กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยยังผันผวนต่อ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจีนจะออกมาดี แต่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่มีความแน่นอน และ สศช. เตรียมทบทวนประมาณการทางเศรษฐกิจไทยใหม่ หลังส่งออกไม่สวยอย่างที่คาด โดยให้กรอบดัชนี 1,655 - 1,680 จุด แนะลงทุนหุ้นที่ MSCI เตรียมเพิ่มน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยมีผลในเดือนพ.ค. ชู SCC-EGCO- CPN-LH- TU- BANPU-BH-BBL-BDMS-KBANK ส่วนด้านราคาทองคำลุ้นยืนเหนือ 1,280 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังเทศกาลวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ตอบรับปัจจัยบวกแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 1/62 ขยายตัว 6.4% เท่ากับไตรมาส 4/61 และรายได้ด้านการคลังขยายตัว 6.2% ขณะรายจ่ายด้านการคลังพุ่งขึ้น 15% รายได้หลังหักภาษีต่อหัว เพิ่มขึ้น 6.8% การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 11.8% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 6.5%
ทั้งนี้การใช้ม.44 ช่วยแก้ปัญหาการประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลและกิจการโทรคมนาคม เปิดทางให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลคืนใบอนุญาตได้และยืดระยะเวลาการชำระหนี้ค่าคลื่นของผู้ประกอบการ ซึ่งส่งผลบวกกับผู้ประกอบการ รวมทั้ง MSCI เตรียมปรับเพิ่มน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยมีผลในเดือนพ.ค. ทำให้น้ำหนักลงทุนเพิ่มเป็น 3% จากเดิม 2.5%
อย่างไรก็ตามคงมีปัจจัยกดดันภาวะตลาดเป็นระยะ อาทิ กรณีที่ IMF ปรับลดประมาณการ GDP โลกปี 62 เหลือ 3.3% จากประมาณการเดิม 3.5% รวมทั้งทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมทบทวนประมาณการทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ใหม่จากประมาณการปัจจุบันที่ระดับ 4% จากประเด็นความเสี่ยงเรื่องการส่งออกที่เติบโตไม่มากจากปีก่อนหน้า และการปรับลดคาดการณ์ GDP โลกและการค้าโลกของ IMF และ ปัจจัยการเมืองที่ยังไม่มีความแน่นอนและชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล
อีกทั้งแนะจับตาปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อการลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า โดยในวันที่ 17-19 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคารรายงานงบการเงินงวดไตรมาส 1/2562 วันที่ 18 เม.ย. อียู เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้น-ภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย. และสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย. ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้น - ภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ. ส่วนวันที่ 22 เม.ย. สหรัฐ เปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. และวันที่ 23 เม.ย. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. และดัชนีการผลิตเดือนเม.ย. ทาง อียูเองก็จะ เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. และในวันดังกล่าวการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ประกาศผลการประกวดราคาโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3
ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังจากช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์มีแนวโน้มผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ-จีนที่ออกมาดี แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่แน่นอนหรือชัดเจน โดยคาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,655 - 1,680 จุด
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุน ในหุ้นที่คาดว่า MSCI มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน เช่น SCC, EGCO, CPN, LH, TU, BANPU, BH, BBL, BDMS และ KBANK และหุ้นกลุ่มธนาคารให้น้ำหนักลงทุน Neutral แนะนำลงทุนหุ้นที่มี yield สูง ได้แก่ KKP yield 7.1% และ TISCO yield 6.6%
นอกจากนี้บล.โกลเบล็ก แนะนำ ซื้อ JKN ราคาเหมาะสม 10 บาท แม้ปรับคาดการณ์กำไรปี 61 ลดลง 12% แต่ยังเติบโตสูง 32% จากปีก่อน หุ้น PREB ราคาเหมาะสม 12.18 บาท ถือเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ yield เฉลี่ย 7-8% ต่อปีตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คาดกำไรปี 62 เติบโตราว 29%จากปีก่อน
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกยังคงให้ความสำคัญกับความคืบหน้าเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯส่งผลบวกต่อภาพรวมการลงทุน อีกทั้งการที่ EU ยืดเวลาเส้นตาย Brexit ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ต.ค. ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำอ่อนตัวหลุดกรอบ descending triangle ลงมา เกิดเป็นสัญญาณขาย ซึ่งถ้าหากไม่สามารถรีบาวด์กลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,280 ดอลลาร์ ที่หลุดลงมาได้ จะเกิดสัญญาณขายซ้ำ และมีโอกาสจะปรับตัวลงต่อเนื่องจนถึงช่วง 1,215–1,235 ดอลลาร์ ตามเป้าหมายทางเทคนิค
ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังคงอยู่ในกรอบ 31.7–32.0 บาทต่อดอลลาร์ คาดว่าจะไม่มีผลต่อราคาทองคำในประเทศ จึงแนะนำให้เปิดสถานะ short แล้วถือเพื่อเล่นรอบ แต่ถ้าราคาดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,280 ดอลลาร์ได้ให้ stop loss ฝั่ง short แล้วปรับมาเล่น swing trade ระหว่าง 1,280–1,300 ดอลลาร์