ไอบีเอ็มเปิดตัวชิพประมวลผลเร็วที่สุดในโลก พร้อมกับเทคโนโลยี Virtualization ใหม่ล่าสุด สำหรับธุรกิจ SME

ข่าวเทคโนโลยี Friday February 1, 2008 14:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
ไอบีเอ็มขยายธุรกิจฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ภายใต้เทคโนโลยี Virtualization เพื่อช่วยธุรกิจ SME ประหยัดพลังงาน ค่าใช่จ่าย และพื้นที่การจัดเก็บ
ไอบีเอ็ม ประกาศเปิดตัวชิพประมวลผล POWER6 สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเสมือน Virtualization ใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการควบรวมความสามารถของเซิร์ฟเวอร์ การประหยัดพลังงาน และช่วยการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในระบบไอทีให้มีประสิทธิภาพ
แนวทางการสร้างระบบ “เสมือนจริง” หรือ Virtualization ในระบบคอมพิวเตอร์นั้น ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลก ลดการใช้พลังงานลงได้ถึงร้อยละ 80 ส่งผลดีต่อการจัดการเมื่อระบบมีการขยายตัว และสามารถลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของการเป็นเจ้าของ (total cost of ownership) ลงได้อีกถึงร้อยละ 72
ภายใต้เทคโนโลยี Virtualization การทำงานของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากจะสามารถปฏิบัติงานได้บนเซิร์ฟเวอร์เพียงไม่กี่ตัว หรืออาจกล่าวได้ว่า เซิร์ฟเวอร์ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Virtualization เพียงตัวเดียวสามารถรองรับระบบปฏิบัติการได้หลาย ๆ ระบบ ควบคู่ไปกับการทำงานของหลายแอพพลิเคชั่นในเวลาเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี Virtualization ดังกล่าวนี้เอง ทำให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจัดการระบบไอที ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคล่องตัว ทำให้การบริหารจัดการสามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่าธุรกิจจะมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับนวัตกรรมใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา
เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกธุรกิจในปัจจุบัน ไอบีเอ็มได้นำเสนอ PowerVM Express ซอฟท์แวร์ใหม่ล่าสุดทางด้านเทคโนโลยี Virtualization ที่ได้รับการพัฒนาเหนือขึ้นไปอีกระดับ ทั้งนี้ จุดประสงค์คือ เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายทางด้านไอทีได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสามารถในการประหยัดพลังงาน และความสามารถของการทำงานให้มากยิ่งขึ้น โดย PowerVM Express สามารถรองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ ได้หลากหลายในเครื่องเดียวกัน อาทิเช่น AIX, UNIX, Linux, และ i5/OS ซึ่งทำงานบนระบบ System i เป็นต้น
นอกจากนั้น เมื่อมีการนำชิพประมวลผล POWER6 ที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ System P มาผนวกรวมกับ เซิร์ฟเวอร์ BladeCenter ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดยเฉพาะแล้ว ลูกค้าจะสามารถสร้างพาร์ติชั่นเสมือนได้ถึง 160 ส่วนในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
มร. สก็อต แฮนดี้ รองประธานฝ่ายการตลาดและกลยุทธ์ กลุ่มธุรกิจ Power System ของไอบีเอ็ม กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เทคโนโลยี Virtualization มักเป็นที่นิยมใช้กันในบริษัทขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันไอบีเอ็มต้องการทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวใช้งานได้ง่ายขึ้น จนสามารถนำไปใช้ได้กับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้ดี” มร. สก็อต ยังกล่าวเสริมว่า “การประสานเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างซอฟท์แวร์ Virtualization และ เทคโนโลยีของ POWER6 ในครั้งนี้ นอกจากจะตอกย้ำการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับโลกของไอบีเอ็มแล้ว ยังแสดงความมุ่งมั่นของเราในการช่วยลูกค้าของเราเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ โดยประหยัดทั้งเงินและเวลาอีกด้วย”
ปัจจุบัน ซอฟท์แวร์ PowerVM ซึ่งแต่เดิมเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Advanced POWER Virtualization (APV) มีอยู่ 3 รูปแบบ คือ Express Standard และ Enterprise นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มส่วนเสริมในซอฟท์แวร์ดังกล่าว เพื่อช่วยให้ System P สามารถรองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Linux x86 ได้ นอกจากนั้นแล้ว แอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่ทำงานบนระบบ Unix และ Linux โดยความสามารถดังกล่าวนี้ ยังทำได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการรวมระบบใหม่ (recompilation) หรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด
จากข้อมูลของไอดีซี หนึ่งในบริษัทวิจัยทางด้านไอทีชั้นนำระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับการบริการและค่าซอฟแวร์ Virtualization จะมีมูลค่าสูงเกิน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2554 โดยเพิ่มขึ้นจาก 6.5 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2549 ในขณะที่ฟอร์เรสเตอร์ บริษัทวิจัยทางด้านไอทีอีกรายหนึ่ง กล่าวว่าแนวโน้มที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Virtualization จะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 86 ภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว
นวัตกรรมและการคิดค้นเทคโนโลยีทางด้าน Virtualization จากไอบีเอ็มซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 40 ปีนั้น ปัจจุบัน ได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และเล็ก นอกจากนั้น กว่าร้อยละ 70 ของโปรเซสเซอร์ IBM POWER6 ที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ System P ในปัจจุบันก็ใช้เทคโนโลยีล่าสุด POWERVM ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ นอกเหนือจากประโยชน์ที่ได้จากการจัดการระบบด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพ และช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ซอฟท์แวร์ POWERVM ยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการปรับปรุงระบบและการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาในการทำงานได้อีกทางหนึ่งด้วย
ในขณะที่เทคโนโลยี Virtualization ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มักจำกัดอยู่กับการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel เท่านั้น โปรเซสเซอร์ POWER6 และซอฟท์แวร์ POWERVM ที่ทำงานบนระบบ System P ของไอบีเอ็ม ก็สามารถช่วยให้ผู้ใช้สร้างพาร์ติชั่นได้ต่ำกว่าระดับของโปรเซสเซอร์ โดยทำได้ถึงระดับ 1 ใน 10 ส่วนของโปรเซสเซอร์เลยทีเดียว
บริษัท ออสแรม ซิลเวเนีย (OSRAM SYLVANIA) หนึ่งในผู้นำการผลิตสินค้าและให้บริการด้านแสงสว่าง โดยใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของไอบีเอ็มที่เคยมีปัญหาการจัดการพื้นที่ในเซิร์ฟเวอร์ และต้องการลดค่าใช้จ่ายทางด้านการอัพเกรด ปัญหาหนึ่งที่บริษัทฯ ประสบคือ จะลดค่าใช้จ่ายลงเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย 5 ปีของบริษัทฯ ได้อย่างไร อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทฯ ตัดสินใจเลือกใช้ System P เซิร์ฟเวอร์ และเทคโนโลยี Virtualization PowerVM และย้ายงานทางด้านไอทีหลายส่วนมาให้กับไอบีเอ็มแล้ว บริษัทฯ ก็ค้นพบว่า การตัดสินใจดังกล่าวตอบโจทย์ของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
มร.เจฟฟรี่ รัค ผู้อำนวยการฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานไอที บริษัท OSRAM SYLVANIA กล่าว “ในระหว่างการศึกษาปัญหา บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าไอบีเอ็มสามารถช่วยให้เราก้าวข้ามจุดเปลี่ยนผ่านไปได้โดยการใช้เทคโนโลยีและการวางแผนระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว” มร.เจฟฟรี่ ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ภายใต้สองโครงการหลักในการรับมือกับปัญหา เราสามารถควบรวมเซิร์ฟเวอร์ UNIX และเซิร์ฟเวอร์ x86 ของ HP และ Dell รวมทั้งหมด 61 เซิร์ฟเวอร์มาทำงานใน System P บนระบบปฏิบัติการ AIX ของไอบีเอ็ม เพียง 11 เซิร์ฟเวอร์เท่านั้น นอกจากนี้ ด้วยการใช้ระบบไอทีและการควบรวมเซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็ม ทำให้ระบบทำงานรวดเร็วขึ้นเป็นสองเท่า ทั้งยังลดพื้นที่สำหรับ CPU ลงได้ 1 ใน 4 รวมทั้งยังทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการทำความเย็นที่น้อยลง รวมทั้งประหยัดค่าลิขสิทธิ์ของซอฟท์แวร์ลงได้มากทีเดียว”
นอกจากเทคโนโลยีล่าสุดของ POWERVM แล้ว ไอบีเอ็มยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายธุรกิจ ได้แก่
โปรเซสเซอร์ POWER6 2 ตัวที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ UNIX สำหรับระบบ System P 520 Express และ System P 550 Express ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรับมือกับงานสำคัญ ๆ ซึ่งจะเข้ามาตีตลาดแข่งกับ Solaris และ HP/UX
ระบบปฏิบัติการ i5/OS รุ่นใหม่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดยเฉพาะ โดยสามารถทำงานบน System i และสนับสนุนการทำงานร่วมกับเบลดเซิร์ฟเวอร์รุ่น JS22 และโปรเซสเซอร์ POWER6 ได้อีกด้วย
การสนับสนุน เซิร์ฟเวอร์ Express Blade รุ่น JS22 และ JS21 ของ BladeCenter ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ AIX และ LINUX ได้เป็นครั้งแรก โดยทั้งหมดรวมอยู่ใน BladeCenter S ซึ่งเหมาะกับบริษัทขนาดเล็ก และองค์กรที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วไป
x86 Server Consolidation Factory พัฒนาขึ้นจาก IBM Migration Factory ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อให้ลูกค้าสามารถย้ายระบบต่าง ๆ ที่ทำงานในเซิร์ฟเวอร์ x86 มาใช้กับระบบ System P ของไอบีเอ็มได้ ด้วยเทคโนโลยี POWERVM Virtualization ล่าสุด
ข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ http://www.ibm.com/press/attachments/23379.pdf หรือ http://www.ibm.com
แผนกประชาสัมพันธ์
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
วีระกิจ โล่ทองเพชร โทร. 02 273 4117
อีเมล์ werakit@th.ibm.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