กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2562 เกิดอุบัติเหตุ 468 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 46 ราย ผู้บาดเจ็บ 482 คน กำชับดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ทั้งถนนสายหลักและสายรอง พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงกวดขันการขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความปลอดภัย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รองประธานคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ คนที่สอง ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 468 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 46 ราย ผู้บาดเจ็บ 482 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 34.62 ขับรถเร็ว ร้อยละ 26.92 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.47 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 65.38 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 42.31 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.04 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 29.06 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 25.19 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,036 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,276 คน เรียกตรวจยานพาหนะ709,464 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 163,584 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 45,230 ราย ไม่มีใบขับขี่ 41,485 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (20 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (23 คน)
นายอาคม กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ 2562 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ในขณะที่บางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทาง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้เน้นย้ำจังหวัด ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยพิจารณาเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว มุ่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท เน้นการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติด รวมถึงกำชับจุดตรวจ ด่านตรวจบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจจับและปรับในอัตราโทษสูงสุด กรณีขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำชับจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน ดำเนินงานลดอุบัติเหตุ ทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ ควบคู่กับการใช้มาตรการทางสังคม โดยกำหนดกติกาชุมชน ประชาคมหมู่บ้าน สำหรับเป็นข้อตกลงร่วมกันในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ศปถ. จึงได้สั่งการให้จังหวัดเน้นย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านชุมชนและจุดบริการ คุมเข้มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ดื่มแล้วขับ รวมถึงขับขี่ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย ทั้งการขับรถเร็ว การย้อนศร การเลี้ยวรถ การตัดหน้าในระยะชั้นชิด และกลับรถโดยไม่ให้สัญญาณ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศปถ.ได้เน้นย้ำให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2562 เน้นการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สนธิกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานในจุดตรวจ จุดบริการ และด่านชุมชน เข้มงวดการเรียกตรวจผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมการขับรถในลักษณะเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งการเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยนอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 12 – 17 เมษายน 2562 ประเทศไทยจะมีพายุฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ โดยไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ให้มากกว่าปกติ หากประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วน 1669 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป