กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--กทม.
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยเกี่ยวกับการสัญจรในอุโมงค์สุทธิสารและห้วยขวาง ที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งบริเวณปากทางขึ้นลงอุโมงค์เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของผิวจราจรพื้นราบและช่วงทางขึ้น-ลงสะพานไม่ได้เป็นช่องทางตรง ผู้ขับขี่ต้องเบี่ยงทางก่อนขึ้นลงอุโมงค์ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ว่า จากสภาพของอุโมงค์สุทธิสารและห้วยขวางที่มีสภาพเหมือนกัน ด้านขาลงมุ่งหน้าไปแยกลาดพร้าวช่องจราจรที่ 1 ด้านชิดเกาะกลางถนนบังคับให้ลงอุโมงค์ ช่องที่ 2 เป็นช่องทางร่วมให้ลงอุโมงค์หรือวิ่งตรงไปกลับรถที่ทางแยก ช่องที่ 3 และ 4 เป็นช่องทางตรงไปแยกสุทธิสาร ซึ่งปัญหาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือรถในช่องที่ 3 เบียดเข้าช่องที่ 2 เพื่อลงอุโมงค์ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันเอง และชนหัวเกาะทางลงอุโมงค์
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การแก้ไขสภาพกายภาพของทางลงอุโมงค์จะแก้ไขให้ช่องจราจรที่ 2 จากเดิม ที่เป็นช่องจราจรร่วมให้เป็นทางเพื่อลงอุโมงค์เท่านั้น โดยการตีเส้นทึบตลอด ยาวประมาณ 150 เมตร เพื่อบังคับไม่ให้รถจากช่องจราจรที่ 3 เบียดเข้าช่องจราจรที่ 2 เพื่อลงอุโมงค์ได้ รวมถึงขยายความกว้างของเส้นจราจรที่จะตีเส้นใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ซม. ให้เป็น 15 ซม. ให้เห็นได้ชัดเจน และติดตั้งหมุดสะท้อนแสงเตือนที่หัวเกาะลงอุโมงค์ด้วย โดยกรุงเทพมหานครจะเข้าดำเนินตีเส้นจราจรใหม่ในอุโมงค์สุทธิสาร ในคืนวันนี้ (31 พ.ค.48) และติดตั้งหมุดสะท้อนแสงในคืนวันพุธที่ 1 มิ.ย.48 ส่วนอุโมงค์ห้วยขวาง จะเข้าตีเส้นจราจรใหม่ในคืนวันพุธที่1 มิ.ย.48 และติดตั้งหมุดสะท้อนแสงในคืนวันที่ 2 มิ.ย.48 ทั้งนี้จะเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 23.00 น. เป็นต้นไป และกทม.ได้ประสานกับสารวัตรจราจรสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสารเพื่ออำนวยการจราจรระหว่างการปฏิบัติงานแล้ว
จึงขออภัยในความไม่สะดวกสำหรับประชาชนผู้สัญจรในอุโมงค์สุทธิสารและห้วยขวาง ในวัน เวลา ดังกล่าว และขอความร่วมมือให้ลดความเร็วก่อนลงอุโมงค์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย--จบ--