กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--เอสซีจี
เอสซีจี ร่วมกับกองทัพบก และเครือข่ายจิตอาสา ส่งมอบถังเก็บน้ำผลิตด้วยวัสดุพอลิเมอร์"เอลิเซอร์" ของเอสซีจี จำนวน 50 ถัง ให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เพื่อบรรเทาภัยแล้งระยะเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ในกิจกรรม "เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาบรรเทาภัยแล้ง" พร้อมเชิญชวนจิตอาสาระดมพลังสร้างฐานติดตั้งถังเก็บน้ำจากวัสดุ รีไซเคิลที่เหลือจากการก่อสร้าง ซึ่งออกแบบโดยทีมงานเอสซีจี ให้สอดคล้องกับแนวทาง SCG Circular Way หรือการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด และนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มอบให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์สำหรับชุมชนที่ประสบภัยแล้ง เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเป็นจิตอาสาในโครงการ "เฉลิมราชย์ราชา" สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.scg.com/volunteerproject
นายศาณิต เกษสุวรรณ ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสัมพันธ์และพัฒนาอย่างยั่งยืน ธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า"การส่งมอบถังเก็บน้ำจำนวน 50 ใบ เพื่อบรรเทาภัยแล้งระยะเร่งด่วน ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในจังหวัดสระบุรีให้มีภาชนะกักเก็บน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม "เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาบรรเทาภัยแล้ง" ที่เอสซีจี เครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายราชสดุดี เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามพระราชประเพณีในวันที่ 4 - 6 พ.ค 2562 นี้ โดยถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตร ผลิตด้วยวัสดุพอลิเมอร์ "เอลิเซอร์" นวัตกรรมของเอสซีจีที่แข็งแรง ทนทาน สีไม่ลอก ปราศจากตะไคร่น้ำ สารตะกั่ว ปรอท สารหนู และกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภคของชุมชน โดยกองทัพบกจะมีรถบรรทุกน้ำมาเติมน้ำให้เต็มถังในทุกพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำฐานติดตั้งถังเก็บน้ำจากวัสดุรีไซเคิลที่เหลือจากการก่อสร้าง ซึ่งออกแบบโดยทีมงานเอสซีจีให้สอดคล้องกับแนวทาง SCG Circular Way หรือการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด และนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเครือข่ายจิตอาสา ชุมชนในพื้นที่ และพนักงานเอสซีจีร่วมกันดำเนินการ"
พลตรี อัศวิน บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 18 กล่าวว่า "กองทัพบก มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมในโอกาสอันสำคัญยิ่งที่คนไทยและทั่วโลกตั้งตาคอยในครั้งนี้ กับกิจกรรม "เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาบรรเทาภัยแล้ง" เพราะกองทัพบกเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงที่มีทั้งกำลังพล เครื่องมือ และยานพาหนะ จึงมีศักยภาพที่จะสามารถร่วมช่วยเหลือประชาชนได้ครอบคลุมใน 18 จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง โดยเรามีหน่วยทหาร พร้อมรถบรรทุกน้ำจุ 6,000 ลิตร จำนวน 1,000 คัน ที่จะไปเติมน้ำในถังของเอสซีจี ซึ่งจะไปติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนผ่านวิกฤตภัยแล้งนี้ไปได้ ตามเจตนารมณ์ของกองทัพบกที่พร้อมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ร่วมกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนจิตอาสา จึงถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงที่ทำให้พี่น้องประชาชนได้คลายความทุกข์มากว่า 20 ปี นอกจากจะจัดรถบรรทุกน้ำไปเติมให้กับชุมชนที่ประสบภัยแล้ว กองทัพบกยังยินดีที่จะจัดกำลังพลจิตอาสาไปจัดสร้างฐานที่ตั้งของถังน้ำร่วมกับจิตอาสาภาคส่วนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนด้วย"
ด้านนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า "ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดสระบุรี ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ 13 อำเภอ ของสระบุรีแล้ว ส่วนใหญ่เกิดจากไม่มีน้ำดิบเพียงพอสำหรับนำไปผลิตน้ำประปา ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า6,400 ครัวเรือน ในพื้นที่ 17 หมู่บ้าน ทั้งการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร โดยที่ผ่านมา ทางจังหวัดฯ ได้แจกจ่ายน้ำสะอาดช่วยเหลือประชาชน และร่วมกับชุมชนแก้ปัญหาด้วยการจัดกิจกรรมจิตอาสาขุดลอก
คูคลอง พัฒนาแหล่งน้ำ กำจัดวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อให้มีแหล่งกักเก็บน้ำในเบื้องต้นไปแล้ว การได้รับมอบถังเก็บน้ำจากเอสซีจี และน้ำจากกองทัพบก รวมถึงพลังจากจิตอาสาที่มาร่วมด้วยช่วยกันในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งแนวทางการแก้ปัญหาที่เชื่อว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วน และเป็นกำลังใจให้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งได้ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข"
เอสซีจี ยังคงมุ่งมั่นสร้างเครือข่ายจิตอาสาทั่วประเทศ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่ายเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "เฉลิมราชย์ราชา" ผ่านการดำเนิน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรม"เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาบรรเทาภัยแล้ง" กิจกรรม "เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสารักษ์น้ำ" และกิจกรรม "เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั่วไทย" เพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็ง อันจะนำไปสู่การผลักดันสังคม และชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนประเทศให้เกิดความยั่งยืน และสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป