กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ซัมซุงสานต่อวิสัยทัศน์โครงการเพื่อสังคมด้านการศึกษา "Samsung Smart Learning Center ซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต" ผ่านแนวคิด 'ห้องเรียนแห่งอนาคต' สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ผ่านนวัตกรรมและกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ สนับสนุนให้เยาวชนพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นำเยาวชนร่วมโครงการเรียนรู้ผักพื้นบ้าน ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างสรรค์เมนูใหม่จากวัตถุดิบในชุมชน
โรงเรียนขุนยวมวิทยา จ.แม่ฮ่องสอน เป็นหนึ่งในโรงเรียนในโครงการ Samsung Smart Learning Center ซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต โครงการเพื่อสังคม ของบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ที่ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 มีเป้าหมายส่งเสริมและพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ให้แก่เด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศ โดยนำเทคโนโลยีมาสร้างแรงบันดาลใจ เปิดพื้นที่ในการเรียนรู้ใหม่ๆ รวมทั้งโอกาสในการค้นหาศักยภาพตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่โลกอนาคต รวมถึงแบ่งปันการค้นพบของตนกับชุมชนและสังคมที่อาศัยอยู่
ส้มปี้ มะหนามโก๊ง ผักกูด ผักหนอก เต่าร้าง มะกอกป่า ผักพื้นบ้านเหล่านี้ถึงแม้จะสามารถนำมาประกอบอาหารได้ แต่น้อยคนนักที่จะเคยลิ้มลอง เด็กๆ โรงเรียนขุนยวมวิทยา จังหวัดแม่ฮ่องสอนก็เช่นกัน พวกเขาไม่คุ้นเคยและไม่รู้ว่าผักหลายชนิดที่พบเห็นในพื้นที่สามารถนำมารับประทานได้
คุณครูวัชรชัย ทะสม หรือครูเชเช่ ครูที่ปรึกษาโครงการ Samsung Smart Learning Center โรงเรียนขุนยวมวิทยา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เล่าถึงโครงงานการเรียนรู้เรื่อง 'ผักพื้นบ้าน' ว่า "วัตถุประสงค์หลักของการนำกิจกรรมนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียนแห่งอนาคตก็เพื่ออยากให้เด็กๆ ได้นำผักพื้นบ้านที่ปลอดสารและมีอยู่แล้วในพื้นที่ชุมชนโดยไม่ต้องซื้อหามารับประทาน ที่สำคัญได้สืบทอดภูมิปัญญาเรื่องพืชพรรณและอาหารท้องถิ่น รวมทั้งสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ ขึ้นจากวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในชุมชน โดยได้เริ่มจากชักชวนให้เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในซัมซุงดิสคัฟเวอรี่คลับ จำนวน 30 คนเข้าร่วมโครงการนี้"
"กระบวนการเรียนรู้เริ่มต้นที่เรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว เริ่มโดยครูให้เด็กแบ่งกลุ่มพากันไปเดินตลาด ทำความรู้จักผักพื้นบ้านที่มีวางขาย และให้เลือกผักพื้นบ้านมากลุ่มละชนิด พอเลือกเสร็จ ขั้นต่อไปก็ให้เด็กๆ ระดมสมองกันว่าผักที่เลือกมานี้ทำเป็นอาหารท้องถิ่นอะไรได้บ้าง เราอยากให้เด็กรู้จักผักในแหล่งที่อยู่ในธรรมชาติของมัน จึงพาเด็กไปหาวัตถุดิบจากแหล่งจริงๆ"
จากวัตถุดิบ การเรียนรู้เดินทางมาสู่ขั้นตอนการปรุง "ในขั้นตอนนี้ครูมีโจทย์ให้ว่า อาหารท้องถิ่นต้องให้วิทยากรท้องถิ่นเป็นคนสอนให้ทำ อยากให้เด็กๆ ได้กลับไปถามพ่อแม่ คนแก่คนเฒ่า ในชุมชนของเขา คุยกันเรื่องอาหารจานดั้งเดิม ว่าเคยทำกินกันแบบไหน ใช้อะไรเป็นเครื่องปรุง"
ระหว่างทางของการเรียนรู้ เด็กๆ ชิมรสผักพื้นบ้าน มีความขมฝาด รสชาติที่ไม่คุ้นเคยทำให้เด็กๆ สรุปได้ว่าไม่อร่อย ทำให้เกิดโจทย์ใหม่ที่ครูท้าทายลูกศิษย์ให้สร้างสรรค์อาหารสูตรใหม่ในรสชาติที่เด็กๆ อยากทานและเป็นอาหารนานาชาติเพื่อชวนให้เด็กๆ ตื่นเต้นสร้างสรรค์อาหารที่แตกต่าง
ตลอดระยะเวลา 10 เดือน เด็กๆ ได้ร่วมกันค้นคิดสูตรอาหาร ทดลองปรุง ชิม ปรับสูตร จนกว่าจะได้สูตรอาหารจานใหม่ที่มีผักพื้นบ้านรสชาติที่โดนใจทั้งตัวเองและเพื่อนๆ
"สนุกดีครับ ผมไม่เคยกินผักส้มปี้มาก่อน แต่พอต้องมาทำโครงงาน แล้วคิดเมนูก็ต้องชิม ตอนแรกเราทำยำส้มปี้ก่อน มันขมๆ ครับ ผมก็ไม่ค่อยชอบ แต่พอต้องทำเมนูของตัวเอง เป็นส้มปี้โรล ผมว่ารสชาตใช้ได้และทานได้มากกว่าเดิม" เด็กชายกรกฏ ลีภาคภูมิพานิชย์ นักเรียนชั้น ม.2 กล่าว
เมื่อเวลาการทำโครงงานสิ้นสุดลง ผลงานของนักเรียนได้ถูกจัดแสดงพร้อมกิจกรรมโชว์ปรุงอาหารจานเด็ดจากผักพื้นบ้าน ในงานมหกรรมสุขภาวะ อำเภอขุนยวม ประจำปี 2562 ณ วัดม่วยต่อ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่มาร่วมงาน ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าผักป่าพื้นบ้านนั้นจะแปลงเป็นอาหารจานอินเตอร์ที่เร้าใจอย่าง
"ทาโกะยากิผักกูด" "ผักหนอกอบชีส" "ไข่กระทะผักเต่าร้าง" "สเต็กซอสมะกอกป่า" "สลัดโรลส้มปี้" และ "ข้าวผัดอเมริกันมะหนามโก๊ง"
ความสำเร็จไม่ใช่เพียงตำรับอาการผักพื้นบ้านจานนานาชาติ ที่เด็กๆ ลงมือปรุง ชิม คิดปรับสูตรมาอย่างเข้มข้น หรือ ผู้ปกครองในชุมชนที่แวะมาชิมผลงานเด็กๆ ด้วยความตื่นเต้น สิ่งสำคัญคือประสบการณ์การเรียนรู้ที่เด็กๆ ได้เข้าไปสำรวจทุนชีวิตที่มีอยู่ใกล้ตัว ได้แก่ ผักพื้นบ้าน ความรู้ดั้งเดิม และความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อปรับให้ของเดิม เช่นผักพื้นบ้าน เพิ่มคุณค่าและกลับมาอยู่ในชีวิตคนรุ่นใหม่อีกครั้ง
ติดตามข่าวสารจากซัมซุงล่าสุดได้ที่ ห้องข่าวซัมซุง ประเทศไทย (Samsung Newsroom Thailand) https://news.samsung.com/th/