กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 34 จังหวัด รวม 112 อำเภอ 259 ตำบล 661 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 6,907 หลัง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2562 เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 34 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี พิษณุโลก ปทุมธานี แพร่ ตราด อุตรดิตถ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ สระบุรี อ่างทอง เลย ลพบุรี อุบลราชธานี พะเยา อุทัยธานี ขอนแก่น ลำปาง ชัยนาท นครสวรรค์ สุรินทร์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ กำแพงเพชร เพชรบุรี ร้อยเอ็ด สกลนคร อุดรธานี หนองคาย นครพนม หนองบัวลำภู สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช รวม 112 อำเภอ 259 ตำบล 661 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 6,907หลัง เสียชีวิต 1 ราย (อุดรธานี) ผู้บาดเจ็บ 5 ราย (ลำปาง สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ) ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมอีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้หลายพื้นที่อาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ปภ.จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป