กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--โพลีพลัส พีอาร์
กระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร (Gastronomy Tourism) กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวทั้ง ชาวไทยและชาวต่างชาติ เมื่อไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนเป็นอันว่าจะต้องตะลุยชิมอาหารในท้องถิ่นนั้น อาหารจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกนำมาโปรโมทเพื่อเป็นจุดขายให้เหล่านักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในรสชาติต้นตำรับของอาหาร ได้มาลิ้มรสกันถึงถิ่นกำเนิด และประเทศไทยก็นับว่าเป็นชาติมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก (World Tropical Fruit Trading Nation ) งานนี้ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ผู้บริหารเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ จับมือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน "The Original Thailand's Amazing Durian and Fruit Fest 2019 : ต้นตำรับเทศกาลบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครั้งที่ 4 ตั้งแต่วันนี้ – 25 เมษายน 2562 ณ ลานสแควร์บี และ ซี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เอาเป็นว่าวันนี้จะพามาทำความรู้จัก ต้นตำรับบิ๊กอีเวนท์ทุเรียนและผลไม้สุดยิ่งใหญ่แห่งชาติ กับ 10 ความเป็นที่สุด
1.เป็นที่สุดแห่ง Best Event Destination ต้องบอกว่างาน "The Original Thailand's Amazing Durian and Fruit Fest"นอกจากจะเป็นต้นตำรับเทศกาลบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่จัดขึ้นเป็นเจ้าแรกแล้ว ยังเป็นอีเวนท์ที่ประสบความสำเร็จและจัดอย่างต่อเนื่องมาทุกปี จนกลายเป็นที่รู้จักของเหล่านักท่องเที่ยว จนกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของการท่องเที่ยวพักร้อนประจำปีที่ต้องห้ามหลาด
2.ที่สุดแห่งคุณภาพของผลไม้ ที่คัดสรรแล้วว่าต้องดีที่สุดในฤดูกาล หลายคนอาจจะคุ้นเคยว่าบุฟเฟ่ต์คือความคุ้มค่าในเรื่องของปริมาณ แต่งาน "The Original Thailand's Amazing Durian and Fruit Fest" ซึ่งเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล และ ท็อปส์ การันตีคุณภาพและคัดสรรแต่ผลไม้คุณภาพมาในงานนี้เท่านั้น โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทองราชาแห่งผลไม้ที่การันตีคุณภาพโดยกูรูทุเรียน
3.ที่สุดแห่งความสะดวกสบาย เพราะเป็นอีเวนท์ใจกลางกรุง จัดอยู่ ณ ลานสแควร์บี และ ซี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เดินทางได้สะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้า หรือจะเป็นรถส่วนตัวก็มีที่จอดรถรองรับมากมาย เมื่อทานบุฟเฟต์ผลไม้เสร็จแล้วจะเดินช็อปปิ้งเพื่อเป็นการย่อยก็เรียกว่าเพลินกันเลยทีเดียว
4.ที่สุดแห่งรสชาติของทุเรียนหมอนทองพระเอกของงานการันตีคุณภาพโดยกูรูทุเรียน เรียกว่าเป็นเจ้าแรกของงานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ ที่มีกูรูผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ และให้ความรู้เรื่องผลไม้ เพื่อให้เลือกชิมและทานผลไม้กันได้ตรงใจ ไฮไลท์เด็ดที่เป็นที่สุดอยู่ที่สามารถเลือกความสุกของทุเรียนได้ด้วย ไม่ว่าจะชอบเนื้อกรอบนอกนุ่มใน เนื้อนิ่ม เนื้อแข็ง มีความกรุบกรอบ ก็มีกูรูคอยให้คำแนะนำด้วย
5.ที่สุดแห่งผลไม้หลากหลายและเมนูคลายร้อน แบบเต็มอิ่มเติมไม่อั้นภายในเวลา 60 นาที ไม่ใช่แค่ ทุเรียนหมอนทองการันตีคุณภาพ แต่ยังมี มังคุดจันทบุรี จากกลุ่มเกษตรกรที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพรสชาติหวาน เนื้อขาว กลิ่นหอม, เงาะโรงเรียน จากกลุ่มเกษตรกร จ.ตราด เปลือกบาง เนื้อหวาน กรอบ ร่อน, ลองกอง จาก จันทบุรี รสชาติ หวาน หอม ส่งตรงจากสวน, เมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น จากกลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเมล่อนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนา จ.พระนครศรีอยูธยา คุณภาพดี รสชาติหวาน หอม, แตงโมกินรี จากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมปลอดภัยจากสารพิษ จ.สกลนคร เนื้อสีแดง หวานฉ่ำ เปลือกบาง,มะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์วิถีไทย จ. ราชบุรี หอมหวานอร่อย, ข้าวเหนียวมะม่วง และข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวแม่ประไพรศรี ของดีเมืองนนท์ที่ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู จ.เชียงราย น้ำกะทิจากมะพร้าว 3 น้ำแม่กลอง พร้อมมะม่วงน้ำดอกไม้สุกจากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตมะม่วงปลอดสารพิษเพื่อส่งออก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี, มะม่วงน้ำปลาหวาน คัดมะม่วงแก้วขมิ้น รสหวานอมเปรี้ยว และ ไอศครีมกะทิ เรียกว่าหลากหลายฟินที่สุด
6.ที่สุดแห่งความคุ้มค่าและโปรโมชั่น บอกเลยว่างานนี้ บัตรราคาเดียวทุกวันทุกรอบเพียงแค่ 479 บาทต่อคน เท่านั้น!! โดยมีจำนวน 5 รอบต่อวัน ได้แก่ เวลา 11.00 – 12.00 น. / 13.00 – 14.00 น. / 15.00 – 16.00 น. / 17.00 – 18.00 น. / 19.00– 20.00 น. (รอบละ 60 นาที ) แต่ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ!!! มาเป็นกลุ่ม คุ้มกว่าซื้อ 5 จ่าย 4 และยังมีโปรโมชั่น สำหรับลูกค้าเอไอเอส และเอไอเอสไฟเบอร์ จ่ายเพียง 419 บาท (ปกติ 479 บาท) เมื่อซื้อบัตรบุฟเฟ่ต์ 1 ใบและกดรับสิทธิ์หน้างาน และสำหรับสมาชิกเดอะวัน จ่ายเพียง 1 บาท ซิ้อบัตรบัตรบุฟเฟ่ต์ 1 ใบ (มูลค่า 479 บาท)เมื่อแลก 3,700 คะแนน หรือรับส่วนลดสูงสุด 18% เมื่อซื้อสินค้าภายในงานหรือซื้อบัตรบุฟเฟ่ต์เพียง 393 บาท (ปกติ 479 บาท) เมื่อใช้บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน แลกคะแนนเดอะวันเท่ายอด
7.ที่สุดแห่งการช่วยเหลือเกษตรอย่างยั่งยืน ท็อปส์ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลุกทุเรียนที่ร่วม พันธสัญญา และยังได้กูรูด้านทุเรียนคนเดียวในประเทศไทย ดร.ทรงพล สมศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมและพัฒนาทุเรียน เพื่อช่วยให้คำแนะนำและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุเรียน ที่จำหน่ายในร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ , ท็อปส์ และ งานบุฟเฟ่ต์ และนอกจากนี้ได้ลงนามข้อตกลงซื้อขายผลไม้คุณภาพกับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนที่ให้พันธสัญญาว่าจะผลิตและนำส่งผลไม้ที่ดีมีคุณภาพให้กับท็อปส์เพื่อส่งต่อไปยัง โดยในปี 2562 ท็อปส์ ตั้งเป้ารับซื้อทุเรียน กว่า 1,500 ตัน นอกจากนั้นยังรับซื้อผลไม้ตามฤดูกาลจากเกษตรกร 70 ชนิด 67จังหวัด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 25 %
8.ที่สุดแห่งการช็อปปิ้งของฝากและผลไม้คุณภาพ ต้องบอกว่างานนี้ไม่ได้มีแค่โซนบุฟเฟต์ แต่ยังมีโซนให้ช็อปปิ้งเพื่อเป็นของฝากอีกด้วยนะ ซึ่ง โซน Farmer's Market จำหน่ายสินค้าคุณภาพผลไม้ไทยตามฤดูกาล จากเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน เพื่อขยายช่องทางการจำหน่าย สร้างรายได้อย่างยั่งยืน อาทิ ทุเรียนหมอนทองป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์, ทุเรียนชะนีเกาะช้างจ.ตราด, ทุเรียนหมอนทองจันทบุรี / ปราจีนบุรี / นนทบุรี , ทุเรียนก้านยาวจันทบุรี , มังคุดออร์แกนิค, ส้มโอทับทิมสยาม จ. นครศรีธรรมราช อาหารแปรรูป และ สินค้าของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวพร้อมบริการแพค เรียกว่ามางานเดียวครบ ฟิน คุ้ม กันเลยทีเดียว
9. ที่สุดแห่งตลาดเฉพาะสินค้า Magnet Market จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เรียกว่ามางานเดียวครบเครื่องทั้งกิน ชิม ช็อป เพราะยังมีโซนตลาด Magnet Market ที่คัดสรรสินค้า ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป ที่เป็นของดีมีคุณภาพ โดยกระทรวงพาณิชย์ ให้เลือกชิมเลือกช็อปกันแบบฟินๆ ในราคาเป็นมิตร แถมยังเป็นการอุดหนุนชุมชนท้องถิ่น และกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรอีกด้วย
10. ที่สุดแห่งความฟินกับกิจกรรมพิเศษร่วมกันศิลปินคนดัง ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่เอาใจแฟนๆ และคนรุ่นใหม่ ให้ได้ร่วมทานผลไม้พร้อมกับศิลปินคนดัง โดยในปีนี้ผู้โชคดีไ ด้ทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนสุดฟินกับ หนุ่มบาส จากวงเอสบีไฟว์ และ หนุ่มเต๋า เศรษฐพงศ์ ในรอบพิเศษด้วย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/TopsThailand