กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD พลิกโฉมครั้งใหญ่รับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ลุยรีแบรนดิ้งในโอกาสครบรอบ 20 ปี สร้างภาพลักษณ์ใหม่ภายใต้สโลแกน 'ชีวิตดีดี มีได้ทุกวัน' ปรับจุดยืนทีวี ไดเร็คเป็นผู้ให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ดี ด้านผู้บริหารเดินหน้ากลยุทธ์ Omni Channel อย่างเต็มที่เชื่อมโยงทุกช่องทางให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมลุยทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ 20 ปีตั้งแต่ 1 พฤษภาคม – 20 กันยายนนี้ จับแจกรางวัลทุกสัปดาห์
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่าน Omni Channel เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตัดสินใจรีแบรนดิ้งองค์กรในโอกาสครบรอบ 20 ปี ซึ่งนับเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ของบริษัทฯ เริ่มตั้งแต่การรีแบรนดิ้งและสร้างการจดจำภายใต้สโลแกนใหม่ 'ชีวิตดีดี มีได้ทุกวัน' การปรับโมเดลธุรกิจและโครงสร้างองค์กร ปรับกลยุทธ์ให้สามารถรับมือกับเทรนด์ธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล เพื่อทรานส์ฟอร์มองค์กรให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1.ประชากรที่มีแนวโน้มลดลง คาดว่าปี 2030 (พ.ศ.2573) จะเป็นปีแรกที่ประเทศไทยเริ่มมีประชากรลดลง ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจจะต้องเผชิญภาวะกำลังซื้อถดถอย
2.พฤติกรรมคนไทยปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล โดยมีข้อมูลเชิงสถิติ อาทิ ปัจจุบันคนไทยมีสมาร์ทโฟนกว่า 92.33 ล้านเครื่อง, มีค่าเฉลี่ยการใช้โทรศัพท์มือถือสูงที่สุดในโลก 4.53 ชั่วโมงต่อคนต่อวัน (ค่าเฉลี่ยทั่วโลก 3.05 ชั่วโมงต่อคนต่อวัน), คนไทยเล่นไลน์ 44 ล้านบัญชี, เล่นเฟซบุ๊ค 50 ล้านบัญชี, อินสตาแกรม 13.6 ล้านบัญชี,ทวิตเตอร์ 12 ล้านบัญชี ฯลฯ ส่งผลให้ปัจจุบันมีสัดส่วนประชาชนที่รับข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์เป็นหลัก 30% ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 15% และทางออฟไลน์เป็นหลัก 55%
ขณะเดียวกันจากจำนวนประชากรในปัจจุบันที่มีประมาณกว่า 69 ล้านคน สามารถแบ่งโครงสร้างเป็นกลุ่มที่มีอายุไม่เกิน 24 ปี มีประมาณ 21.6 ล้านคน วัยทำงานที่มีอายุ 25-54 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ มีประมาณกว่า 31.7 ล้านคน และกลุ่มที่มีอายุ 55-64 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัทฯ ที่มีกำลังซื้อสูง มีประมาณ 15.7 ล้านคนและเป็นกลุ่มที่ยังนิยมดูทีวี จึงทำให้การใช้สื่อแบบแมสมีเดียยังคงเข้าถึงประชาชนได้เป็นจำนวนมาก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าวบริษัทฯ จำเป็นต้องปรับองค์กรและรีโมเดลธุรกิจใหม่สู่ 'ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น' โดยเน้นการใช้กลยุทธ์ Omni Channel อย่างเต็มที่เพื่อเชื่อมโยงทุกช่องทางทั้งออนไลน์ ออฟไลน์และร้านค้าปลีก TVD Shop ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด และสร้าง Customer Experience หรือประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้า เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้อสินค้าด้วยความรู้สึกและอารมณ์เพิ่มขึ้น
ดังนั้นการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ TVD จะอยู่ภายใต้แนวคิดการให้บริการ (Hospitality) โดยไม่เป็นเพียงผู้จำหน่ายสินค้าเท่านั้น แต่จะเป็นผู้ให้บริการที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าไปพร้อมๆ กัน เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ลูกค้าต้องการและสร้างความผูกพัน (Engagement) ให้เกิดการซื้อสินค้าซ้ำ โดยบริษัทฯ ได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ สู่การเป็น Video Marketer ที่มีครบทั้งภาพ เสียงและคอนเทนต์ จากเดิมที่ใช้โมเดล TV Shopping ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานในองค์กรใหม่ให้มีความกระชับ โดยปรับโครงสร้างการบริหารเหลือ 4 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายการตลาด ฝ่าย Omni Channel และฝ่าย Operation เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจและบริหารต้นทุนด้านบุคลากรได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีระบบซอฟท์แวร์เข้ามาใช้กับหน่วยงานคอลล์เซ็นเตอร์ เพื่อติดตามวัดผลการสื่อสารกับลูกค้าและนำกลับมาพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป้าหมายเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการปิดยอดขายและลดอัตรายกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า
พร้อมกันนี้ในโอกาสครบรอบ 20 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 20 กันยายน 2562 บริษัทฯ จัดแคมเปญ 'TVD 20th Birthday Festival' ฉลองครบรอบ 20 ปี ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยมีรางวัลใหญ่รถยนต์โตโยต้า ATIV มูลค่ากว่า 5 แสนบาท สร้อยคอทองคำ เก้าอี้นวด ฯลฯ โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบทุก 1,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรางวัล เพื่อเพิ่มยอดขายจากช่วงปกติและผลักดันยอดขายปีนี้ได้ตามเป้าหมาย 4,800 ล้านบาท
"เรามั่นใจว่าเดินมาถูกทางและจะทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่แบบ Total Change ทั้งองค์กรเพื่อเปลี่ยนผ่านบริษัทฯ เข้าสู่ดิจิทัล และสามารถตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคในวัยทำงานและวัยใกล้เกษียณที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักและฐานลูกค้าของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายทรงพล กล่าว