กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
เป็นงานนิทรรศการแรกในสิงคโปร์ ที่ใช้เทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality ร่วมสร้างประสบการณ์อันลึกซึ้งที่เชื่อมต่อมนุษย์เข้ากับธรรมชาติผ่านการเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้น โดยผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี AR ที่ล้ำสมัยกับวิดีโอฟุตเทจ 4K อันน่าทึ่งจากซีรีส์สารคดีเรื่องใหม่ของเน็ตฟลิกซ์ Our Planet ที่ได้รับการพากย์เสียงโดย เซอร์เดวิด แอทเทนโบโรวห์ นักธรรมชาตินิยมที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยซีรีส์สารคดีเรื่องนี้ได้เปิดให้รับชมบนเน็ตฟลิกซ์แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ โครงการ REWILD Our Planet ได้จัดทำขึ้นภายใต้แนวคิด "4 ภูมิทัศน์ธรรมชาติ" ที่แสดงถึงผืนป่าสุดท้ายบนโลก ซึ่งได้แก่ :
1. ป่าเขตร้อนในบอร์เนียวและอินเดีย
2. มหาสมุทรบริเวณชายฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3. ทุ่งหญ้ามองโกเลีย
4. โลกน้ำแข็งแห่งอาร์คติก
ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้รับประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจผ่านจอโปรเจอเตอร์ IMAX ที่มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศ บวกกับเทคโนโลยี AR ที่เพิ่มอรรถรสในการเข้าชมผ่านจอมือถือ Google Pixel 3 ทำให้ผู้เข้าชมสามารถร่วมกันสร้างสรรค์ทิวทัศน์ในแบบ 3D ที่เสมือนจริงได้ และยังสามารถใส่เอฟเฟกซ์อากาศของโลกและสรรพสัตว์ได้อีกด้วย สิ่งที่ผู้เข้าชมจะได้กลับไปคือแนวทางในการอนุรักษ์ธรรมชาติ รวมทั้งได้รู้จักกับสิ่งมีชีวิตอันน่าทึ่งบนโลก
การปกป้องโลกถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน
นอกจากจะแสดงความสวยงามของความหลากหลายทางธรรมชาติของโลกใบนี้แล้ว ประสบการณ์จากการเข้าชมนิทรรศการนี้ยังมุ่งให้เกิดความตื่นตัวด้านการอนุรักษ์ เน้นให้เห็นความเปราะบางของโลกของเราและผลเสียต่อโลกที่มาจากมนุษย์ นิทรรศการนี้ยังชี้ให้เห็นถึงหนทางในการแก้ไขปัญหา ผู้เข้าชมจึงจะได้รับมุมมองทั้งในแง่ของปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ และสิ่งที่ทุกคนสามารถร่วมมือกันทำเพื่อกอบกู้โลกและเพื่อให้มั่นใจว่าทั้งมนุษย์และธรรมชาติจะสามารถอยู่ร่วมกันได้
นิทรรศการที่นำเทคโนโลยีขั้นสุดยอดมารวมกับความบันเทิงที่มีคุณภาพ
นิทรรศการนี้ใช้ฟุตเทจจาก Our Planet ซึ่งเป็นซีรี่ส์ 8 ตอนที่พูดถึงสิ่งมีชีวิตที่ล้ำค่าที่สุดและบอบบางซึ่งอาศัยในโลกใบนี้ พร้อมเผยภาพที่น่าทึ่งของโลกในแบบที่ยังไม่เคยมีเทคโนโลยีการถ่ายทำใดเคยทำได้มาก่อน Our Planet เป็นผลงานของทีมสร้าง Planet Earth ซีรี่ส์ที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว ผสมผสานกับความร่วมมือเป็นเวลา 5 ปี ระหว่าง Silverback Films และ WWF จึงมีทั้งการถ่ายภาพที่น่าทึ่งและเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราได้เห็นธรรมชาติที่ยังคงเหลืออยู่ในโลกในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รวมทั้งสัตว์ที่หายากและน่ามหัศจรรย์ซึ่งมีโลกใบนี้เป็นบ้าน การถ่ายทำที่เหลือเชื่อนี้ทำใน 50 ประเทศในทุกทวีปในโลก โดยใช้ทีมงานถ่ายทำกว่า 600 คน ทำการเก็บภาพโดยใช้เวลานานกว่า 3,500 วัน
ฟุตเทจจาก Our Planet ถูกนำไปรวมกับเทคโนโลยี ARCore ซึ่งเป็น Android Software Development Kit (SDK) และทำงานร่วมกับ Java, Unity และ Unreal รวมทั้ง Application Programming Interfaces (APIs) ซึ่งช่วยให้ AR ใช้งานบนอุปกรณ์สื่อสารแบบเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์อื่นใดมาช่วย ทั้งนี้ ระบบดิจิตัลแบบ twin system ของ PHORIA ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เมื่อนำมาใช้กับ ARCore ของกูเกิล จะทำให้คอนเทนต์ที่เป็น 2D เสมือนทะลุจอและล่องลอยอยู่รอบๆ ผู้ใช้โปรแกรมได้
สิงคโปร์เป็นประเทศแรกที่เริ่มจุดประกายความตื่นตัวครั้งนี้
นิทรรศการ REWILD Our Planet ได้ถูกออกแบบให้เป็นชิ้นส่วนประกอบมาตรฐาน หรือโมดูล่าร์ ทำให้สามารถเปิดตัวที่ใดก็ได้ในโลก และการผสมผสานเทคโนโลยี AR เข้ากับนิทรรศการนี้ช่วยให้ผู้จัดสามารถสร้างกระแสความตื่นตัวที่ไหนก็ได้ทั่วโลก โดย The ArtScience Museum ของสิงคโปร์เป็นที่แรกที่จัดนิทรรศการนี้ จากนั้นจะเป็นที่ Dolby SoHo ในนิวยอร์กและ We The Curious ที่บริสตอล โดยแต่ละที่จะเน้นที่ความแตกต่างและโดดเด่นของแต่ละภูมิภาค
รายละเอียดของ REWILD Our Planet ที่สิงคโปร์
สถานที่ Inspiration Gallery, Level 4
ArtScience Museum at Marina Bay Sands
6 Bayfront Ave, Singapore 018974
วัน เสาร์ที่ 6 เมษายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2562
เวลา 10:00 น ถึง 19:00 น ทุกวัน
ค่าเข้าชม ฟรี
ช่วงเวลาการชม 10 นาทีถึง สำหรับ 20 ท่าน สำหรับแต่ละช่วง
Websites REWILD.wwf.sg
www.marinabaysands.com/museum/REWILD-our-planet
ความเห็นจากพันธมิตรที่มีส่วนร่วม
WWF ประเทศสิงคโปร์
คิม สเตนเกิร์ท หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ และความสัมพันธ์ภายนอก (Strategic Communications and External Relations) WWF ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "สัตว์ป่าทั่วโลกมีจำนวนลดลงร้อยละ 60 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของธรรมชาติที่มนุษย์เราเองก็ต้องอาศัยในการดำเนินชีวิต เราทุกคนจำเป็นต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านั้นและยังต้องช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาเหมือนเดิม การนำเสนออุปสรรคและการแก้ไขปัญหาผ่านนิทรรศการ REWILD Our Planet จะช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงความรับผิดชอบของตนเองต่อสังคมในการลงมือปฏิบัติและการปกป้องธรรมชาติ การผสมผสานกันระหว่างข้อความที่มีน้ำหนักlและโอกาสเข้าถึงผู้คนจากนิทรรศการนี้จะทำให้เกิดการลงมือทำอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องสิ่งที่เราเรียกว่าบ้าน เป็นการส่งข้อความเตือนพวกเราทุกคนว่า การทำลายสิ่งแวดล้อมที่พวกเรากำลังทำกันอยู่นั้นเป็นการกระทำที่รับไม่ได้อีกต่อไป"
กูเกิล
มิเกล เด อังแดรส กลาเวรา หัวหน้าฝ่ายความสร้างสรรค์ทางเทคโนโลยี (Head of Creative Technology) กูเกิล เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า "เทคโนโลยี AR เป็นตัวนำวิสัยทัศน์สู่โลกของคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีนี้จะทำให้คอมพิวเตอร์ของเราสามารถมองโลกเสมือนมองผ่านตาของมนุษย์แล้วทำการแสดงข้อมูลผ่านการสร้างความกลมกลืมระหว่างโลกในความจริงกับโลกจำลองแบบดิจิตอล โดยเทคโนโลยี ARCore นำมาซึ่งเครื่องมือที่มีการใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการสร้างประสบการณ์ด้าน AR ที่ลึกซึ้งและเข้าถึงได้อย่างนิทรรศการ REWILD Our Planet ในการเชื่อมต่อมนุษย์เข้ากับธรรมชาติ และมนุษย์กับธรรมชาติด้วยกันเอง ด้วยอุปกรณ์มากถึง 250 ล้านเครื่อง ในการสนับสนุน ARCore นักพัฒนาอย่าง PHORIA สามารถนำประสบการณ์ล้ำค่าเหล่านี้ไปสู่ฐานผู้ใช้บริการที่กว้างขึ้นและกำลังเติบโตได้"
เน็ตฟลิกซ์
เจสซิกา ลี รองประธาน ด้านการสื่อสาร (Vice President of Communications) เน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า "Our Planet เป็นสารคดีทางธรรมชาติที่น่าทึ่งในยุคของเรา และยังเป็นสารคดีที่ต้องใช้ความพยายามสูงมากที่สุดจนถึงตอนนี้ของเน็ตฟลิกซ์ พวกเรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเนื้อหาดีๆ และสำคัญเหล่านี้สู่ประชากรนับล้านทั่วโลกเพื่อเป็นการบอกถึงสถานการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มลงมือปฏิบัติเพื่อส่วนรวม ผ่านนิทรรศการ REWILD Our Planet พวกเราได้ก้าวไปอีกขั้นในการแสดงให้เห็นถึงวิธีการทำเรื่องราวให้กลายเป็นจริง ในทิศทางที่กระตุ้นให้พวกเราทุกคนช่วยกันพัฒนาสิ่งแวดล้อม พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น WWF, กูเกิล, PHORIA และพิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์"
พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ ที่มารีน่า เบย์ แซนด์ส
ฮอเนอร์ ฮาร์เกอร์ กรรมการบริหารของพิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ที่มารีน่า เบย์ แซนด์ส กล่าวว่า "REWILD Our Planet เป็นนิทรรศการแนว Immersive and Interactive ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสิ่งมีชีวิต เป็นนิทรรศการที่จะพาผู้เข้าชมท่องโลกแห่งภูมิทัศน์ที่สุดสวยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย นอกจากนี้ นิทรรศการ REWILD Our Planet เป็นการต่อยอดโปรเจค Into The Wild ที่เราได้ทำร่วมกับ WWF และกูเกิล ที่สร้างประสบการณ์สุดตื่นตาเกี่ยวกับป่าฝนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านเทคโนโลยี AR มาแล้ว ซึ่งโปรเจคดังกล่าวส่งผลให้เกิดการปลูกต้นไม้มากกว่า 1 หมื่นต้นบนเกาะสุมาตรา การกลับมาของโปรเจค REWILD Our Planet ในครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยได้ผสมผสานศิลปะและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อส่งเสริมในทุกๆ คน เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์โลกของเรา"
ฟอเรีย
เทรนท์ คลิวซ์ เด คาสเตลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอเรีย กล่าวว่า "REWILD Our Planet เป็นการโชว์ให้ประจักษ์ถึงขีดความสามารถของเทคโนโลยี AR ในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์และสถานที่ที่พวกเขาชอบ ประสบการณ์ที่นำมาซึ่งความทรงจำที่คงชัดนี้ได้เน้นถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อมของเรา เป็นการสร้างความรู้สึกของการมีตัวตนและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้ทุกคน การจัดนิทรรศการครั้งนี้ภายใต้การร่วมมือกับเน็ตฟลิกซ์ กูเกิล และ WWF ได้แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่เทคโนโลยี XR จะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีได้"