กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--โรงแรมอนันตรา
ไมเนอร์ โฮเทลส์ และ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ประกาศความพร้อม เปิดตัวโรงแรมอนันตราในสเปน
กรุงเทพฯ และ มาดริด, 17 เมษายน 2562: ไมเนอร์ โฮเทลส์ และ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ประกาศการลงนามในข้อตกลงดำเนินการบริหาร วิลลา ปาเดียร์นา พาเลซ (Villa Padierna Palace) ซึ่งเป็นโรงแรมของ วิลลา ปาเดียร์นา กรุ๊ป ที่ตั้งอยู่ในเมืองมาร์เบยา (Marbella) ทางตอนใต้ของสเปน โดยได้เข้าบริหารทันทีภายใต้สัญญาเช่าแปรผัน (variable lease agreement) ซึ่งหลังจากไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้เข้าซื้อกิจการของ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นการรวมตัวครั้งแรกของแบรนด์จากทั้งสองบริษัท โดย วิลลา ปาเดียร์นา จะได้รับการรีแบรนด์เป็น โรงแรมอนันตรา ซึ่งเป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์ของเครือไมเนอร์ โฮเทลส์ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ไมเนอร์ โฮเทลส์ และ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เริ่มกลยุทธ์การบูรณาการโดยการนำแบรนด์โรงแรมทั้งหมดในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มารวมไว้ภายใต้องค์กรเดียวกัน โดยเริ่มจากการโอนโรงแรมในโปรตุเกสและบราซิลของกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ ไปไว้ภายใต้การดูแลของ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของเอ็นเอช โฮเทล ในภูมิภาคดังกล่าว และปรับแบรนด์ของโรงแรมในเครือไมเนอร์ และเอ็นเอช โฮเทล ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานที่ดูแลรับผิดชอบกลุ่มโรงแรมสามารถใช้ประโยชน์จากการขยายแบรนด์ และการรีแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ การลงนามในข้อตกลงบริหาร วิลล่า ปาเดียร์น่า และการรีแบรนด์เป็นโรงแรมอนันตรา ซึ่งจะบริหารโดย เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ภายใต้คำแนะนำและการกำกับดูแลของไมเนอร์ โฮเทลส์ และด้วยความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท ยังเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จอันสำคัญของกลยุทธ์นี้
วิลล่า ปาเดียร์น่า ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน คอสตา เดล โซล ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักกอล์ฟทั่วโลก จะเปิดตัวอีกครั้งภายใต้ชื่อ อนันตรา วิลล่า ปาเดียร์น่า พาเลซ เบนาฮาวิส มาร์เบย่า รีสอร์ท (Anantara Villa Padierna Palace Benahavis Marbella Resort) และจะกลายเป็นโรงแรมอนันตรา แห่งแรกในสเปน ซึ่งเป็นตลาดหลักของกลุ่มเอ็นเอช โฮเทล และเป็นโรงแรมอนันตราแห่งที่สองในยุโรป โดยแห่งแรก คือ อนันตรา วิลามูรา อัลการ์ฟ รีสอร์ท (Anantara Vilamoura Algarve Resort) ในโปรตุเกส ที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
มร. ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ ให้ความเห็นว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เปิดตัวแบรนด์อนันตราซึ่งเป็นแบรนด์หรูของเราในประเทศสเปน ด้วยการเปิด อนันตรา วิลล่า ปาเดียร์น่า พาเลซ เบนาฮาวิส มาร์เบย่า รีสอร์ท ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะรวมแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของไมเนอร์ โฮเทลส์ และ เอ็นเอช รวมถึงการผสานความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการ ผ่านความร่วมมือและการขยายตลาดของเรา"
มร. รามอน อาราโกเนส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป กล่าวว่า "ข้อตกลงนี้แสดงถึงความก้าวหน้าในการควบรวมกับไมเนอร์ โฮเทลส์ และยังเป็นโอกาสแรกของเอ็นเอช ในการนำเสนอความหรูหราเหนือระดับ ที่จะเชื่อมนักเดินทางกับประสบการณ์ท้องถิ่น ณ จุดหมายปลายทางในยุโรป"
