กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้
TITLE เจ้าพ่ออสังหาฯทางเลือกของภูเก็ตตัวจริง! ปิดงบไตรมาส 1/62 สุดอลังฯ กวาดรายได้ 518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 535% กำไรสุทธิ 114.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 13.06 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "ศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว"ส่งซิกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยอดโอนต่อเนื่อง ลากยาวถึงปี 63 พร้อมกางพิมพ์เขียว ไตรมาส 4/62 จ่อผุดบิ๊กโปรเจค "หาดในยาง" มูลค่า 4-5 พันล้านบาท บุ๊ครายได้ตั้งแต่ปี 64 กินยาวถึงปี 65 หนุนผลงานโตก้าวกระโดด รองรับดีมานด์ชาวต่างชาติ ที่ให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว
นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/62 มีรายได้จากการขาย 518.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 437.27 ล้านบาท หรือ 535.93% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 81.59 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 114.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.67 ล้านบาท หรือ 778.48% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 13.06 ล้านบาท ขณะที่กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 0.26 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 0.03 บาท
"ถือเป็นไตรมาสที่ TITLE ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก รายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากยอดโอนที่มีเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ทั้งจากโครงการหาดในยางเฟส 1 และเฟส 2 มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าปิดการขายแล้ว และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2561 คาดว่าจะโอนหมดในปี 2563 และเรามีแผนที่จะเปิดโครงการหาดในยาง เฟส 3 มูลค่าโครงการประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/62 และคาดว่าจะสามารถโอนและเริ่มรับรู้รายได้ ในช่วงปี 64 เป็นต้นไป"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม TITLE กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปี 2562 จะเติบโตทะลุเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากโครงการอสังหาฯของ TITLE ที่เปิดในแต่ละหาด ได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติทั่วโลกอย่างดีเยี่ยม มีการพูดถึงปากต่อปาก รวมถึงชาวไทยในตลาดกลางถึงบน ก็ให้การตอบรับดีเช่นกัน ถือเป็นอสังหาทางเลือกของจังหวัดภูเก็ต ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวต่างชาติ และชาวไทยได้อย่างลงตัว เปิดทางให้ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเช่า แต่สามารถตีกลับเป็นรายได้จากการเช่า ซึ่งถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่คุ้มค่า
สำหรับความคืบหน้าโครงการของ TITLE ในส่วนของ หาดราไวย์ 1. โครงการหาดราไวย์ เฟส 3 มูลค่าโครงการประมาณ 1,100 ล้านบาทแล้วเสร็จและโอนแล้วเกือบ 100% 2.โครงการหาดราไวย์ เฟส 5 มูลค่าโครงการประมาณ 1,100 ล้านบาท เปิดการขายในเดือน พ.ย.2561 มียอดขายแล้วประมาณ 20% คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและเริ่มโอนได้ปี 2563
"หลายคนกังวลว่า TITLE ได้รับผลกระทบมั๊ย เกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มปล่อยกู้ซื้อบ้านของแบงก์ชาติ บอกเลยเราไม่ได้รับผลกระทบ เพราะลูกค้ากว่า 80% เป็นชาวต่างชาติ ไม่ได้ใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน แถมยังวางเงินดาวน์ในสัดส่วนสูง 50-75% ถือเป็นการปิดความเสี่ยงการทิ้งดาวน์ไปได้เลย นี่คือจุดเด่นที่สำคัญของ TITLE ซึ่งต่างจากผู้ประกอบการอสังหาฯทั่วไป" นายศศิพงษ์กล่าวในที่สุด