กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--ปอร์เช่ ประเทศไทย
ปอร์เช่พร้อมลุยตลาดรถสปอร์ตกลุ่มใหม่ด้วยการเผยโฉม คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) เป็นครั้งแรก ของโลก นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธการเสริมทัพต่อยอดความสำเร็จของยนตรกรรมสปอร์ต SUV รุ่นใหญ่ เจเนอเรชันที่ 3 เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าอันหลากหลาย รถสปอร์ตอเนกประสงค์คันล่าสุดนี้ สง่างามโดดเด่นด้วยรูป ทรงตัวถังอันแข็งแกร่ง เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยบ่งบอกเอกลักษณ์ยานยนต์เปี่ยมสมรรถนะสุดโฉบเฉี่ยวดุดัน อย่างแท้จริง
ความเหนือชั้นของคาเยนน์ เวอร์ชันล่าสุด (The new Porsche Cayenne Coupe) เริ่มตั้งแต่เส้นสายรอบตัวถังที่เฉียบคม มุมมองด้านท้ายรถที่เปี่ยมเอกลักษณ์เฉพาะตัว สปอยเลอร์หลังปรับระดับอัตโนมัติ เบาะหลังแบบแยกที่นั่งอิสระ และการออกแบบหลังคาที่แตกต่างกันถึง 2 สไตล์ – หลังคากระจกพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือเลือกติดตั้ง หลังคาคาร์บอนเป็นอุปกรณ์พิเศษ รูปทรงตัวถังเน้นย้ำความสปอร์ต ผสมผสานงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ยกระดับ คาเยนน์ คูเป้ ใหม่ (The new Cayenne Coupe) ให้งามสง่าเหนือล้ำอย่างไร้คู่เปรียบ แนวหลังคาที่ลาดลงจรดท้าย รถคือภาพแห่งความแข็งแกร่งที่ปรากฎท้าทายต่อสายตาทุกคู่เมื่อมองมาที่ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) ปฏิเสธไม่ได้ เลยว่านี่คือยนตรกรรมที่ยืนอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของสปอร์ต SUV ในระดับเดียวกัน แหล่งกำเนิดพลังสมรรถนะชั้นเลิศ 2 ขนาดความจุ ได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อประจำการใต้ฝากระโปรงของคาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) เริ่มด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) สปอร์ต SUV รุ่นล่าสุดนี้สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะเวลา 6.0 วินาที สำหรับรุ่นเรือธง คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ (Cayenne Turbo Coupe) มั่นใจในความแรงเต็มพิกัดจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 4.0 ลิตร V8 ทวิน เทอร์โบ กำลังสูงสุดกว่า 550 แรงม้า (404 กิโลวัตต์) ส่งผลต่ออัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.9 วินาทีเท่านั้น
ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) –ความสำเร็จอันเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของ คาเยนน์ (Cayenne) เมื่อปี 2002 สปอร์ต SUV รุ่นใหญ่คันนี้ได้รับความนิยม อย่างสูงจากลูกค้าทั่วทุกมุมโลกมาอย่างต่อเนื่อง คาเยนน์ (Cayenne) จำนวนมากกว่า 864,200 คัน ถูกส่งมอบถึงมือ ผู้รักในยนตรกรรมอเนกประสงค์สายพันธุ์แรงหรือคิดเป็นยอดจำหน่ายเฉลี่ยต่อปีถึง 50,000 คัน เฉพาะปี 2018 คาเยนน์ (Cayenne) มียอดส่งมอบทั่วโลกสูงถึงประมาณ 71,500 คัน มีเพียงปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) เท่านั้นที่สามารถ สร้างสถิติยอดจำหน่ายส่งมอบเหนือกว่า คาเยนน์ (Cayenne) ทั้งนี้ตลาดหลักที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีคือประเทศจีน และทวีปยุโรป
Detlev von Platen, สมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาดของ Porsche AG ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังที่มีต่อการบุกเบิกแนวทางใหม่ของ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) ทั้งในแง่ของภูมิภาคการขายที่แตกต่าง, ลูกค้ากลุ่มใหม่ และอัตราการเติบโตของตลาดรถสปอร์ตในอนาคต:
ภูมิภาคและกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นเป้าหมายหลักของ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe)
คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) คือผู้พิชิตถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อตลาดในทุกภูมิภาคทั่วโลก แน่นอนว่านี่คือ รถยนต์ที่จะสร้างความตื่นเต้น ประทับใจ ให้แก่ผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความสปอร์ต เต็มพิกัดของ คาเยนน์ (Cayenne) ซึ่งอาจจะหมายรวมถึงลูกค้าเดิมหรือลูกค้ารายใหม่ของปอร์เช่ – ด้วยความ เชื่อมั่นต่อตราสินค้าและศักยภาพในการตอบโจทย์สไตล์การใช้ชีวิต ตลาดของรถ SUV ตัวถังคูเป้ ไม่ได้เกิดขึ้นใหม่ แต่เรากำลังจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ่ายทอดงานออกแบบจาก DNA ของปอร์เช่ครบถ้วน ทุกรายละเอียด ไม่ต้องสงสัยเลยว่า รูปทรงตัวถังของรถคันนี้จะสามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ปอร์เช่ได้อย่างแท้จริง
ในภาพรวมของตลาดทั่วโลก ใครคือกลุ่มลูกค้าของปอร์เช่
กลุ่มลูกค้าของเรามีความแตกต่างหลากหลายและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีเอกลักษณ์ ไม่มีคำนิยามมาตรฐาน สำหรับการเป็น ลูกค้าปอร์เช่ และด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้เราต้องพิจารณาถึงความต้องการสูงสุดของลูกค้าแต่ละราย ในขณะเดียวกัน ลูกค้าของเราก็มีคุณสมบัติบางอย่างร่วมกัน สิ่งนั้นคือความหลงใหลในสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ความทะเยอทะยาน เพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่า และความมีเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับทัศนคติซึ่งเป็นแรกผลักดันส่งผลต่อ ความสำเร็จของพวกเขา เหล่านั้น ลูกค้าของเราให้ความสำคัญกับ ความรู้สึกของบุคคลในครอบครัวอันเป็นที่รักพร้อมดูแลสร้างสรรค์ ความสุขให้เกิดขึ้น เช่นเดียวกับสิ่งที่บุคลากรของปอร์เช่มุ่งมั่นตั้งใจนำเสนอต่อลูกค้าของเราทุกคน มีหลายครั้งที่ลูกค้า ของปอร์เช่เคยขับขี่รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมแบรนด์อื่นมาก่อน แต่เขาก็เปลี่ยนมาใช้รถของเราเมื่อเขาคาดหวังอะไร บางอย่างที่มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ลูกค้าบางท่านผ่านประสบการณ์ใช้รถปอร์เช่ในรุ่นเริ่มต้น หลังจากนั้นพวกเขาจะเริ่ม เสาะแสวงหายนตรกรรมที่ให้สมรรถนะและความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจจะเป็นรุ่น เทอร์โบ (Turbo) หรือ รุ่น จีที (GT) ในกระบวนการดังกล่าว ความพึงพอใจส่วนตัวมีความสำคัญกว่าภาพลักษณ์ภายนอก
การสำรวจและศึกษาเพื่อตัดสินใจทำตลาดรถยนต์ปอร์เช่สักรุ่นหนึ่งมีความสำคัญอย่างไร
ข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทำตลาดรถยนต์ และลูกค้าของเรามีความคิดเห็นที่เป็น รูปธรรมชัดเจน เราได้รับข้อมูลรายงานมากกว่า 300,000 ครั้งในแต่ละปี โดยเป็นการเสนอแนะและ แสดงออกถึงความต้องการต่างๆ แน่นอนว่าปอร์เช่นำเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ดังกล่าวทั้งหมดมาประยุกต์ใช้ใน กระบวนการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้ บ่อยครั้งที่เรานำเสนอแนวคิดผ่านรถยนต์ต้นแบบเพื่อ สำรวจกระแสตอบรับจากลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มบุคคลที่จะเป็นลูกค้าในอนาคต คาเยนน์ (Cayenne) รุ่นล่าสุดคือ กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัด: ในระหว่างการพัฒนาเราได้นำข้อคิดเห็นจำนวนมหาศาลที่ลูกค้าเสนอแนะเกี่ยวกับรถรุ่นที่แล้ว มาพิจารณา ดังจะเห็นได้จากงานออกแบบภายในห้องโดยสารที่สร้างขึ้นโดยอาศัยข้อมูลอ้างอิงตามความต้องการ ของบรรดาผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ต ไทคานน์ (Taycan) เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของความใส่ใจใน รายละเอียด ที่เราได้รับจากความต้องการของลูกค้า นับตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาช่วงเริ่มต้น เราได้สอบถามความคิดเห็นและเสนอ ข้อมูลไปยังลูกค้า เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพที่ควรจะเป็นของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่ จนถึงตอนนี้ เหลือเวลาอีกเพียงไม่นานก่อนที่รถคันดังกล่าวจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เรายังคงสำรวจความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อรับฟังข้อมูลจนกว่ารถคันจริงเผยโฉม
คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) เป็นตัวแทนของรถสปอร์ตจากปอร์เช่ที่เพิ่มเติมความอเนก ประสงค์และอรรถประโยชน์รอบด้าน นี่คือแนวทางการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตใช่หรือไม่
แนวทางในการพัฒนาองค์รวมของเรา ไม่ได้เน้นเพียงแค่ตัวรถเท่านั้น แต่เรายังคงให้ความสำคัญของแบรนด์ DNA อีกด้วย นั่นคือการผสมผสานความสปอร์ตและศักยภาพในการสนองตอบต่อความต้องการในเชิงของคุณภาพระดับสูงสุดซึ่งเป็นจุดขายและภาพสะท้อนในใจของลูกค้าผู้ครอบครองยนตรกรรมปอร์เช่ทุกรุ่นตั้งแต่อดีต ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของปอร์เช่ ทุกคันคือรถสปอร์ตโดยแท้จริง ไม่เว้นแม้แต่ พานาเมร่า (Panamera) มาคันน์ (Macan) หรือ คาเยนน์ (Cayenne) ทั้งหมดล้วนถึงพร้อมด้วยอุปกรณ์และระบบเสริมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรถระดับเดียวกัน ประกอบขึ้นด้วย เอกลักษณ์ที่สืบทอดจากปอร์เช่ 911 (Porsche 911) รถสปอร์ตระดับตำนาน ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เพราะเหตุใด ปอร์เช่จึงได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตรถสปอร์ตพันธ์แท้มาเป็นระยะเวลายาวนาน ทีมงานของเราทุ่มเทปฏิบัติงาน อย่างหนักเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน ในขณะเดียวกัน พวกเรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ นำเสนอรถสปอร์ตหลากหลายรุ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกภูมิภาคทั่วโลก ตัวอย่างเช่น อัตราการเติบโตที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันของกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าในตลาดที่แข็งแกร่ง ความต้องการรถสปอร์ต SUV ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศจีน พร้อมกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถสปอร์ต 2 ประตู
ตัวถังสไตล์คูเป้ คือเทรนด์ที่กำลังมาแรงในรถ SUV คุณมีวิธีการอย่างไรในการสร้างแรงจูงใจให้แก่ลูกค้า ในมุมมองของแบรนด์ปอร์เช่
ปอร์เช่ ยืนหยัดในวิธีการปฏิบัติงานที่ประณีตบรรจง และสนองตอบต่อความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าผู้หลงใหล ในยนตรกรรมสปอร์ตระดับพรีเมียม เพื่อการนี้ บุคลากรของเราคือหัวใจสำคัญตลอดมา ปอร์เช่ถือกำเนิดขึ้นด้วยแรงกาย แรงใจของบุคลากรทุกคน: ฝีไม้ลายมือ ความเชี่ยวชาญที่ละเมียดละไม ความรัก และความหลงใหลที่ฝังแน่นอยู่ในทุก รายละเอียดที่ปอร์เช่เป็นหนึ่งเดียว สามัคคีกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดต่อทุกปัญหาที่เผชิญ นี่คือหลักปรัชญาในการ สร้างสรรค์ผลงาน อันนำมาซึ่งคุณภาพอันโดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ชั้นเลิศ เราต้องการที่จะสร้างความประทับใจ ให้เกิดขึ้นกับลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่มีอายุน้อยลงด้วย คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupe) โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ให้คุณค่ากับ ความพิเศษ และมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ธรรมดา รวมทั้งมีใจรักในการขับขี่รถยนต์สมรรถนะสูง
ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้ (Porsche Cayenne Coupe): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.6 – 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.4 – 9.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ 215 – 212 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ (Porsche Cayenne Turbo Coupe):
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.7 – 8.8 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 11.4 – 11.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 261 – 258 กรัมต่อกิโลเมตร
อัตราการการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐาน สากลที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตรา การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลา เดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใด ก่อนหน้าการทดสอบนี้
สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบ อัตราการการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์เฉลี่ย ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร "Guidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars" [Leitfaden ueber den Kraftstoffverbrauch, die CO2-Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name you can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี