กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) เตรียมจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ หรือคิดเป็นอัตราหุ้นละ 0.01667 บาท และจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.00190 บาท รวมการจ่ายเงินปันผลทั้ง 2 รูปแบบ เป็นจำนวน 0.01857 บาท/หุ้น โดยมีกำหนดจ่ายวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ด้านผู้บริหาร "พนม ควรสถาพร" ย้ำเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งถ่านหิน และการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ และทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า หนุนรายได้เป็นไปตามเป้า 9,000 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ หรือคิดเป็นอัตราหุ้นละ 0.01667 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 30.22 ล้านบาท และจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.00190 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 3.45 ล้านบาท ซึ่งรวมการจ่ายเงินปันผล ทั้ง 2 รูปแบบคิดเป็นการจ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.01857 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 33.66 ล้านบาท เพื่อจ่ายปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 นี้
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมธุรกิจในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ และทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า เพื่อต่อยอดธุรกิจการนำเข้าและจำหน่ายถ่านหิน อย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการ ปรับปรุงพื้นที่ และพัฒนาท่าเรือเพิ่มเติม เป็นท่าที่ 3 จากเดิมที่มีท่าเรือในการให้บริการอยู่แล้ว จำนวน 2 ท่า ในบริเวณคลังสินค้า อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2562 นี้ ซึ่งหากแล้วเสร็จก็ยิ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพ ด้านการขนถ่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนเรือลำเลียง จำนวน 24 ลำ และในปี 2562 บริษัทได้มีการสั่งต่อเรือลำเลียงเพิ่มเติมอีกจำนวน 16 ลำ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกองเรือลำเลียงทั้งหมดเป็น 40 ลำ จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนกองเรือดังกล่าว จะสามารถรองรับความต้องการใช้บริการขนส่งทางน้ำ ของกลุ่มผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในเชิงรุกข้างต้น และการขยายช่องทางการตลาดไปยังต่างประเทศ ทั้ง เวียดนาม จีน และ กัมพูชา จะส่งผลให้ปีนี้การเติบโตของรายได้รวมเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 9,000 ล้านบาท บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมในปี 2562 ไว้ที่ระดับ 9,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้าที่ 10% ส่วนเป้าปริมาณการขายถ่านหินปีนี้ตั้งไว้ที่ ระดับ 4 ล้านตัน