กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--มิชลิน
มิชลินประกาศความพร้อมในการจัดทำคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ฉบับปี 2563 ในประเทศไทย โดยรุกขยายขอบเขตการคัดสรรแนะนำร้านอาหารและที่พักไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้คู่มือฉบับที่ 3 ของไทยซึ่งมีกำหนดเปิดตัวปลายปีนี้ในชื่อ 'มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา' (The MICHELIN Guide Bangkok, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2020) สะท้อนเอกลักษณ์ที่แตกต่างหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารใน 3 ภูมิภาคของไทย ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ
นายเสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด และเลขาธิการกลุ่มมิชลินประจำเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย เปิดเผยว่า เชียงใหม่...ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของไทย...มีความน่าสนใจในฐานะแหล่งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ อาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโรงแรมที่พักที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นอย่างโดดเด่นเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูด 'มิชลิน ไกด์' ให้ตัดสินใจเข้ามาดำเนินการสำรวจ คัดเลือก และจัดอันดับร้านอาหารและที่พักในเชียงใหม่
"เนื้อหาของคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ฉบับใหม่ซึ่งจะครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ นอกเหนือจากจังหวัดที่มีอยู่เดิม คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพังงา ตอกย้ำให้เห็นถึงความหลากหลายของอาหารไทยในแต่ละภูมิภาค ซึ่งแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศ ภูมิประเทศ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และการผสมผสานของเชื้อชาติต่างๆ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจ" นายเสกสรรค์ กล่าว
เชียงใหม่สืบสานวัฒนธรรมล้านนาในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงด้านอาหารและสถาปัตยกรรม อีกทั้งตลอดระยะเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมายังได้ซึมซับรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากมอญ เขมร ลาว และพม่า เอาไว้ด้วย ด้วยรากฐานดังกล่าวปัจจุบันเชียงใหม่ได้เติบโตกลายเป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัย วงการอาหารของเชียงใหม่พัฒนาโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง มีร้านอาหารเก๋ๆ จำนวนมาก ทั้งยังมีอาหารนานาชาติให้เลือกสรรมากมาย อีกทั้งเชียงใหม่ยังเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงจำนวนมากที่สุดถึง 27 แห่งในเขตภาคเหนือตอนบน จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกผัก ผลไม้ และสมุนไพรที่สำคัญของประเทศ ร้านอาหารในเมืองเชียงใหม่จึงได้เปรียบในแง่การเข้าถึงวัตถุดิบที่สดใหม่สามารถนำเสนออาหารเทรนด์สุขภาพภายใต้แนวคิด "ฟาร์ม-ทู-เทเบิล" (Farm-to-Table) ได้อย่างแท้จริง และการนำเสนอความคุ้มค่าเชิงราคา
ในส่วนของอุตสาหกรรมบริการ เชียงใหม่ยังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยมีทางเลือกที่หลากหลายในการพักแรมให้เลือกตามงบประมาณและรสนิยมที่แตกต่างกัน ตั้งแต่โฮสเทลและโฮมสเตย์ ไปจนถึงโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว อีกทั้งที่พักส่วนใหญ่ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนเสน่ห์และอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ปัจจัยด้านอาหารและที่พักเหล่านี้ล้วนส่งเสริมให้เชียงใหม่มีสีสันและคึกคักจนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาเยือนเพิ่มมากขึ้นทุกปี
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า "อันที่จริงจุดเด่นเรื่องอาหารเพียงเรื่องเดียวก็เป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาเยือนเชียงใหม่...เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่ดีที่สุด แห่งหนึ่งของไทย...แล้ว อย่างไรก็ตาม เชียงใหม่ยังมีจุดเด่นอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ฉบับปี 2563 จะสร้างกระแสให้เชียงใหม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในเชิงลึกมากขึ้น และกลายเป็นแม่เหล็กด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทยที่สำคัญอีกแห่ง"
ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ได้ที่: guide.michelin.com/th/bangkok หรือติดตามข่าวสารล่าสุดของ 'มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา' ได้ทางเฟซบุ๊ค: facebook.com/MichelinGuideThailand
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 117,400 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิต 121 แห่งใน 17 ประเทศ ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 190 ล้านเส้นในปี 2560 ทั้งนี้ กลุ่มมิชลินได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th