25% ต่อเดือน พลิกโฉมบ้านเป็นร้าน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างคุณภาพชีวิต พาสังคมอยู่ดีมีสุข นำร่องคิกออฟ จ.ขอนแก่น
นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า "สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะตรงความต้องการของตลาดงานมากยิ่งขึ้น โครงการ "สร้างบ้าน สร้างอาชีพ" ร่วมกับ เอสเอ็มอี แบงก์ สำหรับกลุ่มอาชีพธุรกิจเสริมสวย ในครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าของความร่วมมือที่เห็นเป็นรูปธรรม สร้างคนตัวเล็กให้เดินหน้าไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชน เกิดความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นับได้ว่าเป็นการต่อยอดที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งของกลุ่มผู้ที่ได้รับใบประกาศคุณวุฒิวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดขยายกิจการ เป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน สคช.พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยมาตรฐานอาชีพ สร้างความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสทางอาชีพไปยังชุมชนเมืองต่างๆ ทั่วประเทศอันเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ให้เข้มแข็งต่อไป"
นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า ธนาคาร และพันธมิตร ได้แก่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมกันยกระดับมาตรฐานอาชีพให้แก่ผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพอิสระที่ภาครัฐให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีความใกล้ชิดกับสังคมไทยมาต่อเนื่องยาวนาน ที่สำคัญ บริการเสริมสวยจากช่างไทยเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับฝีมือจากนานาชาติ หากได้รับการสนับสนุนยกระดับมาตรฐานสู่สากลจะมีส่วนส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวไทยในฐานะศูนย์กลางบริการเสริมสวยที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากเดินทางเข้ามาใช้บริการ รวมถึง มีโอกาสที่ช่างเสริมสวยจะต่อยอดไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ หรือเปิดร้านเสริมสวยในแหล่งชุมชนต่างๆ รับรองนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทยปีละมากกว่า 30 ล้านคน เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ แนวทางการส่งเสริม หน่วยงานพันธมิตรจะร่วมกันมอบ "3 เติม" ได้แก่ เติมทักษะ เติมทุน และเติมคุณภาพชีวิต ด้าน "เติมทักษะ" โดย สคช.ได้เชิญรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจเสริมสวย อย่าง ดร.สมศักดิ์ ชลาชล และคุณไกรวิทย์ พุ่มสุโข มาเติมเต็มทักษะ มาพูดคุย แบ่งปันประสบการณ์ให้กับกลุ่มอาชีพธุรกิจเสริมสวย ด้าน "เติมทุน" ธพว. และ ธอส. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในโครงการ "สร้างบ้าน สร้างอาชีพ" โดยผู้ประกอบการอาชีพเสริมสวยที่ต้องการปรับปรุงร้านให้สวยงาม ทันสมัย ได้มาตรฐาน หรือช่างเสริมสวยฝีมือดีที่เข้ามาในกรุงเทพฯ ต้องการสร้างอาชีพในท้องถิ่นบ้านเกิด สามารถขอสินเชื่อของ ธพว. เพื่อพลิกบ้านให้เป็นเสริมสวยได้ ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ผ่อนนาน 7 ปีคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ บุคคลธรรมดา 3 ปีแรก เพียง 0.417% ต่อเดือน ปี 4-7 อัตรา MLR ต่อปี สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้ ขณะที่ ธอส.สนับสนุนสินเชื่อเพื่อซื้อที่พักอาศัยหรืออาคารทำเป็นร้านอาหารเสริมสวย คิดอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก 3.15% จากนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขธนาคารระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี ฟรี ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าจดทะเบียนจำนอง
และเมื่อได้รับ "เติมทักษะ" และ "เติมทุน"แล้ว จะนำไปสู่การ "เติมคุณภาพชีวิต" เพราะการมีอาชีพที่มั่นคงสร้างรายได้ที่น่าพึงพอใจ พร้อมกับมีบ้านเป็นของตนเอง ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย และครอบครัว อยู่ดีมีสุข นอกจากนั้น เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ได้มาตรฐานเปิดตามแหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใช้บริการ เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น
ดร. สมศักดิ์ ชลาชล ผู้เชี่ยวชาญในวงการช่างทำผมไทย กล่าวว่า "สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้สนับสนุนและให้ความสำคัญกับการประเมินมาตรฐานอาชีพช่างเสริมสวย และที่ผ่านมามีช่างทำผมได้เข้ารับการประเมินคุณวุฒิวิชาชีพเป็นจำนวนมาก ซึ่งการประเมินสมรรถนะในอาชีพจะทำให้ช่างผมมีการยกระดับมาตรฐานสู่ความเป็นมืออาชีพ นอกจากจะได้รับคุณวุฒิวิชาชีพแล้ว ยังได้รับการการันตี ด้วยมาตรฐาน มอช ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมืออาชีพ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า หากผู้บริโภคได้เข้ารับบริการทำผมกับร้านที่มีตราสัญลักษณ์นี้ และเชื่อมั่นได้ว่า ช่างทำผมไทยมีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล และสามารถต่อยอดธุรกิจของตนเองโดยความร่วมมือของ 4 หน่วยงาน เพื่อให้ช่างผมไทยมีทั้งความเป็นมืออาชีพและดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง"
ด้านนายไกรวิทย์ พุ่มสุโข ผู้บริหารสุโข ซาลอน เสริมว่า เป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องในอาชีพช่างทำผม ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้ให้โอกาสที่ดีแก่ช่างผมทุกคน ทำให้ช่างผมไทยมีคุณวุฒิวิชาชีพ และการมีเครื่องหมาย "ร้านนี้มีมืออาชีพ มอช" ดังนั้น การเข้าประเมินสมรรถนะ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ จะทำให้ช่างทำผมไทยเกิดความภูมิใจในอาชีพและได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย และสามารถยืนยันคุณภาพของช่างผมไทย ว่าฝีมือดี มีมาตรฐาน บริการเยี่ยม รวมถึง การต่อยอดธุรกิจให้มีความมั่นคงจากหน่วยงานพันธมิตร ก็ยิ่งจะสร้างโอกาสให้ช่างผมไทย มัศักยภาพในอาชีพเพิ่มขึ้น
โครงการนี้ไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ นำร่องแล้วที่ จ.ขอนแก่น และจะต่อยอดไปยังจังหวัดหลักใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อ "เปลี่ยนบ้านเป็นร้านเสริมสวยเพื่อมืออาชีพ" โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น บรรยายพิเศษให้ความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในอาชีพเสริมสวย ได้แก่ หัวข้อ "Sustainable Salon Management" โดย ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ประธานกลุ่ม บริษัท ชลาชล และหัวข้อ "เทรนด์ใหม่ไฟแรงที่ช่างผมยุค 4.0 ควรรู้" โดยนายไกรวิทย์ พุ่มสุโข ผู้บริหาร สุโข ซาลอน ขณะที่ ธพว. และ ธอส. บริการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษสามารถยื่นกู้ภายในงานได้ทันที และ บสย. มาให้คำปรึกษาการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม