กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุดในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีแนวโน้มแผ่วตัว อันมีสาเหตุหลัก
จากเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าและบริการของไทย รวมถึงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ลดลง ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายยังคงอยู่ในระดับสูง ดังนั้น กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 เพื่อป้องกันและดูแลความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 เห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. มาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1.1 มาตรการเพิ่มเบี้ยคนพิการ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เป็นผู้พิการให้ได้รับเบี้ยผู้พิการเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นจำนวนเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา
5 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน 2562 โดยจะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรประจำตัวคนพิการเท่านั้น และสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture: EDC) แอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ หรือถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติได้
1.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่เกษตรกร เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เป็นเกษตรกรในช่วงที่รายได้เกษตรกรหดตัว สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และปัจจัยการผลิตอื่นๆ เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทต่อคน (ได้รับครั้งเดียว) ซึ่งผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้ซื้อสินค้าผ่านเครื่อง EDC แอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ หรือถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติได้
1.3 มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ช่วงเปิดปีการศึกษา เพื่อช่วยเหลือค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การศึกษาช่วงเปิดปีการศึกษาเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือของกระทรวงศึกษาธิการที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ เป็นจำนวน 500 บาทต่อบุตร 1 คน (ได้รับครั้งเดียว) โดยจะให้สิทธิตามจำนวนบุตรผ่านแม่หรือพ่อที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้ซื้อสินค้าผ่านเครื่อง EDC แอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ หรือถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติได้
1.4 มาตรการพยุงการบริโภคของผู้มีรายได้น้อย เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยและรักษากำลังซื้อของเศรษฐกิจฐานราก โดยเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคจำเป็นในร้านธงฟ้าประชารัฐเป็น 500 บาท ต่อคนต่อเดือน เท่ากันทุกคน (เดิมได้ 300 บาท ให้เพิ่มอีก 200 บาท หรือเดิมได้ 200 บาท ให้เพิ่มอีก 300 บาท) เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน 2562
2. มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562
2.1 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย ให้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ค่าที่พัก โรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองหลัก ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท และสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองรอง ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งนี้ รวมกันทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 20,000 บาท ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562
2.2 มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าเกี่ยวกับการศึกษาและกีฬา ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้อสินค้าเพื่อการศึกษาและกีฬาที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2562
2.3 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นไทย ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562
2.4 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการอ่าน ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-Book) ที่จ่ายให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่เมื่อรวมค่าซื้อหนังสือและค่าบริการ e-Book ของมาตรการช็อปช่วยชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 – 16 มกราคม 2562 แล้ว ต้องไม่เกิน 15,000 บาท
2.5 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดินหรือห้องชุดในอาคารชุดที่มีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 200,000 บาท ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
2.6 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายเป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายลงทุนเพื่อรองรับระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 สำหรับรายจ่ายลงทุน ดังต่อไปนี้ (1) เครื่องบันทึกการเก็บเงินและ (Point of Sale: POS) ระบบ POS ซึ่งเชื่อมโยงกับการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (2) การพัฒนาระบบหรือค่าบริการเกี่ยวกับ e-Tax Invoice & e-Receipt (3) การพัฒนาระบบหรือค่าบริการ e-Withholding Tax
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายในระยะนี้จะมีต้นทุนของการดำเนินการที่ต่ำกว่าหากเทียบกับกรณีที่ปล่อยให้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเพิ่มเติม อีกทั้งยังเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อยและกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศการใช้จ่ายภายในประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอีกด้วย