กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
การอ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์ทรวงอกแบบอัตโนมัติมีจุดเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือภาค HealthTech ด้วยการช่วยให้บุคคลทั่วไปสามารถตรวจสอบเพื่อความเข้าใจฟิล์มเอ็กซ์เรย์ได้ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันเพื่อช่วยให้สามารถวางแผนด้านการประกันสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นตามเงื่อนไขทางด้านสุขภาพเป็นปัจเจกบุคคล
บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส จำกัด (Amazon Web Services Inc.: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com ประกาศผลการแข่งขัน AWS Hackdays 'Hack for Good' 2019 ของประเทศไทย โดยทีมซันเดย์ มอร์นิ่ง เป็นผู้ชนะเลิศ ด้วยการนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมการอ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์ทรวงอกโดยอัตโนมัติ (Automated Chest X-Ray Interpretation) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น ได้แก่เวอร์ชั่นที่ให้บริการโดยไม่คิดมูลค่า (free version) และเวอร์ชั่นที่มีค่าธรรมเนียมและการบริการ (paid version) เนื่องจากธีมการแข่งขันในปีนี้คือการพัฒนาเพื่อคืนสิ่งที่ดีกลับสู่สังคม (Hack for Good) บริการในส่วนที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย (free version) มีเป้าหมายที่จะช่วยให้บุคคลทั่วไปสามารถตรวจสอบและเข้าใจผลการเอ็กซเรย์ทรวงอกได้โดยอัตโนมัติ และในส่วนของเวอร์ชันที่มีค่าใช้จ่าย ทีมซันเดย์ มอนิ่งได้พัฒนาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มประกันสุขภาพเพื่อวิเคราะห์สภาพสุขภาพของลูกค้าโดยใช้รายงานเอ็กซ์เรย์ทรวงอกและการตรวจสุขภาพในการคำนวณเบี้ยประกันตามสภาพสุขภาพจริงของลูกค้า
ทั้งนี้ ซันเดย์ มอร์นิ่งได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ในการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันแฮคกาธอนระดับอาเซียนในรอบชิงชนะเลิศ (Grand Finale) ในงาน AWS Summit Singapore 2019 ณ ประเทศสิงคโปร์
นิค วอลตัน กรรมการผู้จัดการ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า "เราขอแสดงความยินดีกับทีมซันเดย์ มอร์นิ่ง ที่ชนะการแข่งขันด้วยโซลูชันอันน่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงหัวข้อ 'Hack for Good' ใน AWS Hackdays 2019 อย่างแท้จริง ด้วยการตอบสนองที่ได้รับนี้ทำให้เรามีกำลังใจ รวมทั้งถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นว่านักพัฒนาได้นำเอาเทคโนโลยีต่างของ AWS รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) แมชชีน เลิร์นนิ่ง (Machine Learning) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และการวิเคราะห์ข้อมูล (data analytics) ไปใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันที่ช่วยขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ดียิ่งขึ้น"
นายภูวิศ วิทิตยานนท์ สมาชิกทีมซันเดย์ มอร์นิ่ง กล่าวว่า "เมื่อพิจารณาถึงโครงการของเรา สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการระบุถึงสิ่งที่เป็นประเด็นและเป็นแนวโน้มที่สำคัญที่ภาค HeathTech กำลังเผชิญอยู่ สิ่งที่เราตระหนักเป็นอย่างดีก็คือ ปัจจุบัน 1ใน 8 ของคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวเนื่องกับระบบทางเดินหายใจ โดยในปี 2560 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงขึ้นกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นความท้าทายก็คือประเทศไทยมีหน่วยเอ็กซ์เรย์มากกว่า 10,000 แห่งแต่มีแพทย์รังสีวิทยาเพียง 1,462 คน ซึ่งจากจำนวนนี้หมายถึงแพทย์ด้านรังสี 15 คนต่อจำนวนประชากร 1,000,000 คนในพื้นที่ห่างไกล ดังนั้น เราจึงคิดถึงโซลูชันนี้ที่เราเชื่อว่าน่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขณะที่ลดเวิร์คโหลดการทำงานของแพทย์รังสีวิทยา พร้อมให้คำแนะนำหรือการเตือนที่ทันท่วงทีด้านสุขภาพเพื่อการรักษาที่ดีขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมในการแข่งขัน Hackdays 2019 ในรอบ Grand Finale เพื่อที่จะพัฒนาต้นแบบของเราต่อไปด้วยเครื่องมือและบริการ AWS ที่หลากหลายให้สามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา"
AWS Hackdays คืองานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อให้ความรู้ และเพื่อการแข่งขันแฮคกาธอน (hackathon) ใน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีนี้ ทีมในภูมิภาคที่เข้าร่วมการแข่งขันได้รับการสนับสนุนให้โชว์เคสงานนวัตกรรม พร้อมทั้งแสดงทักษะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence หรือ AI) และแมชชีน เลิร์นนิ่ง (machine learning หรือ ML) อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) หรือ Modern Applications Centered ภายใต้หัวข้อด้าน HealthTech AgriTech Smart City และ FinTech
สำหรับการแข่งขันแฮคกาธอนในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 345 ทีม พร้อมผู้เข้าร่วมส่งผลงานออนไลน์จำนวน 1,522 คน โดยผลงานที่ส่งประกอบไปด้วยการนำบริการของ AWS มาใช้งาน อาทิ Amazon Sagemaker Amazon Polly Amazon Lex รวมถึงบริการ AWS IoT โดยโซลูชันต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาจะได้รับการประเมินโดยคณะกรรมการซึ่งจะตัดสินโดยอิงจากนวัตกรรมของโซลูชัน (innovation) ผลการกระทบทางธุรกิจ (business impact) การนำไปใช้งาน (implementation) และประสบการณ์ของผู้ใช้ (user experience) ซึ่งมีทีมทั้งหมด 5 ทีมที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อนำเสนอโซลูชันในรายละเอียด ซึ่งซันเดย์ มอร์นิ่งชนะไปในที่สุด
เกี่ยวกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส
เป็นเวลากว่า 13 ปีแล้ว ที่ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส ถือเป็นคลาวด์แพลตฟอร์มที่สมบูรณ์และมีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุดในโลก เนื่องจาก AWS มอบบริการมากกว่า 165 รายการที่ให้คุณลักษณะการทำงานที่สมบูรณ์ที่สุด ทั้งในด้านการประมวลผล สตอเรจ ฐานข้อมูล การเชื่อมต่อเครือข่าย การวิเคราะห์ การใช้งานด้าน robotics แมชชีน เลิร์นนิ่ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปจนถึง อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) โมบาย การรักษาความปลอดภัย ระบบไฮบริด เทคโนโลยี VR (virtual) และ AR (augmented reality) มีเดีย และการพัฒนาแอปพลิเคชัน การนำมาใช้งาน และการบริหารจัดการ จาก 61 Availability Zones (AZs) ใน 20 ภูมิภาค (geographic regions) ครอบคลุมสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อินเดีย ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ สวีเดน และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ บริการของ AWS ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกในการนำไปใช้งานอย่างจริงจังนับหลายล้านรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรดาองค์กรสตาร์ทอัพ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลชั้นนำ เพื่อเพิ่มขุมพลังให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่าย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://aws.amazon.com
เกี่ยวกับอะเมซอน
อะเมซอน ยึดหลักการสำคัญ 4 ประการในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ใส่ใจในลูกค้ามากกว่ามุ่งเน้นที่คู่แข่ง หลงใหลในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม มุ่งมั่นในความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน และคิดยาวไกล โดยลูกค้าให้การรีวิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การช้อปปิ้งได้ภายใน 1 คลิก, ให้คำแนะนำที่ตรงต่อความต้องการส่วนตัว, Prime, Fulfillment by Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, แท็ปเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Echo และ Alexa เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และการบริการที่คิดค้นโดย Amazon รายละเอียดเพิ่มเติม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.amazon.com/about และติดตามได้ที่ @AmazonNews