กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์
สัมผัสอัตลักษณ์แห่งแบรนด์ดังกับกิจกรรมทดสอบสมรรถนะยานยนต์บนลู่วิ่ง 2 ระดับ แนวใหม่สุดเร้าใจกลางมหานคร หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจากงานเปิดตัว The All New XC40 เมื่อเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา วอลโว่ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยกิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่จะกลายเป็นท็อคออฟเดอะทาวน์แห่งปี กับงานเปิดตัว "The Volvo Way: Freedom to Experience" พบขบวนรถยนต์รุ่นล่าสุดจากวอลโว่ที่สร้างยอดขายถล่มทลาย มาร่วมทดสอบสมรรถนะบนลู่วิ่ง 2 ระดับที่แฟนวอลโว่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน ณ ใจกลางมหานครกรุงเทพฯ เปิดรอบสำหรับบุคคลทั่วไปในวันที่ 9 - 19 พฤษภาคม 2562 ระหว่างเวลา 11.00 – 22.00 น. ณ ลานมรกต ด้านหน้าห้างเซ็นทรัลชิดลม
"นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย มุ่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับลูกค้าของเราเป็นอันดับแรก จวบจนปัจจุบัน เรายังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสบการณ์ที่พวกเขาจะได้รับทุกครั้งที่มาเยือนศูนย์บริการวอลโว่" มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) กล่าว "ภายในงาน The Volvo Way ในครั้งนี้ เราจะแสดงให้ทุกท่านเห็นว่า วอลโว่ได้เดินทางมาไกลเพียงใดในการก้าวข้ามขีดจำกัดของโลกยานยนต์"
"วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และเหล่าพันธมิตรของเรา มุ่งมั่นนำเสนอบริการที่ดีที่สุด พร้อมมอบประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศที่เหนือความคาดหมายของทุกท่าน ทำให้ในปัจจุบัน ลูกค้าวอลโว่มีทางเลือกมากมายในการเข้ารับบริการเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างสมบูรณ์แบบ กิจกรรม The Volvo Way ในวันนี้ เพื่อนำเสนอรถยนต์ของเราสู่ลูกค้าโดยตรง โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าเดินทางมาหาเรา ซึ่งทุกท่านจะไม่เพียงได้สัมผัสกับสมรรถนะรถยนต์ของเราในทุกสภาพถนนเท่านั้น หากจะเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของเราในการก้าวสู่ความยั่งยืน การนำเสนอดีไซน์ร่วมสมัยสไตล์สแกนดิเนเวียน การเชื่อมต่อออนไลน์ภายในห้องโดยสาร และเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นเลิศ โดยวอลโว่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยระบบส่งกำลังแบบใหม่และอุปกรณ์ไฮเทคที่ล้ำสมัยที่สุด ร่วมกับการทำงานกับบรรดาพันธมิตรผู้ค้าปลีก เพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เปี่ยมด้วยอิสระเสรี ความปลอดภัย โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมุ่งสู่แนวทางที่ยั่งยืนแก่ลูกค้าของเรา"
มร.ฌอง-เดวิด อาเรล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "สำหรับการดำเนินงานขั้นแรก วอลโว่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางจากการนำเสนอแคมเปญทั่วไป สู่ 'การบอกเล่าเรื่องราว' เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าชาวไทยให้มากยิ่งขึ้น โดยในปี 2560 เราได้ริเริ่มแคมเปญ S90 Pure Power ซึ่งบอกเล่าสาระสำคัญของเราในด้านเทคโนโลยียานพาหนะแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-In Hybrid Electric Vehicle - PHEV) และทิศทางในอนาคตของการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเราได้สร้างป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์เพื่อบอกเล่าถึงแนวคิดพลังงานสะอาดอันโดดเด่นและงานดีไซน์ไฟของเทพเจ้าธอร์อันเป็นซิกเนเจอร์ของเรา นอกจากนี้ เรายังติดตั้งสายล่อฟ้าเพื่อแปลงพลังงานจากฟ้าผ่าให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้แสงสว่างได้อย่างน่าตื่นตาและน่าประทับใจ ซึ่งสิ่งนี้คือสาระสำคัญของแนวคิดยานพาหนะแบบปลั๊กอินไฮบริดของเครื่องยนต์รุ่น T8 Twin Engine ของเรา จนกลายเป็นที่สนใจในสังคมโซเชียลมีเดียและกระตุ้นการประชาสัมพันธ์ของวอลโว่ในการสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ใช้โซเชียลมีเดียชาวไทยได้เป็นอย่างดี แคมเปญนี้ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Gold Award จากงาน Adfest 2018 Thailand ในประเทศไทย และ Ad Stars 2018 ในประเทศเกาหลีใต้"
"สำหรับงาน The Volvo Way: Freedom to Experience ครั้งนี้ เราเดินหน้าจากการบอกเล่าเรื่องราว ไปสู่ 'การดำเนินเรื่องราว' โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอประสบการณ์ระดับพรีเมียมที่แท้จริงสู่ผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งไม่เพียงแค่เทคโนโลยีชั้นเลิศทั้งหมดในรถยนต์รุ่น XC40, XC60 และ XC90 เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบประสบการณ์ด้านความปลอดภัย ความยั่งยืน และอิสรภาพส่วนบุคคลที่แท้จริง เราต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีและแบ่งปันช่วงเวลาอันน่าประทับใจกับผู้บริโภคชาวไทย เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยมีโอกาสสัมผัสถึงความหรูหราในแบบสวีดิชและดีไซน์ล้ำสมัยสไตล์สแกนดิเนเวียนให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนของเรา และแน่นอน ทั้งหมดล้วนต้องตั้งอยู่บนทัศนคติที่ดีด้วยเช่นกัน"
หลักการสำคัญ 3 ประการของวอลโว่ (3 BRAND PILLARS)
1) ความปลอดภัย (Safety)
ฉลองครบรอบ 60 ปี นวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด
วอลโว่ภาคภูมิใจในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความปลอดภัย หนึ่งในนวัตกรรมของเราคือเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ซึ่งวอลโว่นำเสนอสู่ตลาดยานยนต์เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1959 และได้มอบความปลอดภัยให้แก่ผู้คนมาแล้วมากกว่า 1 ล้านชีวิตทั่วโลกทั้งในรถยนต์วอลโว่และรถยนต์แบรนด์อื่น ๆ เนื่องจากวอลโว่ได้แบ่งปันสิ่งประดิษฐ์นี้แก่ผู้ผลิตรายอื่น ๆ เพื่อร่วมกันยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะ วอลโว่ คาร์ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นหลักอันเป็นเสมือนดีเอ็นเอของเรา และเรามุ่งนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเสมอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความสูญเสียของผู้ใช้รถใช้ถนน
โครงการ Project E.V.A.
หลังการฉลองครบรอบ 60 ปีนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัย วันนี้ วอลโว่ยังได้ฉลองอีกหนึ่งหลักชัยสำคัญแห่งวัฒนธรรมการแบ่งปันที่อยู่เหนือเรื่องสิทธิบัตรและผลิตภัณฑ์ใด ๆ โดยได้เปิดตัวโครงการ Project E.V.A. เพื่อการแบ่งปันองค์ความรู้เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เท่าเทียมและทำให้การแบ่งปันเป็นเรื่องพื้นฐานของอุตสาหกรรม โดยการพัฒนาความปลอดภัยของรถยนต์ได้ถูกยกระดับขึ้นเพื่อเน้นปกป้องสรีระของผู้โดยสารหญิงเมื่อเกิดการชนปะทะ ภายใต้แนวคิด "รถยนต์ต้องปกป้องผู้โดยสารทุกคนได้" โดยไม่จำกัดเฉพาะการปกป้องสรีระผู้โดยสารชายเท่านั้น
วอลโว่ตั้งเป้าหมายสานต่อสถานะผู้นำในโลกยานยนต์ระดับโลก ทั้งในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย การใช้พลังงานไฟฟ้า และการขับขี่อัตโนมัติ และเรายังคงท้าทายตนเองอย่างต่อเนื่อง วันนี้ เรายังเป็นผู้นำด้านโซลูชั่นระบบการขับขี่อัตโนมัติและนำเสนอเทคโนโลยีของเราให้เป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานของรถยนต์นับตั้งแต่รุ่น XC40 ไปจนถึง XC90 พร้อมเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคทุกระดับ
2) ความยั่งยืน (Sustainability)
Pure Mode: พลังงานอันทรงประสิทธิภาพจากวอลโว่และสุดยอดสมรรถนะที่ไม่เป็นรองใคร
อนาคตของการขับเคลื่อนด้วยยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด และไฮบริด จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการเดินทางของเราทุกคน โดยโหมดการขับขี่ Pure Mode จะใช้แหล่งพลังงานเดี่ยวเมื่อแบตเตอรี่พลังสูงได้รับการประจุไฟจนเต็ม นักขับสามารถสัมผัสโหมดการขับขี่นี้ได้ในรถยนต์รุ่น XC90 T8 โดยเฉพาะในสภาพการจราจรของเมืองใหญ่ที่ต้องหยุดรถสลับกับเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา
XC90มอบประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราอย่างสมบูรณ์แบบและเพียบพร้อมด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุด กำลังเครื่องยนต์ และประสิทธิภาพการขับขี่ทั้งในด้านการประหยัดเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสีย โดยโหมดการขับขี่ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Comfort และ Off-road ล้วนมีเสน่ห์ในการขับขี่ที่แตกต่างกันที่นักขับทุกคนจะต้องหลงใหล
เรายังตั้งเป้าหมายให้รถยนต์ 50% ที่เราจำหน่ายภายในปี คศ.2025 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งวอลโว่ได้ประกาศความมุ่งมั่นนี้เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่ปี 2017 ว่ารถยนต์ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป จะต้องเป็นรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดหรือรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น
การรีไซเคิลวัสดุและการลดขยะพลาสติก
วอลโว่ประกาศว่า นับตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป พลาสติกอย่างน้อย 25% ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่จะต้องมาจากพลาสติกรีไซเคิล และเพื่อการบรรลุเป้าหมายนี้ บริษัทได้มุ่งพัฒนาส่วนประกอบรถยนต์รุ่นใหม่ให้สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเฉพาะการใช้พลาสติกรีไซเคิลให้มากขึ้น ซึ่งความมุ่งมั่นนี้เห็นได้จากการที่บริษัทเปิดตัวรถยนต์เอสยูวี XC60 T8 plug-in hybrid SUV รุ่นพิเศษที่ดูเหมือนกับรุ่นปกติในปัจจุบันทุกประการ เพียงแต่ส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกเดิม ถูกแทนที่ด้วยพลาสติกรีไซเคิลที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากัน
ห้องโดยสารภายในของ XC60 ติดตั้งแท่นคอนโซลกลางที่ทำจากวัสดุไฟเบอร์และพลาสติกที่นำกลับมาใช้ซ้ำจากตาข่ายจับปลาและเชือกในเรือประมงที่ไม่ใช้งานแล้ว สำหรับพื้นห้องโดยสาร ปูด้วยพรมที่ใช้เส้นใยจากขวดน้ำพลาสติกและส่วนผสมของฝ้ายรีไซเคิลที่นำมาจากเศษเหลือของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า อีกทั้งเบาะนั่งจากรถยนต์วอลโว่คันเก่ายังถูกนำมาใช้เพื่อผลิตวัสดุดูดซับเสียงใต้ฝากระโปรงรถ วอลโว่ยังพยายามผสมผสานพลาสติกเหลือใช้เข้ากับการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ โดยคาดหวังว่าจะเป็นแบบอย่างให้ผู้ผลิตรายอื่นในตลาดยานยนต์ และนี่คือข้อพิสูจน์ว่าปัญหาพลาสติกสามารถเยียวยาได้ผ่านกระบวนการออกแบบและการคิดค้นนวัตกรรม
3) อิสรภาพส่วนบุคคล (Personal)
ในฐานะบริษัทสัญชาติสวีดิช การตัดสินใจทุกครั้งของเราล้วนส่งผลถึงโลกและชีวิตของผู้คน ดังนั้นเราจึงกำหนดให้ผู้คนมีความสำคัญสูงสุดในการทำงานทุกด้านของเรา ซึ่งทำให้เราคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบในการปฏิบัติงานของเราทุกครั้ง โดยเราเรียกสิ่งนี้ว่า "omtanke" (ภาษาสวีเดนแปลว่าความใส่ใจ) ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการทำงานของเรา ทุกสิ่งล้วนเริ่มต้นจากผู้คน พันธกิจในการทำให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และดียิ่งขึ้น ถือเป็นสิ่งที่เรายึดถือเป็นหลักสำคัญ และนี่คือวิถีทางแห่งวอลโว่
แนวทางการออกแบบและสร้างประสบการณ์ของผู้ขับขี่ตั้งอยู่บนปรัชญาที่ว่า "วัฏจักรแห่งชีวิต" นั่นคือ การพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งอยู่บนองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคและข้อมูลจากชีวิตจริง เรามีแรงบันดาลใจแบบสแกนดิเนเวียน นั่นคือการผสมผสานความเรียบง่าย ความงาม และประโยชน์ใช้สอยเข้าด้วยกัน ดีไซน์แบบสแกนดิเนเวียนที่ดีที่สุดจึงมักเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเพื่อให้ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างเรียบง่าย
รถยนต์รุ่นใหม่จากวอลโว่ทุกรุ่นคือผลิตภัณฑ์ของสวีเดน ประเทศที่มีสังคมเป็นเอกลักษณ์และสไตล์ที่โดดเด่น ซึ่งความเชื่อมั่นอันสงบนิ่งและการให้ความสำคัญกับแสงและวัสดุจากธรรมชาติถูกนำมาผสานกัน เพื่อยกระดับวิถีชีวิตแบบชาวสวีดิชและดีไซน์สมัยใหม่สไตล์สแกนดิเนเวียน
รถยนต์ทั้งหมดในตระกูล XC ตั้งแต่ XC40 – XC60 – XC90 ไปจนถึง S90
* New Volvo XC40 เอสยูวีรุ่นแรกของวอลโว่ภายใต้แนวคิด "Designed to Break the Norms"
รถยนต์ New XC40 เป็นเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่ติดตั้งนวัตกรรมเต็มรูปแบบ และทำให้วอลโว่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เอสยูวีได้ครอบคลุมทุกขนาดในตลาด รวมถึงในประเทศไทย โดย XC40 รุ่นใหม่นี้มอบดีไซน์ที่น่าหลงใหล ระบบจัดเก็บสัมภาระที่ชาญฉลาด และเทคโนลีอัจฉริยะครบครัน นับเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของอิสรภาพแห่งการเดินทางบนแนวทางที่ยั่งยืน โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และปลอดภัย รถรุ่นนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยการจัดพื้นที่ใช้สอยและการจัดเก็บสัมภาระอย่างชาญฉลาด ซึ่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าที่ติดตั้งมาเป็นฟังก์ชั่นมาตรฐาน และแสดงถึงวิถีชีวิตที่ยอดเยี่ยมในแบบสวีดิชที่แท้จริง! วอลโว่ XC40 ยังมีความปลอดภัยมากกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและการรองรับสรีระชั้นเยี่ยม ซึ่งนำมาจากรถรุ่นใหญ่อย่างตระกูล XC90 และ XC60 เพื่อช่วยตอบโจทย์ความท้าทายที่ซับซ้อนของการเดินทางในเมืองใหญ่ในปัจจุบัน
* Volvo XC60 โดดเด่นด้วยแนวคิด Arrive like never before
XC60 เป็นเอสยูวีขนาดกลางระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายสูงสุดที่ 1,00,000 คันทั่วโลกในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา รถยนต์รุ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของวอลโว่ได้อย่างชัดเจน พร้อมด้วยงานออกแบบที่กระตุ้นเร้าแรงบันดาลใจ ผสานกับความหรูหรานำสมัยและเสน่ห์อันยากจะห้ามใจแก่ทุกคนที่พบเห็น
XC60 นำผู้ขับขี่เอสยูวีสู่โลกแห่งคุณภาพในการผลิต สไตล์ที่โดดเด่น ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ และเอสยูวีเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยโซลูชั่นอันชาญฉลาด พร้อมสัมผัสประสบการณ์ระบบเสียงสุดล้ำจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Bowers & Wilkins ซึ่งความสำเร็จของ XC60 เอสยูวีที่ขายดีที่สุดในยูโรป เกิดจากการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีของวอลโว่ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย และการให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์บรรยากาศและการยกระดับอารมณ์ความรู้สึกขณะขับขี่ เพื่อให้คุณได้เป็นตัวของคุณเองในแบบฉบับที่ดีที่สุด
* Volvo XC90 เอสยูวีขนาดใหญ่ที่ขายดีที่สุด
เอสยูวีระดับหรูขนาด 7 ที่นั่งที่ผสานลุคโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตและความภูมิฐานไว้ได้อย่างลงตัว มอบสไตล์ที่ดึงดูดทุกสายตาทุกครั้งที่ปรากฏบนท้องถนน ด้วยตะแกรงหน้าสีดำวาววับแบบ Piano Black ขอบโลหะกระจกข้างและกระจกหูช้างแต่งผิวสัมผัสสุดหรู พร้อมท่อไอเสียคู่ที่ดูบึกบึน ห้องโดยสารภายในบุหนัง Fine Nappa และผ้า Nubuck เสริมความสวยงามด้วยผิวลายตาข่ายโลหะให้ลุคแบบเครื่องกลไกและพื้นผิวที่หรูหรา ทันสมัย แข็งแกร่ง ภูมิฐาน และการรองรับสรีระผู้ขับได้อย่างมั่นคง
XC90 ผสานความหรูหรา สะดวกสบาย และสไตล์ที่แตกต่าง เข้ากับขุมพลังเครื่องยนต์ T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ที่ล้ำหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
* S90 ให้คุณค้นพบความหรูหราแบบสแกนดิเนเวียนที่แท้จริง
วอลโว่นำเสนอ S90 เพื่อแสดงถึงความเชื่อของเราที่ว่า รถยนต์ต้องมุ่งตอบสนองความต้องการและความปรารถนาของคุณเป็นอันดับแรก ทำให้ทุกรายละเอียดของ S90 บ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณได้ดีที่สุดและประจักษ์ได้อย่างชัดเจนทันทีที่มองเห็น ทั้งจากตะแกรงหน้าและตะแกรงล่างสีดำขลับของการแตกแต่งในแบบ R-Design และการติดตั้งกันชน ล้ออัลลอย และท่อไอเสียแบบกลมกลืนกับเข้าตัวรถ ซึ่งทำให้รถยนต์รุ่นนี้มอบความโดดเด่นในทุกมุมมอง
S90 นำเสนอแนวคิดแห่งความหรูหรา สมดุลแห่งเทคโนโลยีขั้นสูง สมรรถนะอันน่าประทับใจ และห้องโดยสารที่กว้างขวางโออ่า
สำหรับการตกแต่งภายใน ทั้งเบาะนั่ง พวงมาลัยและแป้นเกียร์ ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์และเส้นขอบสีดำ เพื่อสร้างบรรยากาศที่จริงจังและเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นของคุณ พร้อมมอบความนุ่มสบายจากหนังฉลุลาย Nubuck Fine Nappa Perforated Leather
S90 คือสุดยอดยานพาหนะที่ภูมิฐานเพื่อการขับขี่ในทุกวันของคนที่เหนือระดับเช่นคุณ
อย่าพลาด! ร่วมชมการถ่ายทอดสดงานเปิดตัว The Volvo Way: Freedom to Experience ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ได้ในวันที่ 8 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลาทุ่มตรงเป็นต้นไป! โดยมี "คริส หอวัง" และ "พีเค"
ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร มาร่วมนำเสนอปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ ณ ใจกลางมหานครกรุงเทพฯ แฟนวอลโว่สามารถมาสัมผัสกิจกรรมด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 19 พฤษภาคม 2562 ในเวลา 11.00 – 22.00 น. ณ ลานมรกต ด้านหน้าห้างเซ็นทรัลชิดลม