กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ท่าเรือราชาเฟอร์รี่
บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 ในวันที่ 30 เม.ย.2562 โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการบริษัท นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการและกรรมการผู้จัดการบริษัท พร้อมคณะกรรมการบริษัท เพื่อชี้แจงผลการดำเนินธุรกิจปี 2561 รวมถึงแผนธุรกิจในอนาคต
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP ชี้แจงที่ประชุมใหญ่เกี่ยวกับผลประกอบการในปี 2561 ที่ผ่านมาว่ามีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ บริษัทมีรายได้รวม 750.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.03% แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกหลายประเด็นที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจด้วย
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0522 บาท รวมเป็นเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 9 พ.ค. และมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 28 พ.ค.2562
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2562 นี้ บริษัทจะเร่งการเจรจากับพันธมิตรเพื่อขยายบริการครบวงจรไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนด้วย
"ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนเพิ่มทั้งการซื้อเรือใหม่ 1 ลำให้บริการเส้นทางดอนสัก-สมุย เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มากขึ้น เพิ่มจำนวนท่าเทียบเรือ 4-5 ที่ฝั่งดอนสัก ซึ่งจะทำให้เรือเทียบท่าเข้าออกได้เร็วขึ้นทุกๆ 15 นาที การจราจรคิวรถลงเรือระบายได้ดีขึ้นอีกประมาณ 20% ผู้โดยสารไม่ต้องคอยนาน เหมือนที่เราปรับปรุงท่าเรือที่ฝั่งสมุยไปแล้ว นอกจากนี้ยังปรับปรุงระบบบริการหลายด้าน รวมทั้งด้านเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการจองตั๋วโดยสารผ่านระบบออนไลน์ พร้อมศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน เพื่อขยายธุรกิจบริการเดินเรือและรถให้ครบวงจร คาดว่าภายในปีนี้จะมีข่าวดีเรื่องความร่วมมือเรื่องการขยายธุรกิจไปนอกประเทศไทย" นายอภิชาติ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตทำท่าเทียบเรือที่เกาะพะลวย ซึ่งเป็นพื้นที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต อันจะเป็นโอกาสของ RP ในการขยายธุรกิจด้านการเดินเรือและธุรกิจการขนส่งที่เราเชี่ยวชาญได้อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯได้มีมติแต่งตั้งกรรมการ 4 ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ นายอนันต์ เกตุพิทยา นายพรชัย วิริยะธนสกุล และนายพานิช พงศ์พิโรดม ที่ครบกำหนดออกตามวาระกลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์และประวัติการทำงานที่ดี