วิลล่า ปาเดียร์น่า ล้อมรอบด้วยสนามกอล์ฟ 3 แห่ง และอยู่ในทำเลที่เปรียบเป็นใจกลาง 'สามเหลี่ยมทองคำ' ซึ่งประกอบด้วย มาร์เบยา, เบนาฮาวิส และ เอสเตโปนา ทั้งสามเมืองนับเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญทางชายฝั่งทะเลตอนใต้ของสเปน โดย วิลล่า ปาเดียร์น่า พรั่งพร้อมด้วยห้องพักอันหรูหรา งานศิลปะ อาหารท้องถิ่น และพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการพักผ่อน และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย เอ็ด กิลเบิร์ต (Ed Gilbert) สถาปนิกชาวอังกฤษ ในรูปแบบคฤหาสน์สไตล์แคว้นทัสคานีอันหรูหราโอ่อ่า และเป็นที่ตั้งของผลงานศิลปะดั้งเดิมกว่า 1,200 ชิ้น
ผู้เข้าพักสามารถเลือกประสบการณ์การพักผ่อนจากห้องพักอันหรูหราจำนวน 130 ห้อง ทั้งห้องแบบดีลักซ์ แบบสวีท และแบบวิลล่า ห้องดีลักซ์ได้รับการตกแต่งในโทนสีกลางๆ เติมเต็มด้วยหินอ่อนทราเวอทีน พร้อมทิวทัศน์สนามกอล์ฟ สวน และสระว่ายน้ำ ส่วนห้องสวีทมีสภาพแวดล้อมที่กว้างขวาง ระเบียงพร้อมวิวสุดพิเศษ อีกทั้งเป็นที่จัดแสดงผลงานศิลปะล้ำค่าอีกด้วย
นอกจากนั้น รีสอร์ทยังมีห้องพักแบบวิลล่าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นอีกตัวเลือกในการเข้าพัก ซึ่งผสานรวมความพิเศษเฉพาะตัวของบ้านพักแบบส่วนตัว กับความหรูหราสะดวกสบายของโรงแรม และหนึ่งในนั้นคือ โอบามา วิลล่า (Obama Villa) ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อหลังจาก มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เลือกที่จะใช้วันหยุดพักผ่อนของเธอในสเปน เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2010
ด้วยแรงบันดาลใจจากคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารสเปนแบบท้องถิ่น ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสประสบการณ์อาหารที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างความทรงจำอันล้ำค่าที่เชื่อมโยงกับจุดหมายปลายทางอันแสนพิเศษของพวกเขา ด้วยห้องอาหารและบาร์ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกรสชาติในทุกช่วงเวลาของวัน ไม่ว่าจะเป็น ลา วีรันดา (La Veranda) ไฟน์ไดนิ่งในบรรยากาศสุดโรแมนติก La Loggia กับอาหารอิตาเลียนรสเลิศ, โฮล 55 (Hole 55) คาเฟ่ท่ามกลางวิวสนามกอล์ฟที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่อาหารเช้าไปจนถึงอาหารสุขภาพ เดอะ กริลล์ คลับ (The Grill Club) บาร์บีคิวและผักสดจากท้องถิ่น เอ็ดดี้ส์ บาร์ (Eddy's Bar) เพลิดเพลินกับบาร์เครื่องดื่มพร้อมชมงานศิลปะล้ำค่า หรือ La Pergola อาหารว่างเบาๆ ริมสระน้ำยามบ่าย
นอกจากร้านอาหารและบาร์แล้ว ทางรีสอร์ทยังให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกกลางแจ้งทุกประเภท รายล้อมด้วยสวนและสระว่ายน้ำถึงสองสระ ยิ่งไปกว่านั้น วิลล่า ปาเดียร์น่า เวลเนส สปา นับเป็นหนึ่งในสปาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป พร้อมนักบำบัดที่เปี่ยมประสบการณ์ และคอร์สการบำบัดดูแลที่ปรับได้ตามความต้องการ ส่วนในยิมก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายครบครัน
วิลลา ปาเดียร์นา กอล์ฟ คลับ ตั้งอยู่ในใจกลางหุบเขา ให้บริการสนามกอล์ฟที่ทันสมัย โดยผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟสามารถเลือกได้ถึง 3 คอร์สซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณของรีสอร์ท ได้แก่ Flamingos Golf, Alterini Golf และ Tramores Golf และยังมีสถาบัน The Tramores Golf Academy โดย Michael Campbell ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนกอล์ฟแห่งเดียวในยุโรปที่มีความเชี่ยวชาญการเล่นเกมสั้นและคลาสส่วนตัวอีกด้วย ด้าน The Racquet Club มีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬามากกว่า 22,000 ตารางเมตร รวมถึง สนามเทนนิส 2 สนาม สนามพาเดลเทนนิส 11 สนาม และ สนามโครเกต์ 2 สนาม
สำหรับการจัดงานบริษัทหรืองานสังคมใน คอสตา เดล โซล ทางรีสอร์ทมีระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยที่สุด พร้อมพื้นที่จัดงานกว่า 2,000 ตารางเมตร รวมถึงห้องประชุม 8 ห้อง เทอเรซ 5 แห่ง และอัฒจันทร์กลางแจ้งสไตล์โรมัน ที่สามารถรองรับแขกได้ถึง 400 คน