กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
"บ้านเกิด ภูมิลำเนา-จังหวัดเชียงใหม่-กรุงเทพมหานคร" ติดโผ 3 สถานที่คนไทยอยากไปเล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด
บุคคลที่อยากรดน้ำขอพร-สาดน้ำมากที่สุด พ่อ-แม่-ณเดชน์ คูกิมิยะ-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกันสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนจากกลุ่มตัวอย่าง ๕,๔๐๙ คนทั่วประเทศหัวข้อ "สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ทุกชีวาปลอดภัย" จากการสอบถามว่าหากพูดถึง "วันสงกรานต์" นึกถึงอะไร ร้อยละ ๗๙.๖๓ บอกว่า การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ร้อยละ ๖๑ สรงน้ำพระ ร้อยละ ๕๘.๙๗ เทศกาลขึ้นปีใหม่แบบไทย ร้อยละ 54.63 เล่นน้ำสงกรานต์ ร้อยละ 50.04 ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ ร้อยละ 40.11วันหยุดยาว เป็นต้น และสอบถามว่ากิจกรรมที่ตั้งใจจะทำช่วงเทศกาลสงกรานต์มากที่สุด ร้อยละ 63.08 ระบุว่าทำบุญ ตักบาตร รองลงมาร้อยละ 61.40 รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ร้อยละ 59.01 สรงน้ำพระ ร้อยละ 54.90 ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ/การทำบุญอัฐิ ร้อยละ 46.17 เล่นน้ำสงกรานต์ ร้อยละ 32.54 พบปะสังสรรค์กับครอบครัว/ญาติพี่น้อง เป็นต้น
นอกจากนี้สอบถามว่าบุคคลสำคัญ ศิลปินดารา นักร้องที่อยากรดน้ำขอพรหรือสาดน้ำมากที่สุด ประชาชนระบุว่า บุคคลที่อยากรดน้ำขอพรมากที่สุด ได้แก่ "พ่อ-แม่" และศิลปินดาราที่อยากรดน้ำและสาดน้ำมากที่สุด ได้แก่ "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ส่วนนักการเมืองที่อยากรดน้ำขอพรและสาดน้ำมากที่สุดคือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามความเห็นว่าสถานที่ที่ประชาชนอยากไปเล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด อันดับ ๑ อยากกลับไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่บ้านเกิดหรือภูมิลำเนาตัวเอง อันดับ ๒ จังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ย่านคูเมือง ประตูท่าแพ อันดับ ๓ กรุงเทพมหานคร อาทิ ถนนข้าวสาร ถนนสีลม อันดับ ๔ จังหวัดขอนแก่น อาทิ ถนนข้าวเหนียว อันดับ ๕ แหล่งท่องเที่ยวที่ติดทะเล อาทิ บางแสน พัทยา หัวหิน
เมื่อสอบถามว่ากิจกรรมที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์สืบสานช่วงเทศกาลสงกรานต์มากที่สุด ร้อยละ 76.20 บอกว่าต้องอนุรักษ์ประเพณีทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำพระ ขนทรายเข้าวัด ก่อพระเจดีย์ทรายเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต รองลงมา ร้อยละ 74.20 รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ ร้อยละ 61.28 การเล่นน้ำ สาดน้ำแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ ตามประเพณีโบราณไทย ร้อยละ 38.04 การแต่งกายแบบไทยๆ ด้วยผ้าไทย ผ้าขาวม้า ผ้าประจำถิ่น แต่งกายย้อนยุค ร้อยละ 33.65 ร่วมกิจกรรมการละเล่นตามประเพณีนิยมของท้องถิ่น เช่น มอญซ่อนผ้า งูกินหาง วิ่งเปี้ยว เล่นสะบ้า และร้อยละ 32.81 เตรียมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มชุดใหม่ไว้เพื่อไหว้บิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ หรือสวมใส่หลังการรดน้ำขอพร ตามลำดับ
นายวีระ กล่าวว่า จากการสอบถามว่า มีวิธีใดที่จะใช้น้ำอย่างคุ้มค่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ร้อยละ 55.74 บอกว่าให้เล่นสาดน้ำเฉพาะพื้นที่ที่จัดไว้ให้ ร้อยละ 49.76 เล่นน้ำสงกรานต์อย่างสุภาพ ไม่ใช้น้ำสกปรก น้ำเย็นจัด ร้อยละ 48.01 ใช้ปืนฉีดน้ำขนาดเล็กแทนอุปกรณ์ฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง ร้อยละ 42.15 งดบรรทุกถังน้ำใส่รถกระบะเพื่อตระเวนเล่นสาดน้ำ ร้อยละ 40.11 ใช้ขันน้ำขนาดเล็กเล่นสาดน้ำกัน ร้อยละ 33.69 เล่นสาดน้ำระยะเวลาที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และร้อยละ 31.54 ไม่เล่นแป้งและสีทำให้ต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมากในการทำความสะอาด
นอกจากนี้ ถามว่าควรรณรงค์และเข้มงวดด้านความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างไร ร้อยละ 69.90 รักษาวินัยจราจร ขับขี่ปลอดภัย มีน้ำใจในการใช้รถใช้ถนน ร้อยละ 69.66 งดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 63.88 ไม่ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด พื้นที่จัดงาน หรือพื้นที่สาธารณะ ร้อยละ 44.54 รณรงค์แต่งกายอย่างเหมาะสม ถูกกาลเทศะ ไม่โป๊ ไม่เปลือย ร้อยละ 41.07 ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานที่จัดงานอย่างเคร่งครัด ร้อยละ 3๖.๕๒ จัดกิจกรรมการแสดงรื่นเริงไม่เกินเวลา 22.00 น. ร้อยละ 32.06 รณรงค์ใส่หมวกกันน็อกและคาดเข็มขัดนิรภัย ร้อยละ 30.14 ตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถ คนขับรถ และสุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด เป็นต้น