กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
"เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ยังขยายตัวได้ แม้ว่าจะชะลอลงจากไตรมาสก่อน นำโดยกรุงเทพและปริมณฑล ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน การลงทุนภาคเอกชนที่ยังขยายตัวในหลายภูมิภาค และการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องในทุกภูมิภาค สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี"
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค และนางวิภารัตน์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการส่วนแบบจำลองและประมาณการเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ว่า "เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ยังขยายตัวได้ แม้ว่าจะชะลอลงจากไตรมาสก่อน นำโดยกรุงเทพและปริมณฑล ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน การลงทุนภาคเอกชนที่ยังขยายตัวในหลายภูมิภาค และการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องในทุกภูมิภาค สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี" โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้
กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 13.9 และ 1.3 ต่อปี ตามลำดับ ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 15.9 และ 2.2 ต่อปี ตามลำดับ ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะปทุมธานี และสมุทรปราการ เป็นต้น สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 6.7 และ 16.4 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในจังหวัดนครปฐม และปทุมธานี รวมถึงเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ที่ 2,683 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 มีเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการอยู่ที่ 10,506.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 58.1 ต่อปี จากการลงทุนเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสมุทสาคร สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี สะท้อนจากรายได้จากการเยี่ยมเยือนในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวที่ร้อยละ 6.4 ต่อปี จากการขยายตัวทั้งของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ร้อยละ 6.5 และ 6.4 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคและการผลิตภายในภูมิภาคที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันตก เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี ตามการขยายตัวในจังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี และกาญจนบุรี เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง จากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวที่ร้อยละ 11.5 ต่อปี จากการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 7.9 และ 15.2 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 9.7 และ 2.6 ตามลำดับ สอดคล้องกับเงินลงทุนในโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ 2,487 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 38.5 ต่อปี ตามการลงทุนในโรงงานผลิตผลิตเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณในจังหวัดเพชรบุรี และโรงงานผลิตสับปะรดกระป๋อง และน้ำสับปะรดกระป๋อง ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 8.6 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวทั้งจากผู้เยี่ยมเยือนของคนไทยและคนต่างประเทศ สำหรับด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 0.5 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม และการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว สะท้อนจากรายได้จากการเยี่ยมเยือนในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 5.5 และ 7.8 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวทั้งจากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยและชาวต่างประเทศ สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ในเดือนมีนาคม 2562 ที่ยังคงอยู่เหนือระดับ 100 เป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 111.9 ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและทำความเย็น อุตสาหกรรมเหล็ก และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ สำหรับด้านอุปสงค์ ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 14.1 ต่อปี ส่งผลให้ไนไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 4.6 ต่อปี จากการขยายตัวในจังหวัดฉะเชิงเทราและระยอง เช่นเดียวกันกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชน จากเงินลงทุนที่เริ่มประกอบกิจการ ในเดือนมีนาคม 2562 มีมูลค่า 2,416.4 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ 31,254.1 ล้านบาท ขยายตัว 198.5 ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าในจังหวัดระยองเป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.8 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคกลาง เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชน และอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง จากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 7.8 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 12.1 ต่อปี จากการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดชัยนาทและสระบุรี เป็นต้น สอดคล้องกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากยอดรถปิคอัพจดทะเบียนใหม่ในเดือนมีนาคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 7.8 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 12.1 ต่อปี รวมถึงเงินลงทุนที่เริ่มประกอบกิจการในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ 8,565.7 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 38.2 ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจังหวัดสระบุรีเป็นสำคัญ ตามลำดับสำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคกลาง ในเดือนมีนาคม 2562 ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 99.0 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จาการเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง สอดคล้องกับภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี รายได้จากการเยี่ยมเยือน ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 6.3 ต่อปี จากการขยายตัวทั้งคนไทยและต่างประเทศที่ร้อยละ 5.9 และ 8.3 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.02 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 8.5 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 5.6 ต่อปี สอดคล้องกับการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวที่ร้อยละ 9.2 ต่อปี จากการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์ อุบลราชธานี และนครพนม เป็นต้น ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรทรงตัว แต่มีเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ 1,997.6 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.7 ต่อปี สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในเดือนมีนาคม 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันมาอยู่ที่ 94.7 ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและอุตสาหกรรมน้ำตาล เป็นต้น เช่นเดียวกันกับภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี สะท้อนจากรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อปี ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 1.4 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคเหนือ เศรษฐกิจทรงตัว จากการขยายตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลง สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 4.4 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 3.0 ต่อปี สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 7.8 และ 1.9 ต่อปี ตามลำดับ จากการขยายตัวในจังหวัดน่าน อุทัยธานี และเพชรบูรณ์ เป็นต้น สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจาก ยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 16.3 และ 5.0 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับด้านอุปทานภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราชะลอลง จากรายได้จากการเยี่ยมเยือน ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 2.6 ต่อปี ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 10.1 ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคใต้ เศรษฐกิจทรงตัว จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม แต่การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวลดลง สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนมีนาคม 2562 ขยายตัวร้อยละ 6.3 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 8.1 ต่อปี โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากรายได้ผู้เยี่ยมเยือนของคนไทยและคนต่างประเทศที่ขยายตัวร้อยละ 7.3 และ 8.3 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคใต้ ในเดือนมีนาคม 2562 ที่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 81.9 ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง และอุตสาหกรรมโรงเลื่อยและโรงอบไม้ เป็นต้น สำหรับด้านอุปสงค์ปรับตัวลดลง ตามการลดลงของจากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 หดตัวลงร้อยละ -2.9 และ -2.0 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่มีเงินลงทุนในโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 มีมูลค่าอยู่ที่ 1,906.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 150.5 ต่อปี ตามการลงทุนในจังหวัดสุราษฎ์ธานี กระบี่ และสงขลาเป็นสำคัญ ส่วนด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเบื้องต้น ในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และอัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค