กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ไทยวา
ผู้ถือหุ้น TWPC ยิ้มรับผลโหวตอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท มูลค่ารวม 281.73 ล้านบาท พร้อมจ่ายเป็นเงินสดในวันที่ 24 พ.ค. 2562 เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XDวันที่ 7 พ.ค.62 ฟาก "โฮ เรน ฮวา "ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาดผลงานไตรมาส 1/62 สัญญาณดีเติบโตเข้าเป้าหมาย พร้อมประเมินปีนี้รายได้เพิ่มขึ้น 6-8%จากปีก่อน ลุยขยายกำลังผลิตกลุ่มแป้งสำมันปะหลัง HVA และโรงไฟฟ้า
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ได้มีมติจ่ายเงิน ปันผลในงวดผลการดำเนินงานปี 2561 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 7 พ.ค. 2562 ขณะที่จ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ทั้งนี้ มูลค่าการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้อยู่ที่ 281.73 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในไตรมาส1/62 ถือว่ามีสถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะราคาต้นทุนหัวมันสำปะหลังที่ลดลง และเริ่มรับรู้รายได้ของ บริษัท แม่สอด สตาร์ช จำกัด และบริษัท แม่สอด ไบโอแก๊ส จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง และผลิตแก๊สชีวภาพ โดยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และเป็นการกระจายแหล่งการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ พร้อมทั้งสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งสถานการณ์โดยรวมเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
"ตอนนี้ บริษัทฯ เริ่มเดินเครื่องผลิตเต็มที่ ซึ่งถือว่าปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้หลังจากซื้อโรงงานแม่สอด สตาร์ช จะส่งผลให้บริษัทฯ มีวัตถุดิบเข้าสู่การผลิตมากขึ้น ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 15% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังอยู่ที่ 399,000 ตันต่อปี เป็น 465,000 ตันต่อปี" นายโฮเรน กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้การเติบโตไว้ที่ระดับ 6-8%จาก งวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเริ่มรับรู้รายได้ของ บริษัท แม่สอด สตาร์ช การขยายกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มแป้งสำมันปะหลัง HVA โดยยังเน้นขยายตลาดในประเทศจีน และไต้หวัน เพราะยังมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยจะใช้ก่อสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ที่กัมพูชา เฟส 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 และจะใช้เพิ่มกำลัง การผลิตกลุ่มสินค้า HVA ภายในประเทศ รวมทั้งจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 2 โรง ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิตในด้านการใช้พลังงานได้ประมาณ 30 ล้านบาทต่อปีต่อโรง